posttoday

วิวัฒนาการในการรักษามะเร็ง จากอดีตสู่ปัจจุบัน

04 มกราคม 2567

มะเร็ง อีกหนึ่งโรคร้ายที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของไทยและอันดับต้นๆ ของโลก ถือเป็นโรคอันตรายที่สร้างภาระแก่ร่างกายทั้งในการก่อโรคจนขั้นตอนการรักษา วันนี้เราจึงมาย้อนดูกันสักนิดว่า ในอดีตการรับมือและรักษามะเร็งทำกันเช่นไร

เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าช่วยให้เรารักษาและป้องกันโรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนได้มากมาย ตั้งแต่อหิวาตกโรค, ฝีดาษ, กาฬโรค, เอดส์ ไปจนไข้หวัดใหญ่ชนิดต่างๆ โรคเหล่านี้ล้วนคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย แต่ปัจจุบันเรามีวิธีป้องกัน ยับยั้ง ไปจนรักษาอาการให้หายดี ช่วยให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ จนบางโรคหายสาบสูญไปจากสังคมในที่สุด

 

         อย่างไรก็ตามโรคภัยหลายชนิดยังคงสร้างปัญหาแม้ในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นคือโรคมะเร็ง โรคที่ถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลก และเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุดมาตลอดหลายปี ที่เรายังจำเป็นต้องพัฒนาหนทางรับมือและรักษาต่อไป เพื่อเพิ่มคุณภาพและอัตราการรอดชีวิตแก่ผู้ป่วยหลายล้านรายทั่วโลก

 

         แน่นอนว่ามะเร็งไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นแต่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มายาวนาน วันนี้เราจึงมาย้อนดูกันว่าผู้คนในอดีตมีแนวทางรับมือและรักษามะเร็งกันอย่างไร

 

วิวัฒนาการในการรักษามะเร็ง จากอดีตสู่ปัจจุบัน

 

การค้นพบและรักษามะเร็งเริ่มต้นตั้งแต่ยุคอียิปต์

 

         อันที่จริงมะเร็งเป็นโรคที่อยู่คู่กับมนุษยชาติมายาวนานนับแต่อดีต มีร่องรอยเซลล์มะเร็งภายในซากศพดึกดำบรรพ์ อาการเจ็บป่วยที่มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งหลายชนิดได้รับการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรนับตั้งแต่ยุคก่อนคริสตกาลหลายพันปี แสดงให้เห็นว่าโรคชนิดนี้อยู่คู่กับคนเรามาเป็นเวลานาน

 

         แนวทางรักษามะเร็งเริ่มต้นได้รับการพูดถึงเป็นครั้งแรกจากบันทึกของแพทย์ชาวอียิปต์โบราณ โดยเป็นบันทึกจากยุคของ ฟาโรห์อิมโฮเตป ในยุคสมัย 2,600 ปีก่อนคริสตกาล อาศัยการกรีดลงบนตำแหน่งที่เกิดเนื้องอก จากนั้นจึงทำการพอกตัวยาที่ถูกปรุงเป็นการเฉพาะเพื่อให้เนื้องอกมีขนาดเล็กลง

 

         อีกหนึ่งอารยธรรมที่มีการบันทึกเกี่ยวกับมะเร็งและเนื้องอกอย่างชัดเจนคือ กรีก มีการค้นพบบันทึกการเจ็บป่วย รวมไปถึงได้ทดสอบการผ่าตัดเอาเนื้องอกบางส่วนออก แต่แนวทางรักษาของในช่วงเวลานั้นพวกเขาเชื่อว่ามะเร็งเกิดจากสมดุลทางอารมณ์ผิดเพี้ยน จึงเน้นการรักษาจากภายนอกมากกว่า

 

         นอกจากอียิปต์และกรีกแล้วทั่วโลกยังมีร่องรอยหลักฐานเกี่ยวกับอาการและแนวทางรักษามะเร็งอยู่ทั่วไป ตั้งแต่โรมัน, จีน หรืออินเดียที่มีการปรากฏหลักฐานตามบันทึกและวรรณกรรมต่างๆ แต่แนวทางรักษาในเวลานั้นมีทั้งการตัดเนื้องอกออก, พอกยา, ใช้อาหารชนิดพิเศษกับสมุนไพร, ใช้สารหนู ไปจนการใช้ไฟเผาบริเวณเนื้องอกเพื่อทำการรักษา

