พรรครีพับลิกันรับรองทรัมป์เป็นผู้ท้าชิงตำแหน่ง ปธน. อย่างเป็นทางการ

โดยที่ ทรัมป์ ได้เลือกเจ.ดี. แวนซ์ วุฒิสมาชิกสหรัฐในรัฐโอไฮโอเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีที่จะร่วมต่อสู้กับเขา

 

“ในฐานะรองประธานาธิบดี เจ.ดี. จะยังคงต่อสู้เพื่อรัฐธรรมนูญของเรา ยืนหยัดเคียงข้างกองกำลังของเรา และจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยผมทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง” ทรัมป์เขียนบนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขา

 

การประชุมระยะเวลา 4 วันเปิดขึ้นในหอประชุม Fiserv Forum ในเมืองมิลวอกี สองวันหลังจากที่ทรัมป์รอดพ้นจากความพยายามลอบสังหารในรัฐเพนซิลเวเนียได้อย่างหวุดหวิด และไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เขาได้รับชัยชนะทางกฎหมายครั้งใหญ่ เมื่อผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางยกฟ้องหนึ่งในคดีอาญาของทรัมป์

 

ทรัมป์มีกำหนดจะยอมรับการเสนอชื่อพรรคอย่างเป็นทางการในช่วงไพรม์ไทม์ในวันพฤหัสบดี และจะท้าทายประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ย.

แวนซ์ วัย 39 ปี เคยวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์อย่างรุนแรงในปี 2559 แต่นับแต่นั้นมาได้กลายเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์ที่แข็งกร้าวที่สุดของประธานาธิบดี โดยยอมรับว่าข้อกล่าวหาของเขา ที่ว่าการเลือกตั้งปี 2563 เกิดการฉ้อโกงอย่างกว้างขวางนั้นเป็นความเท็จ

 

จากผลสำรวจ แสดงให้เห็นว่า ทรัมป์ วัย 78 ปี และไบเดน วัย 81 ปี เป็นการแข่งขันชิงตำแหน่งที่เข้มข้น  โดยทรัมป์กล่าวว่าเขากำลังแก้ไขคำพูดตอบรับเพื่อเน้นย้ำความสามัคคีในชาติ แทนที่จะเน้นย้ำความแตกต่างของเขากับไบเดน หลังความพยายามในการลอบสังหารที่ล้มเหลว

 

หลังจากเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ ไบเดนได้พยายามที่จะลดอุณหภูมิลงหลังจากใช้วาทกรรมทางการเมืองที่ดุเดือดมานานหลายเดือน

 

“ไม่มีที่ใดในอเมริกาสำหรับความรุนแรงแบบนี้ หรือสำหรับความรุนแรงใดๆ ก็ตาม ไม่มีข้อยกเว้น เราไม่สามารถปล่อยให้ความรุนแรงนี้กลายเป็นเรื่องปกติได้” ไบเดน กล่าวในการปราศรัยทางโทรทัศน์จากทำเนียบขาวเมื่อวันอาทิตย์

เหตุกราดยิงดังกล่าวได้เปลี่ยนแปลงพลวัตของการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในทันที โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าไบเดนควรลาออกหรือไม่ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอายุและสุขภาะของเขา ภายหลังการดีเบตในวันที่ 27 มิถุนายน

 

เพื่อนร่วมพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสของไบเดนเกือบยี่สิบคน ออกมาเรียกร้องให้เขายุติการเสนอตัวลงเลือกตั้งใหม่ และเปิดโอกาสให้พรรคเลือกคนอื่นที่เหมาะสมมากกว่า

 

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์มักใช้วาทศิลป์ที่รุนแรงในการกล่าวสุนทรพจน์หาเสียง โดยตราหน้าคู่แข่งที่เขามองว่าเป็น "สัตว์ร้าย" และ "ฟาสซิสต์" และกล่าวหาไบเดนโดยไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าสมคบคิดบ่อนทำลายสหรัฐฯ ด้วยการสนับสนุนการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย

 

ไบเดนมักเตือนว่าชัยชนะของทรัมป์จะกัดกร่อนประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ขณะที่สมาชิกรีพับลิกันบางคนกล่าวว่าความคิดเห็นเหล่านั้นอาจสร้างเงื่อนไขสำหรับคนร้ายในการลงมือก่อเหตุ

 

เจ้าหน้าที่สืบสวนกล่าวว่าพวกเขาไม่สามารถระบุอุดมการณ์ที่อาจทำให้ โธมัส แมทธิว ครูกส์ วัย 20 ปี ยิงใส่ทรัมป์จากบนดาดฟ้า นอกงานหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลวาเนีย แม้ว่าทรัมป์จะรอดพ้นจากอาการบาดเจ็บสาหัส แต่ผู้สนับสนุนคนหนึ่งก็เสียชีวิต

 

FBI กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า พวกเขาสามารถเข้าถึงโทรศัพท์ของ Crooks ได้ และกำลังวิเคราะห์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเขา

 

ไบเดนสั่งให้มีการตรวจสอบโดยอิสระว่ามือปืนซึ่งถูกสายลับยิงเสียชีวิตนั้น เข้าใกล้การสังหารทรัมป์มากขนาดนี้ได้อย่างไร นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนของรัฐสภายังต้องสอบสวนหัวหน้าหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องอดีตประธานาธิบดีอีกด้วย

 

ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันที่เข้าร่วมการประชุมของพรรคส่วนใหญ่กล่าวว่า พวกเขาไม่มีความโน้มเอียงที่จะทบทวนจุดยืนเ้านอาวุธปืนแบบดั้งเดิมของพรรคใหม่จากเหตุการณ์นี้

 

เมลานี คอลเล็ตต์ ผู้แทนจากรัฐนิวเจอร์ซีย์ กล่าวว่า "ถ้ามีใครขับรถชนใคร เขาก็จะไม่ห้ามรถ" “ถ้าใครแทงใครสักคน เขาจะไม่ห้ามมีด”