การสอบสวนอุบัติเหตุเจจูแอร์เริ่มขึ้น ขณะที่จัดพิธีไว้อาลัยทั่วประเทศ

กระทรวงคมนาคมกล่าวว่าทีมสืบสวนของเกาหลีใต้ได้ดึงข้อมูลจากเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบินของเครื่องบินลำดังกล่าว และจะแปลงเป็นไฟล์เสียง โดยหวังว่าจะได้ข้อมูลสำคัญที่อธิบายช่วงไม่กี่นาทีก่อนเกิดโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

 

กระทรวงคมนาคมอาจใช้เวลาประมาณ 2 วันในการแปลงข้อมูลเป็นไฟล์เสียง

 

สำหรับเครื่องบันทึกข้อมูลเที่ยวบินที่เสียหาย ทีมสอบสวนได้พิจารณาแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะดึงสิ่งที่บันทึกอยู่ภายในออกมาในเกาหลีใต้ และวางแผนที่จะส่งกล่องดำไปยังสหรัฐอเมริกาโดยความร่วมมือกับคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NTSB) เพื่อทำการวิเคราะห์ 

 

ผู้โดยสารทั้งหมด 175 คนและลูกเรือ 4 ใน 6 คนเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อเครื่องบินของสายการบินเชจูแอร์พยายามลงจอดที่สนามบินนานาชาติมูอัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ และกระแทกเข้ากับเขื่อนทรายและคอนกรีตที่บริเวณสุดรันเวย์จนเกิดเพลิงไหม้

 

ลูกเรือสองคนซึ่งตั้งอยู่ใกล้ส่วนท้ายของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 รอดชีวิตมาได้

 

รัฐบาลได้ประกาศช่วงไว้ทุกข์ทั่วประเทศจนถึงวันที่ 4 ม.ค. และจะลดการฉลองปีใหม่

 

เจ้าหน้าที่สืบสวนเตรียมตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้นี้ว่า เกิดจากการบินชนนก ความล้มเหลวของล้อขณะลงจอด หรือปัญหากับระบบควบคุมอื่นๆ จะมีส่วนในภัยพิบัติครั้งนี้หรือไม่

 

นอกจากนี้ พวกเขายังจะสอบสวนความเร่งรีบของนักบินที่พยายามลงจอดทันทีหลังจากที่เขาประกาศภาวะฉุกเฉิน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศยังตั้งคำถามว่ากำแพงสนามบินที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์นำทางนั้นถูกสร้างขึ้นใกล้กับจุดสิ้นสุดรันเวย์มากเกินไปหรือไม่

 

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รักษาการประธานาธิบดีชอย ซังมอก เรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างยุติธรรมและเป็นกลาง และกล่าวว่า พิธีศพจะเริ่มขึ้นหลังจากระบุตัวเหยื่อทั้งหมดอย่างเป็นทางการแล้ว

 

เจ้าหน้าที่สนามบินได้ตั้งแท่นบูชาในช่วงดึกของวันอังคาร และในวันพุธ รถบัสได้นำญาติของเหยื่อไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อให้พวกเขาสามารถแสดงความเคารพ ห่างจากเครื่องบินที่ตกเพียงไม่กี่เมตร 

 

สนามบิน มูอัน เต็มไปด้วยผู้ไว้อาลัยที่พยายามแสดงความเคารพที่แท่นบูชา ส่งผลให้ต้องต่อคิวยาวหลายร้อยเมตร

 

เจ้าหน้าที่ระบุว่า มีรายชื่อ 43 ศพที่พร้อมส่งคืนให้ครอบครัว และขอให้ญาติที่ไม่อยู่ในรายชื่ออดทนรอ และอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าญาติผู้สูญเสียทั้งหมดจะสามารถรับศพของผู้ที่พวกเขารักได้

 

ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงโซลได้ติดต่อกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตชาวไทยสองคน รวมทั้งได้อำนวยความสะดวกในการสื่อสารและประสานงานกับทางการเกาหลีใต้

 

สถานทูตลดธงเหลือครึ่งเสาแสดงความอาลัย จนถึงวันที่ 4 มกราคมด้วย

 

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อุปทูตฯ บัญชา ยืนยงจงเจริญ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เยี่ยมชมแท่นบูชา ณ ศาลาว่าการกรุงโซล เพื่อไว้อาลัยในช่วงไว้อาลัย 7 วันของประเทศเกาหลีใต้

 

ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตยังได้เชิญคนไทยในเกาหลีไปสักการะที่แท่นบูชาอย่างเป็นทางการใน 17 เมือง โดยจะเปิดให้เข้าไว้อาลัยจนถึงวันที่ 4 มกราคม

 

รัฐบาลทั้งไทยและเกาหลีใต้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของเหยื่อและขอความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการจัดการเดินทางและเอกสารที่จำเป็นสำหรับญาติในการรับศพกลับ