 

         อย่างไรก็ตามแพทย์ในยุคก่อนพบว่าแม้พวกเขาจะใช้สารกัดกร่อน ผ่าออก ไปจนใช้ไฟเผา โอกาสที่เนื้องอกหรือมะเร็งจะกลับมาเกิดขึ้นและลุกลามในร่างกายก็มีสูง จึงมักได้รับคำแนะนำว่าให้ไม่ต้องทำการรักษาแต่เน้นการให้ยาจากภายนอกเป็นหลัก รวมถึงการหันไปพึ่งพาความเชื่อต่างๆ

 

         จวบจนโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งวิทยาศาสตร์ที่การรักษามะเร็งเริ่มได้รับการพัฒนาเป็นรูปเป็นร่าง

 

วิวัฒนาการในการรักษามะเร็ง จากอดีตสู่ปัจจุบัน

 

ความเปลี่ยนแปลงจากวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้า

 

         จริงอยู่แนวทางรักษาของแพทย์ในอดีตเต็มไปด้วยข้อจำกัดและเรื่องชวนให้ตั้งคำถามมากมาย แต่ต้องยอมรับว่านั่นเกิดจากขีดจำกัดของเทคโนโลยียุคเก่า จวบจนความเจริญก้าวหน้าเริ่มก่อตัวมาพร้อมกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่มากขึ้นนี่เอง การแพทย์ที่หยุดนิ่งจึงกลับมาก้าวหน้าอีกครั้ง

 

         กุญแจสำคัญในการพัฒนาแนวทางรักษามะเร็งเริ่มต้นจากการประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ จนเข้าใจระบบเซลล์และแบคทีเรียได้ดีขึ้น รวมถึงแนวคิดการศึกษาสาเหตุการตายจาก การชันสูตรพลิกศพ นำไปสู่การเรียนรู้ทำความเข้าใจกลไกการทำงานของเซลล์และระบบอวัยวะภายในร่างกายของคนเรามากยิ่งขึ้น

 

         อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้การศึกษาโรคมะเร็งได้รับความสนใจและก้าวหน้าเป็นอย่างมากคือ ความนิยมในการใช้งานและบริโภคยาสูบที่เริ่มมีการนำเข้ามาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมา มีการใช้งานแพร่หลายทั้งในเชิงสันทนาการไปจนทางการแพทย์ และการเกิดขึ้นของเครื่องผลิตบุหรี่เชิงพาณิชย์ ซึ่งเพิ่มกำลังและลดต้นทุนการผลิตยาสูบ จนผู้ป่วยมะเร็งปอดขยายตัวอย่างรวดเร็ว

 

         ในส่วนการรักษาแนวคิดการผ่าตัดนำมะเร็งออกมีมายาวนาน สาเหตุที่วิธีนี้ไม่ได้ผลนักเนื่องจากผู้คนในอดีตยังขาดความเข้าใจ ด้วยการผ่าตัดในยุคแรกยังไม่มีการวางยาสลบหรือฆ่าเชื้อดีพอจึงมักเกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนได้ง่าย กระนั้นนับจากคริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา แนวคิดในการผ่าตัดเพื่อนำเนื้อร้ายออกก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น

 

         แนวทางรักษาได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในคริสต์ศตวรรษที่ 19 องค์ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งได้รับการศึกษาลึกยิ่งขึ้น ทั้งกลไกการแพร่กระจายผ่านเซลล์มะเร็ง การทำความเข้าใจมะเร็งเม็ดเลือดขาว ไปจนการซักประวัติคนในครอบครัวที่เป็นมะเร็ง นำไปสู่การคิดค้นวิธีผ่าตัดแบบใหม่ๆ ตั้งแต่การใช้ความเย็นบำบัด การดมยาสลบ หรือแม้แต่การฉายรังสีรักษามะเร็ง ก็ล้วนเกิดในยุคนี้ทั้งสิ้น

 

วิวัฒนาการในการรักษามะเร็ง จากอดีตสู่ปัจจุบัน

 

 

