หลายรัฐเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย หวั่นเกิดความวุ่นวายในการเลือกตั้ง

ในขณะที่ชาวอเมริกันกำลังลงคะแนนเสียงเลือกตั้งระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน หรือรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ท่ามกลางความตึงเครียด ความกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรการต่างๆ เพื่อเสริมความปลอดภัยทั้งในระหว่างและหลังวันเลือกตั้ง

มาตรการที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดอยู่ในรัฐสมรภูมิที่จะเป็นตัวชี้ขาดผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี เช่น รัฐเนวาดา ซึ่งเคยเกิดการประท้วงโดยผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีทรัมป์หลังการเลือกตั้งปี 2020

ปีนี้ มีการติดตั้งรั้วรักษาความปลอดภัยรอบสถานที่ที่เคยเกิดการประท้วงเหล่านั้น นั่นคือศูนย์รวมคะแนนลาสเวกัส ผู้ว่าการรัฐเนวาดา โจ ลอมบาร์โด กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ได้สั่งระดมกำลังทหารจากกองกำลังพิทักษ์มลรัฐจำนวน 60 นาย เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ทันท่วงที

ในรัฐแอริโซนา มีการติดตั้งรั้วโลหะที่คล้ายกันรอบศูนย์รวมคะแนนเขตมาริโคปาในใจกลางเมืองฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นจุดที่เคยมีทฤษฎีสมคบคิดเรื่องการโกงการเลือกตั้งและการข่มขู่เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งในปี 2020

เนื่องจากกังวลเรื่องการประท้วงหรือความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น โรงเรียนและโบสถ์หลายแห่งในแอริโซนาที่เคยเป็นหน่วยเลือกตั้งในอดีตจะไม่เป็นสถานที่เลือกตั้งในปีนี้

ในรัฐสมรภูมิมิชิแกนในปี 2020 ผู้สนับสนุนทรัมป์ได้บุกเข้าไปที่ศูนย์ประชุมในใจกลางดีทรอยต์และเริ่มทุบกระจกขณะที่การนับคะแนนบัตรลงคะแนนล่วงหน้าดำเนินไปเป็นวันที่สอง ปีนี้มีการติดตั้งราวจักรยานสีเหลืองตลอดสองข้างถนนที่ศูนย์ประชุมตั้งอยู่

ผู้เข้าชมต้องผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 15 นายลาดตระเวนในห้องโถงขนาดใหญ่  โดยมีตำรวจประจำการอยู่บนหลังคาและรอบๆ อาคารด้วย การประมวลผลบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ล่วงหน้าแปดวันผ่านไปอย่างสงบ ตามที่แบกซ์เตอร์กล่าว

มาตรการป้องกันขยายไปถึงรัฐที่ไม่ใช่รัฐสมรภูมิด้วย เจ้าหน้าที่รัฐออริกอนและวอชิงตันประกาศว่าได้เรียกกำลังกองกำลังพิทักษ์มลรัฐ หน้าต่างร้านค้าบางแห่งในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และที่อื่นๆ ใช้ไม้อัดบุปิดกระจกหน้าต่างหรือประตู ป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น