posttoday

จับตา DeepSeek ปรากฏการณ์ Black Monday ครั้งใหม่ในหุ้นเทคโนโลยี?

28 มกราคม 2568

หลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์ ในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี จากความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของ DeepSeek โมเดล AI สัญชาติจีน จนสะเทือนความเชื่อมั่นต่อความเป็นผู้นำของสหรัฐ หลายฝ่ายจึงจับตาว่า ปัญหาจะลุกลามเป็น Black Monday ครั้งใหม่หรือไม่

Black Monday หรือ วันจันทร์สีดำ เป็นคำที่ใช้เรียกวันที่ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอย่างหนักและรวดเร็ว มูลค่าตลาดหายไปเป็นจำนวนมหาศาลในเวลาอันสั้น เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมาก

 

Black Monday ครั้งแรก

เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2530 หรือ ค.ศ. 1987 ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐอเมริกา ปรับตัวลดลงถึง 507.99 จุด คิดเป็นร้อยละ 22.61 ซึ่งเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของดัชนีนี้ และส่งผลกระทบให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตามรอยไปด้วย

 

สาเหตุที่ทำให้เกิด Black Monday

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ก่อนเกิดเหตุการณ์ Black Monday เนื่องจากเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนหลายประการ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และปัญหาหนี้สินของประเทศกำลังพัฒนาขณะที่นักลงทุนจำนวนมากเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้น ทำให้เกิดฟองสบู่ และเมื่อฟองสบู่แตก ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงเวลานั้น ระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ยังไม่ทันสมัยเท่าปัจจุบัน ทำให้การขายหุ้นจำนวนมากในเวลาอันสั้นเป็นไปได้ยาก และยิ่งทำให้ตลาดหุ้นตกต่ำลงไปอีก

 

จับตา DeepSeek ปรากฏการณ์ Black Monday ครั้งใหม่ในหุ้นเทคโนโลยี?

 

Black Monday เกิดขึ้นกี่ครั้ง และครั้งไหนรุนแรงที่สุด?

นอกจาก Black Monday ในปี 1987 แล้ว ยังมีเหตุการณ์ที่เรียกว่า Black Monday เกิดขึ้นอีกหลายครั้งในตลาดหุ้นต่างๆ ทั่วโลก แต่ความรุนแรงและผลกระทบจะแตกต่างกันออกไป โดยทั่วไปแล้ว เหตุการณ์ที่เรียกว่า Black Monday จะหมายถึงวันที่ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์

 

Black Monday: ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แม้ว่า Black Monday ในปี 1987 จะเป็นเหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุด แต่ก็มีเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง เช่น

วิกฤตต้มยำกุ้ง (1997): วิกฤตเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคอย่างรุนแรง ทำให้หลายประเทศต้องเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อสูง และค่าเงินอ่อนค่าลง

วิกฤตดอตคอม (2000): ฟองสบู่ดอตคอมแตก ทำให้ตลาดหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกตกอย่างหนัก นักลงทุนสูญเสียเงินจำนวนมหาศาล

วิกฤตสินเชื่อ subprime (2008): วิกฤตทางการเงินที่เริ่มต้นจากปัญหาสินเชื่อ subprime ในสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินทั่วโลก และทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่

Black Monday ในปี 2024: ตลาดหุ้นทั่วโลกประสบปัญหาการปรับฐานอย่างรุนแรงในเดือนสิงหาคม 2024 สืบเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและนโยบายการเงินที่เข้มงวด

จับตา DeepSeek ปรากฏการณ์ Black Monday ครั้งใหม่ในหุ้นเทคโนโลยี?

 

สาเหตุที่ทำให้เกิด Black Monday

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ: ปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การว่างงานสูง อัตราเงินเฟ้อสูง หรือสงคราม อาจทำให้ผู้คนขาดความเชื่อมั่นในอนาคตและเทขายหุ้น

ฟองสบู่: เมื่อราคาสินทรัพย์สูงเกินจริง และไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ เมื่อฟองสบู่แตก ราคาจะร่วงลงอย่างรวดเร็ว

การเก็งกำไร: การเก็งกำไรที่มากเกินไป อาจทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง และเมื่อมีปัจจัยกระตุ้น เช่น ข่าวร้าย ตลาดก็จะร่วงลงอย่างรุนแรง

ปัจจัยทางเทคนิค: การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการซื้อขายอัตโนมัติ อาจทำให้เกิดการขายหุ้นจำนวนมากในเวลาอันสั้น และยิ่งทำให้ตลาดหุ้นตกต่ำลงไปอีก

 

ผลกระทบของ Black Monday

การสูญเสียมูลค่าตลาด: มูลค่าตลาดหุ้นหายไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อความมั่งคั่งของนักลงทุนและสถาบันการเงิน

ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ: การตกของตลาดหุ้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง

การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ: หลังจากเกิดเหตุการณ์ Black Monday รัฐบาลหลายประเทศได้ออกมาตรการเพื่อควบคุมตลาดหุ้นและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

 

จากกรณีที่ นักลงทุนทั่วโลกทิ้งหุ้นเทคโนโลยี หลังกังวลว่า DeepSeek โมเดลปัญญาประดิษฐ์ของจีน จะคุกคามการครอบงำของผู้นำ AI เช่น Nvidia ส่งผลให้มูลค่าตลาดของผู้ผลิตชิปหายไป 5.93 แสนล้านดอลลาร์ (2 หมื่นล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นการสูญเสียเป็นประวัติการณ์สำหรับบริษัทในวอลล์สตรีท ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq (.IXIC) ซึ่งเน้นเทคโนโลยี ร่วงลงถึง 3.1% ในวันจันทร์ โดยหุ้น Nvidia ได้กลายเป็นตัวฉุดมากที่สุดของ Nasdaq โดยหุ้นของบริษัทร่วงลงถึง 17%

ขณะที่ มูลค่าการขาดทุนมากที่สุดอันดับถัดไป คือผู้ผลิตชิป Broadcom Inc  ซึ่งปิดลดลง 17.4% ตามมาด้วยผู้สนับสนุน ChatGPT คือ Microsoft  ซึ่งลดลง 2.1% จากนั้น Alphabet บริษัทแม่ของ Google (GOOGL.O) ลดลง 4.2%

การลดลงของทุนสหรัฐส่งผลสะเทือนลุกลาม โดยการเทขายที่เริ่มต้นในเอเชีย โดย SoftBank Group ของญี่ปุ่น (9984.T) ลดลง 8.3% และเคลื่อนผ่านยุโรปโดยที่ ASML (ASML.AS) ลดลง 7% ทำให้หลายฝ่ายเริ่มจับตาว่า วิกฤติครั้งนี้ จะลุกลามต่อเนื่องหรือไม่

จับตา DeepSeek ปรากฏการณ์ Black Monday ครั้งใหม่ในหุ้นเทคโนโลยี?