อิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ยิงขีปนาวุธโต้กันครั้งใหญ่ หวั่นขัดแย้งขยายตัว

ตามที่ช่วงเช้าของวันที่ 25 ส.ค. 67 กองทัพอิสราเอลได้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีฐานปล่อยจรวดของกลุ่ม Hezbollah จำนวนหลายพันแห่งในทางใต้ของเลบานอนด้วยเครื่องบินรบกว่า 100 ลำ โดยทางการอิสราเอลระบุว่าเป็นการป้องกันตนเองก่อนการถูกโจมตี (preemptive strikes) หลังจากที่มีข่าวกรองทราบแน่ชัดว่ากลุ่ม Hezbollah กำลังจะโจมตีกรุงเทลอาวีฟครั้งใหญ่ เพื่อแก้แค้นอิสราเอลที่สังหารนาย Fuad Shukr ผู้บัญชาการอาวุโสของ Hezbollah ที่กรุงเบรุต เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 67

 

โดยกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟว่า กลุ่ม Hezbollah ได้ยิงจรวดมายังอิสราเอลกว่า 320 ลูก และได้ประกาศว่าปฏิบัติการโจมตีแก้แค้นห้วงแรก (first phase) ได้สิ้นสุดลงแล้ว

โดยอิสราเอลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 48 ชม. โดยได้ออกข้อปฏิบัติตัวด้านความปลอดภัยตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. 67 เวลา 06.30 น.ถึงวันที่ 26 ส.ค. 67 เวลา 18.00 น. โดยในพื้นที่ทางเหนือติดหรือใกล้ชายแดนเลบานอน ห้ามชุมนุมหรือรวมตัวมากกว่า 30 คน (ในพื้นที่ภายนอกอาคาร) หรือมากกว่า 300 คน (ในอาคาร) และห้ามทำงานในสถานที่ที่ไม่มีห้องนิรภัยที่อยู่ในระยะใกล้พอที่จะสามารถไปถึงได้ทันเวลา ส่วนในพื้นที่ติดฉนวนกาซา ห้ามชุมนุมหรือรวมตัวมากกว่า 1,000 คน 

 

ทั้งนี้ ในช่วงเช้า ท่าอากาศยานนานาชาติ Ben Gurion ได้ปิดบริการชั่วคราวจนถึงเวลา 10.00 น. และเปิดทำการแล้ว 

 

สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยตามข้อปฏิบัติตัวของทางการอิสราเอลข้างต้นแล้ว รวมทั้งขอให้ติดตามและปฏิบัติตามข้อแนะนำของทางการท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด โดยกระทรวงการต่างประเทศ จะติดตามพัฒนาการของสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

ขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่ จากการยืนยันผู้เสียชีวิต 3 รายในเลบานอนและ 1 รายในอิสราเอล ทั้งสองฝ่ายระบุว่าพวกเขายินดีที่จะหลีกเลี่ยงการบานปลายบานปลายอีกต่อไปในขณะนี้ แต่เตือนว่าอาจมีการหยุดงานประท้วงเกิดขึ้นอีกในอนาคต

 

ซัยยิด ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์กล่าวว่าการโจมตีของกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ซึ่งเป็นการตอบโต้การลอบสังหารผู้บัญชาการอาวุโส ฟูอัด ชูการ์ เมื่อเดือนที่แล้ว ได้เสร็จสิ้นแล้ว "ตามแผนที่วางไว้"

 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มจะประเมินผลกระทบของการโจมตี และ “หากผลลัพธ์ยังไม่เพียงพอ เราขอสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้อีกครั้ง” 

 

ทำเนียบขาวแถลงว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ กำลังติดตามเหตุการณ์ดังกล่าว “เราจะสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการปกป้องตนเองต่อไป และเราจะทำงานต่อไปเพื่อความมั่นคงในภูมิภาค” ฌอน ซาเวตต์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติกล่าว

 

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ “กังวลอย่างยิ่ง” กับความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นระหว่างอิสราเอลและฮิซบุลเลาะห์ และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับไปสู่การยุติความเป็นปรปักษ์ทันที