ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก นักลงทุนจับตานโยบายการค้าของฝ่ายบริหารชุดใหม่
ดัชนีหุ้นหลักของวอลล์สตรีทปิดสูงขึ้นในวันอังคาร โดยดัชนี S&P 500 และดาวโจนส์แตะระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน ในขณะที่นักลงทุนประเมินการกระทำครั้งแรกของโดนัลด์ ทรัมป์ ในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ
นักลงทุนโล่งใจที่ทรัมป์ไม่ได้เริ่มวาระที่สองด้วยการเพิ่มภาษีศุลกากรตามที่ประกาศ โดยเขายังไม่ได้วางแผนอย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับภาษีและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับคู่ค้ารายใหญ่ตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ แต่กล่าวว่าเขากำลังคิดที่จะเก็บภาษีสินค้าแคนาดาและเม็กซิโกโดยเร็วที่สุดในวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ในขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับภาษีและศักยภาพของสงครามการค้าโลกที่ผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้น แต่โบรคเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์ Goldman Sachs ได้ปรับลดการคาดการณ์โอกาสในการเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มในปีนี้ลงเหลือ 25% จากประมาณ 40% ที่เห็นในเดือนธันวาคม
ดัชนี S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 52.84 จุด หรือ 0.88% ปิดที่ 6,049.50 จุด
ขณะที่ Nasdaq Composite (.IXIC) เพิ่มขึ้น 126.58 จุด หรือ 0.64% ปิดที่ 19,756.78 จุด
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 540.68 จุดหรือ 1.24% เป็น 44,028.51 จุด
ราคาน้ำมันร่วงลงในวันอังคารหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติในวันแรกที่เขาเข้ารับตำแหน่ง ทำให้เกิดความกังวลว่าผลผลิตของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นในตลาดที่คาดว่าจะมีอุปทานล้นตลาดในปีนี้
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าตกลง 86 เซนต์หรือ 1.1% อยู่ที่ 79.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐ สำหรับการส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.99 ดอลลาร์ หรือ 2.6% สู่ 75.89 ดอลลาร์ ในการซื้อขายช่วงสุดท้าย
ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสองเดือนในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และในขณะที่ตลาดต่างแห่กันไปที่สินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายอัตราภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ราคาทองสปอตพุ่งขึ้น 1.3% สู่ระดับ 2,742.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. และใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,790.15 ดอลลาร์ในเดือนตุลาคม
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ สูงขึ้น 0.4% ที่ 2,759.20 ดอลลาร์