CEO ธนาคาร UBS ยังหวั่นวิกฤตเงินเฟ้อ แม้เฟดมองเศรษฐกิจปีหน้ามีสัญญาณบวก

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว และแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงเริ่มชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงวางแผนคุมเข้มนโยบายการเงินในปีหน้า

แหล่งข่าว 7 แหล่งเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังอยู่ในระหว่างจับตาทิศทางสถานการณ์เงินเฟ้อและแนวโน้มด้านอื่นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ก่อนจะพิจารณาผ่อนคลายนโยบายการเงิน (dovish pivot) แบบเดียวกับที่เฟดดำเนินการ

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ Sergio Ermotti ซีอีโอของยูบีเอส (UBS) ธนาคารยักษ์ใหญ่สัญชาติสวิส ให้ความเห็นกับหนังสือพิมพ์ Le Matin Dimanche ว่า การทำนายอนาคตของเศรษฐกิจระยะสั้นเป็นเรื่องยาก ดังนั้น ในปัจจุบัน ตนยังไม่เชื่อมั่นว่าสถานการณ์เงินเฟ้อสามารถควบคุมได้

ตนยอมรับว่าแนวโน้มเศรษฐกิจดูดีขึ้น แต่ยังต้องจับตาว่าสถานการณ์จะเป็นไปในทิศทางบวกตลอดหรือไม่ ถ้าสถานการณ์เงินเฟ้อในประเทศเศรษฐกิจหลัก ลดลงมาแตะ 2% ตามเป้า ธนาคารกลางอาจผ่อนคลายนโยบายการเงินได้บ้าง ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้ ความยืดหยุ่นในการปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญมากในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

ธนาคารยูบีเอส (UBS) ประกาศว่า เพื่อเป็นการลดต้นทุนดำเนินงาน ทางธนาคารจะปลดพนักงานราว 3,000 คนในสวิตเซอร์แลนด์ หลังธนาคารเครดิต สวิส (Credit Suisse) เข้าซื้อกิจการ ซึ่งเป็นการควบรวมธนาคารที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินของโลก โดยรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ถือว่ามีบทบาทในการช่วยพยุงฐานะการเงินของเครดิต สวิส ไม่ให้ล้มละลาย

Ermotti เน้นย้ำว่ายูบีเอสจะพยายามลดผลกระทบจากการปลดพนักงาน โดยจะดำเนินการตามหลักความเหมาะสม เช่น รอการเกษียณอายุ หรือการลาออกโดยสมัครใจ ไม่ใช่การไล่ออกโดยตรง พร้อมยืนยันว่า การปลดพนักงานไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถ แต่เป็นผลมาจากการควบรวมกิจการ และจำนวนพนักงานที่ต้องปลดจริงคาดว่าจะน้อยกว่า 3,000 คน

ทั้งนี้ ซีอีโอของยูบีเอสกล่าวย้ำว่า สิ่งที่ยากที่สุดคือการต้องตัดสินใจเลือกปลดคนออก ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลย