ดัชนีหุ้น S&P 500, Nasdaq ปิดบวก จับตานโยบายภาษีของทรัมป์ รายงานการประชุมเฟด
ดัชนีหุ้น S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคาร หุ้นเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น ในขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์นโยยายด้านภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อประเทศคู่ค้าชั้นนำและรายงานการประชุมล่าสุดจากธนาคารกลางสหรัฐ
อัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าระยะสั้นของสหรัฐฯ ลดลงก่อนหน้านี้หลังจากรายงานล่าสุดของเฟดแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่มีความเห็นไม่ตรงกันว่าพวกเขาอาจจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกมากเพียงใด
รายงานการประชุมวันที่ 6-7 พ.ย. ยังแสดงให้เห็นว่าที่ประชุมยังเห็นพ้องกันว่า นี่เป็นช่วงเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับแนวทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ที่จะมีกาาประชุมกันอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ขณะเดียวกัน การที่ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าแบบมีเงื่อนไข 25% สำหรับการนำเข้าของแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งอาจละเมิดข้อตกลงการค้าเสรีที่เขาเจรจาระหว่างดำรงตำแหน่งก่อนหน้า นอกจากนี้ เขายังเล็งจะเก็บ "ภาษีเพิ่มเติม 10% นอกเหนือจากภาษีใดๆ" สำหรับการนำเข้าจากจีน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของสงครามการค้า
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ลดลง 15.74 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 44,720.83 จุด
ส่วนดัชนี S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 24.38 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 6,011.75 จุด
และดัชนี Nasdaq Composite ( .IXIC) เพิ่มขึ้น 96.90 จุด หรือ 0.51% เป็น 19,152.47 จุด
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันอังคาร จากการซื้อขายที่ซบเซา หลังจากที่อิสราเอลตกลงข้อตกลงหยุดยิงกับเลบานอน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของอุปทานน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าบดลง 20 เซนต์หรือ 0.27% สู่ 72.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate ของสหรัฐอยู่ที่ 68.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.25%
ราคาทองคำขยับเพียงเล็กน้องในวันอังคาร หลังดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอ่อนตัวลง เนื่องจากอิสราเอลตกลงข้อตกลงหยุดยิงกับเลบานอน ขณะเดียวกันความกังวลเกี่ยวกับยูเครนและแผนภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ก็ยังส่งผลต่อตลาด
ราคาทองสปอตทรงตัวที่ 2,626.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์
หลังราคาแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย.
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ สูงขึ้น 0.1% ที่ 2,621.30 ดอลลาร์