ตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยี นักลงทุนจับตานโยบายของทรัมป์

ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นในวงกว้างส่งผลให้ดัชนีหุ้นหลักๆ ของสหรัฐฯ ทั้งสามดัชนีปิดตัวสูงขึ้น โดยบริษัทที่มีการเติบโตของ megacap เช่น Tesla และ Nvidia ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ Nasdaq ที่เน้นเทคโนโลยี

 

ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดคำถามถึงความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากเฟดในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะจุดชนวนแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออีกครั้ง

 

โธมัส บาร์คิน ประธานเฟดริชมอนด์กล่าวว่าแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2568 ยังเป็นไปในเชิงบวก แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบจากการค้าและนโยบายอื่นๆ ที่อาจดำเนินการโดยคณะบริหารของทรัมป์ที่เข้ามาใหม่

 

แม้ว่าข้อเสนอของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการลดภาษีนิติบุคคล การผ่อนคลายกฎระเบียบ และการเก็บภาษี อาจช่วยเพิ่มผลกำไรของบริษัทและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่ก็เสี่ยงต่อแรงกดดันเงินเฟ้อเช่นกัน

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 339.86 จุดหรือ 0.80% เป็น 42,732.13 จุด

S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 73.92 จุดหรือ 1.26% เป็น 5,942.47 จุด

และ Nasdaq Composite ( .IXIC) บวก 340.88 จุด หรือ 1.77% อยู่ที่ 19,621.68 จุด

 

ราคาน้ำมันขยับสูงขึ้นในวันศุกร์และเป็นไปตามทิศทางที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่จีนจะนำมาใช้ช่วยผลักดันราคาในช่วงก่อนหน้าให้สูงที่สุดในรอบกว่าสองเดือน

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.9% อยู่ที่ 76.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากลดลงในวันพฤหัสบดีที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 25 ต.ค. 

น้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์หรือ 1.5% เป็น 74.24 ดอลลาร์

 

ราคาทองคำปรับลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันศุกร์ โดยได้รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ในขณะที่ตลาดพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการค้าที่อาจเกิดขึ้นภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ

 

ราคาทองสปอตปรับลง 0.6% เท่ากับ 2,641.52 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมช่วงต้นของการซื้อขาย ทองคำแท่งเพิ่มขึ้นประมาณ 0.8% ในสัปดาห์นี้

 

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 0.5% ที่ 2,654.70 ดอลลาร์