นักบินอวกาศ NASA บุทช์และซูนี กลับถึงโลก หลังตกค้างในอวกาศ 9 เดือน

การกลับมาครั้งนี้ถือเป็นภารกิจในอวกาศอันยืดเยื้อซึ่งเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและปัญหาทางเทคนิค และการวางแผนฉุกเฉินของ NASA ที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้น และความล้มเหลวล่าสุดของ Starliner ให้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก

 

วิลมอร์และวิลเลียมส์ นักบินอวกาศ NASA สองคนผู้มีประสบการณ์และเกษียณอายุแล้วในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นนักบินทดสอบของกองทัพเรือ ได้ขึ้นสู่อวกาศในฐานะลูกเรือชุดแรกของ Starliner ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว

 

แต่สิ่งที่คาดว่าจะเป็นภารกิจทดสอบที่มีระยะเวลาเพียงแค่แปดวัน  ปัญหาเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนของ Starliner ทำให้เกิดความล่าช้าในการกลับบ้าน ส่งผลให้ NASA ตัดสินใจให้พวกเขานำยานอวกาศ SpaceX กลับในปีนี้โดยเป็นส่วนหนึ่งของตารางการหมุนเวียนลูกเรือของหน่วยงาน

 

ในเช้าวันอังคาร วิลมอร์และวิลเลียมส์ เข้าอยู่ในยานอวกาศ Crew Dragon พร้อมด้วยนักบินอวกาศอีกสองคน และออกจากสถานีอวกาศนานาชาติเมื่อเวลา 05.05 GMT หรือ 12.05 น. วันอังคาร ตามเวลาในประเทศไทย ออกเดินทางสู่โลกเป็นเวลา 17 ชั่วโมง

 

ลูกเรือ 4 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจหมุนเวียนนักบินอวกาศ Crew-9 ของ NASA ได้กลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกอีกครั้ง ด้วยการใช้ชั้นบรรยากาศของโลกและร่มชูชีพสองชุด ยานจึงชะลอความเร็วการโคจรจากประมาณ 17,000 ไมล์ต่อชั่วโมง เป็น 17 ไมล์ต่อชั่วโมงก่อนลงสู่ผิวน้ำ ประมาณ 50 ไมล์จากชายฝั่งอ่าวฟลอริดา  

 

แคปซูลของลูกเรือถูกยกขึ้นจากน้ำขึ้นเรือ นักบินอวกาศจะบินบนเครื่องบินของนาซ่าไปยังที่พักลูกเรือที่ศูนย์อวกาศจอห์นสัน ขององค์การอวกาศในฮูสตัน เพื่อตรวจสอบสุขภาพเป็นเวลาหลายวัน  ก่อนที่แพทย์การบินของนาซ่าจะบอกว่าพวกเขาสามารถกลับบ้านไปหาครอบครัวได้

 

ภารกิจดังกล่าวได้รับความสนใจจากสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม เรียกร้องให้วิลมอร์และวิลเลียมส์กลับเร็วขึ้น และกล่าวหาว่าอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน “ละทิ้ง” พวกเขาบน ISS ด้วยเหตุผลทางการเมือง

 

อีลอน มัสก์ ซีอีโอ SpaceX ซึ่งเป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดของทรัมป์ สะท้อนเสียงเรียกร้องของเขาที่จะกลับมาเร็วกว่านี้ Crew Dragon ของ SpaceX เป็นยานอวกาศลูกเรือในวงโคจรเพียงลำเดียวของสหรัฐอเมริกา ซึ่งโบอิ้งหวังว่า Starliner จะก้าวมาเป็นคู่แข่ง แต่ภารกิจของวิลมอร์และวิลเลียมส์ ทำให้การพัฒนาในอนาคตก้าวไปสู่ความไม่แน่นอน

 

วิลมอร์และวิลเลียมส์กำลังทำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และดำเนินการบำรุงรักษาตามปกติร่วมกับนักบินอวกาศอีกห้าคนของสถานี วิลเลียมส์ดำเนินการเดินอวกาศเป็นเวลาหกชั่วโมงสองครั้งเพื่อบำรุงรักษานอกสถานีอวกาศนานาชาติ ซึ่งรวมถึงวิลมอร์ด้วย

 

สถานีอวกาศนานาชาติ ซึ่งอยู่ระดับความสูงประมาณ 254 ไมล์ (409 กม.) เป็นห้องปฏิบัติการวิจัยขนาดสนามฟุตบอลที่ทีมงานนักบินอวกาศนานาชาติเป็นเจ้าภาพอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 25 ปี ซึ่งเป็นเวทีสำคัญของการทูตทางวิทยาศาสตร์ที่บริหารโดยสหรัฐฯ และรัสเซีย

 

วิลมอร์และวิลเลียมส์ใช้เวลาในภารกิจอวกาศ 286 วัน ซึ่งนานกว่าระยะเวลาภารกิจ ISS เฉลี่ย 6 เดือน แต่ยังน้อยกว่าสหรัฐฯ มาก เจ้าของสถิติ แฟรงค์ รูบิโอ ที่อยู่ในอวกาศต่อเนื่องเป็นเวลา 371 วันของเขาเมื่อปี 2565-2566 ซึ่งเป็นผลจากสารหล่อเย็นรั่วที่บนยานอวกาศของรัสเซีย

 

วิลเลียมส์  บินอวกาศครั้งที่สามของเธอ มีระยะเวลาสะสมในอวกาศรวม 608 วัน ซึ่งมากเป็นอันดับสองสำหรับนักบินอวกาศสหรัฐฯ ต่อจาก 675 วันของ เพ็กกี้ วิทสัน นักบินอวกาศชาวรัสเซีย Oleg Kononenko สร้างสถิติโลกเมื่อปีที่แล้วด้วยจำนวนวันสะสม 878 วัน

 

อย่างไรก็ตาม การอยู่ในอวกาศเป็นเวลาหลายเดือนอาจส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ได้หลายวิธี ตั้งแต่กล้ามเนื้อลีบไปจนถึงความบกพร่องทางการมองเห็น