ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นตามข้อมูลเงินเฟ้อ ตัวเลขรายได้ภาคธนาคารเพิ่มขึ้น

กระทรวงแรงงานกล่าวว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 9 เดือน เนื่องจากต้นทุนพลังงานเพิ่มขึ้น แม้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะลดลงก็ตาม

 

ก่อนหน้านี้ ข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการคาดการณ์ที่อัตรารายปีที่ 2.9% ในเดือนธันวาคม จากระดับ 2.7% ในเดือนพฤศจิกายน

 

แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.2% ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 3.3%

 

นักลงทุนได้รับแรงหนุนเป็นพิเศษจากตัวเลขค่าเงินเฟ้อล่าสุด นับตั้งแต่ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารแสดงให้เห็นว่าราคาผู้ผลิตในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นปานกลางในเดือนธันวาคม และต่างตั้งราคาอัตราต่อรองว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งภายในสิ้นปีนี้ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 703.27 จุดหรือ 1.65% ปิดที่ 43,221.55 จุด

ส่วนดัชนี S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 107.00 จุดหรือ 1.83% ที่ 5,949.91 จุด

และดัชนี Nasdaq Composite ( .IXIC) สูงขึ้น 466.84 จุด หรือ 2.45% เป็น 19,511.23 จุด

 

ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 2% ในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากการเก็บน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จำนวนมาก และการหยุดชะงักของอุปทานที่อาจเกิดขึ้นจากการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ ในขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาบรรลุความคืบหน้าบางส่วน

 

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเบรนท์อยู่ที่ 2.11 ดอลลาร์หรือ 2.64% เพิ่มขึ้นที่ 82.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 

น้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐ (WTI) เพิ่มขึ้น 2.54 ดอลลาร์หรือ 3.28% ที่ 80.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 

 

ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันพุธ ขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อหลักของสหรัฐฯ อ่อนตัวลงกว่าที่คาด ซึ่งช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและฟื้นความคาดหวังอีกครั้งว่าวงจรการผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐอาจยังไม่สิ้นสุด

 

ราคาทองสปอตเพิ่มขึ้น 0.6% เท่ากับ 2,693.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ สูงขึ้น 1.3% ที่ 2,717.80 ดอลลาร์