ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วง จากความกังวลแนวโน้มเงินเฟ้อกระทบทิศทางดอกเบี้ย

หุ้นปรับตัวขึ้นเร็วหลังจากรายงานของกระทรวงแรงงานเผยให้เห็นว่าตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่รายงานอีกฉบับหนึ่งระบุว่า กิจกรรมภาคบริการเร่งตัวขึ้นในเดือนธันวาคม ด้วยมาตรการติดตามราคาวัตถุดิบที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบสองปี

 

สัญญาณของความยืดหยุ่นอย่างต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจได้ส่งผลต่อความคาดหวังว่าธนาคารกลางจะสามารถลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ได้เมื่อใด ซึ่งขณะนี้นักลงทุนมองว่าการปรับลดครั้งต่อไปมีแนวโน้มมากขึ้นในเดือนมิถุนายน และ Fed อาจจะระงับการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปี 2025 ตามเครื่องมือ FedWatch ของกลุ่ม CME

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ร่วงลง 178.20 จุดหรือ 0.42% ปิดที่ 42,528.36 จุด

ส่วนดัชนี S&P 500 (.SPX) ลดลง 66.35 จุดหรือ 1.11% สู่ 5,909.03 จุด

และดัชนี Nasdaq Composite ( .IXIC) ลดลง 375.30 จุด หรือ 1.89% เป็น 19,489.68 จุด

 

ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่จำกัดจากรัสเซียและอิหร่าน เนื่องจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก และคาดว่าอุปสงค์ของจีนจะสูงขึ้น

 

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์สปิดที่ 77.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ หรือ 0.98% 

ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐปิดที่ 74.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.94%

 

ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นโดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรกระทรวงการคลัง หลังจากการเปิดรับตำแหน่งงานในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

 

ราคาทองสปอตเพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 2,648.76 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ สูงขึ้น 0.7% ที่ 2,665.40 ดอลลาร์