จับตา 3 แพลตฟอร์มรับอานิสงส์บวก หาก TikTok ถูกแบน
ท่ามกลางกระแสข่าวการแบน TikTok ในสหรัฐอเมริกา นักวิเคราะห์จาก Wall Street มองว่ามีบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างน้อย 3 ราย ที่มีโอกาสได้รับประโยชน์จากการหายไปของแอปพลิเคชันคลิปสั้นยอดนิยมนี้ โดยปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อกำไรของบริษัทเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการดึงดูดผู้ใช้งาน และแปลงเวลาที่ผู้ใช้ใช้บนแพลตฟอร์มให้กลายเป็นรายได้จากการโฆษณา
จับตา 3 แพลตฟอร์มรับอานิสงส์บวก หาก TikTok ถูกแบน
- Meta Platforms - ผู้ได้ประโยชน์รายใหญ่ที่สุด
นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ประเมินว่า หาก Meta สามารถแย่งชิงเวลาการใช้งานจากผู้ใช้ TikTok ได้เพียง 10% จะส่งผลให้กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 0.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ และหากสามารถดึงดูดผู้ใช้ TikTok เดิมมาได้ครึ่งหนึ่ง กำไรต่อหุ้นอาจเพิ่มขึ้นสูงถึง 9% ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2026 Meta จะมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ
- Snap - โอกาสเติบโตยังสูง
Deutsche Bank ประเมินว่า แพลตฟอร์ม Snapchat มีศักยภาพในการเติบโตสูงสุด หากสามารถครองส่วนแบ่งเวลาใช้งานของผู้ใช้ได้ถึง 30% จะส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 142% อย่างไรก็ตาม หาก Snapchat สามารถแย่งส่วนแบ่งผู้ใช้มาได้แค่ 10% EBITDA ก็ยังสามารถเติบโตได้สูงถึง 57%
ทั้งนี้ Morgan Stanley มองว่า Snapchat ยังจำเป็นต้องปรับปรุงประสิทธิภาพและผลตอบแทนจากการลงโฆษณา หากต้องการรักษาอัตราการเติบโตในระยะยาว
- Alphabet - ได้ประโยชน์จาก YouTube Shorts
ด้วยกระแสความนิยมของวิดีโอสั้นที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง YouTube ภายใต้การบริหารของ Alphabet มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึง 750 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 2% ของรายได้โฆษณาในปี 2026 เพียงช่วงชิงส่วนแบ่งผู้ใช้งาน TikTok เดิมมาเพิ่มอีก 10% เท่านั้น
โดยปัจจุบันผู้ใช้ YouTube เฉลี่ยแล้วใช้เวลากับแพลตฟอร์มถึง 75 นาทีต่อวัน ซึ่งใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่าง TikTok ที่ 79 นาทีต่อวัน
นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่อาจได้ประโยชน์หาก TikTok ถูกแบนขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น Pinterest, Roblox, Reddit, AppLovin และ Trade Desk โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AppLovin ที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 726% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะได้รับส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นจากงบโฆษณากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ที่เคยถูกจัดสรรให้กับ TikTok