สี จิ้น ผิง หารือปูติน รับมือประธานาธิบดีทรัมป์

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ประชุมผ่านวิดีโอคอลเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีประเด็นสำคัญในการหารือสามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นสู่อำนาจครั้งที่ 2 ของ โดนัลด์ ทรัมป์

 

เรื่องแรกคือการสร้างความสัมพันธ์กับโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งสองผู้นำแสดงความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ หากรัฐบาลชุดใหม่ของทรัมป์แสดงความสนใจจริง โดยต้องอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันและการเคารพซึ่งกันและกัน

 

เรื่องที่สองคือสถานการณ์ในยูเครน ปูตินย้ำว่าต้องการสันติภาพระยะยาว ไม่ใช่แค่การหยุดยิงชั่วคราว แต่ข้อตกลงใดๆ จะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของรัสเซียด้วย ด้านประธานาธิบดีสีเรียกร้องให้มีการเจรจาเพื่อยุติสงคราม พร้อมวิจารณ์สหรัฐฯ ว่าเป็นผู้จุดชนวนสงครามด้วยการส่งอาวุธให้ยูเครน

 

เรื่องที่สามคือประเด็นไต้หวัน รัสเซียยืนยันสนับสนุนนโยบาย "จีนเดียว" ของจีนอย่างเต็มที่ โดยจีนยังคงยืนยันว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และประธานาธิบดีสีย้ำว่าไม่มีใครสามารถหยุดยั้งการรวมชาติได้ ขณะที่รัฐบาลไต้หวันยืนยันว่าอนาคตของเกาะแห่งนี้ควรถูกตัดสินโดยประชาชนชาวไต้หวันเอง

 

นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยจีนเป็นผู้ซื้อพลังงานรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย และทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันในด้านพลังงานนิวเคลียร์

 

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ประกาศความร่วมมือแบบ "ไม่จำกัด" เมื่อต้นปี 2565 โดยทั้งสองผู้นำมองว่าอิทธิพลของชาติตะวันตกกำลังถดถอยลง ในขณะที่จีนกำลังท้าทายความเป็นมหาอำนาจของสหรัฐฯ ในหลายด้าน ซึ่งสร้างความกังวลให้กับประเทศตะวันตก โดยสหรัฐฯ มองว่าจีนคือคู่แข่งรายใหญ่ที่สุด และรัสเซียคือภัยคุกคามที่สำคัญที่สุดต่อความมั่นคงของชาติ

 

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะเข้มงวดกับจีนและพูดคุยกับปูตินเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังเข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์กล่าวว่าปูตินควรทำข้อตกลงเพื่อยุติสงคราม เพราะความขัดแย้งกำลังทำลายรัสเซีย