         การรักษามะเร็งสืบเนื่องจนปัจจุบัน

 

         เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 องค์ความรู้และแนวทางรักษามะเร็งจะมีความใกล้เคียงกับปัจจุบันมากยิ่งขึ้น มีการค้นพบข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งมากมาย ทั้งความเกี่ยวพันของกรรมพันธุ์ต่อการเกิดโรคมะเร็ง, การค้นพบสารก่อมะเร็งจากข้าวของรอบตัว, การค้นหาความเชื่อมโยงของมะเร็งแต่ละชนิดจากสังคมและการใช้ชีวิต นำไปสู่การให้ความสำคัญต่อโรคชนิดนี้

 

         ในยุคนี้เองที่เริ่มมีการตรวจสอบและหลักฐานชี้ชัดว่า การสูบบุหรี่มีความเชื่อมโยงในการเกิดมะเร็ง, แร่ใยหินสามารถทำให้เกิดมะเร็งปอด, ค้นพบปัจจัยเสี่ยงมะเร็งมดลูกอย่างเชื้อ HPV นำไปสู่การตรวจมะเร็งปากมดลูกในปัจจุบัน ทั่วโลกตื่นตัวและยกให้โรคมะเร็งเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายคร่าชีวิตที่ต้องหาทางรักษาเป็นรูปธรรม

 

         ความตื่นตัวในยุคนี้เองเกิดเป็นการก่อตั้งองค์กรเพื่อศึกษารับมือโรคมะเร็ง นำไปสู่การทุ่มงบประมาณวิจัยเพื่อหาแนวทางรักษามะเร็งมากมาย เมื่อรวมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจากยุคสมัย นำไปสู่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการแพทย์ในการรับมือมะเร็งชนิดก้าวกระโดด

 

         ในช่วงแรกแนวคิดในการผ่าตัดรวมถึงการฉายรังสียังคงได้รับความนิยม แต่ก็เริ่มมีแนวคิดพัฒนาการรักษามะเร็งรูปแบบอื่นเช่นกัน ตั้งแต่การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดที่ถูกคิดค้นตั้งแต่ในทศวรรษ 1920, การใช้ฮอร์โมนบำบัดเพื่อรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก, การปลูกถ่ายไขกระดูกเพื่อรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง, การรักษาด้วยเลเซอร์ ไปจนการคิดค้นยานานาชนิดเพื่อรับมือมะเร็งประเภทต่างๆ

 

         เราทราบดีว่านี่คือยุคสมัยแห่งสงครามโลกนำไปสู่การเสียชีวิตมากมาย แต่ผลพวงจากสงครามก็ทำให้เกิดการพัฒนาหลายด้าน ตัวยาและแนวทางรักษาหลายชนิดได้รับการค้นคว้าวิจัย รวมถึงการค้นพบว่า มัสตาร์ดไนโตรเจน หนึ่งในอาวุธเคมีที่ได้รับความนิยมใช้ในการรักษามะเร็งได้ และเป็นจุดเริ่มต้นการรักษามะเร็งที่เรารู้จักกันในฐานะ เคมีบำบัด

 

         นี่จึงกลายมาเป็นรากฐานและแนวทางการรักษามะเร็งที่เราใช้งานในปัจจุบัน

 

 

 

         แน่นอนแม้จะก้าวหน้าขึ้นมากแต่การรักษามะเร็งของเรายังไม่ดีพอ เมื่อมะเร็งยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลก แต่ปัจจุบันความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีรักษามะเร็งยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนายาชนิดใหม่, วัคซีนที่ใช้ในการป้องกันและรักษามะเร็งหลายชนิด, การรักษาด้วยอนุภาคโปรตอน ฯลฯ

 

         นั่นทำให้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้ามะเร็งอาจเป็นเพียงโรคชนิดหนึ่งที่เราสามารถรักษาให้หายขาดอย่างถาวรก็เป็นได้

 

 

         ที่มา

 

         https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4777220/

 

         https://www.posttoday.com/post-next/1084

 

         https://canceratlas.cancer.org/history-cancer/

 

         https://www.cancer.org/cancer/understanding-cancer/history-of-cancer/cancer-treatment-chemo.html

 

Thailand Web Stat