ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวกลับ นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อ, การปรับลดอัตราดอกเบี้ย

นักลงทุนหนีออกจากตลาดหุ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อข้อมูลการจ้างงานในเดือนสิงหาคมที่อ่อนแอกว่าที่คาดในวันศุกร์ตามข้อมูลการผลิตที่อ่อนแอในวันอังคาร ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ขาดทุนรายสัปดาห์ที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 และ S&P 500 (.SPX) ) ที่มีการลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023

นอกจากความกระวนกระวายใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ แล้ว นักลงทุนยังต้องปนะเมินถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่จะถึงกำหนดในวันที่ 18 กันยายน แต่พวกเขาเริ่มสัปดาห์นี้ที่ดูเหมือนจะเป็นบวกมากขึ้นในวันจันทร์

เหตุการณ์สำคัญของสัปดาห์นี้ ได้แก่ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งมีกำหนดส่งในเช้าวันพุธหลังจากการดีเบตครั้งแรกในคืนวันอังคารระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส และ โดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 484.18 จุดหรือ 1.20% เป็น 40,829.59 จุด, 

S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 62.63 จุดหรือ 1.16% เป็น 5,471.05 จุด

และ Nasdaq Composite ( .IXIC) เพิ่มขึ้น 193.77 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 16,884.60 จุด

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเนื่องจากความกังวลด้านอุปทานที่เกิดจากการคาดการณ์ว่าพายุเฮอริเคนจะโจมตีรัฐลุยเซียนาในสัปดาห์นี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นจากการขาดทุนหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.54% ปิดที่ 68.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนต์อยู่ที่ 71.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.10% 

ราคาทองคำสวนทางกับกำไรแต่ยังคงยืนหยัดต่อไปได้เนื่องจากนักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญ

ทองสปอตเพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 2,505.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์