ทรัมป์เอาจริง ลงนามรื้อ-เตรียมยุบกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ

คำสั่งดังกล่าวได้รับการออกแบบให้ปล่อยให้นโยบายของโรงเรียนเกือบทั้งหมด ตกไปอยู่ในมือของรัฐและคณะกรรมการท้องถิ่น ซึ่งอาจสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้สนับสนุนการศึกษาแบบเสรีนิยม

 

คำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดีเป็นก้าวแรกในการ "ยุบ" กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทรัมป์กล่าวในพิธีลงนามในห้องตะวันออกของทำเนียบขาว เนื่องจากการปิดหน่วยงานโดยสมบูรณ์จำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรส และทรัมป์ขาดคะแนนเสียงสนับสนุนที่เพียงพอในการดำเนินการดังกล่าว

 

“เราจะคืนการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลับไปยังรัฐของตนเอง” ทรัมป์กล่าวโดยมีธงชาติเป็นฉากหลัง

 

นักเรียนรุ่นเยาว์ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรม จะนั่งที่โต๊ะในห้องเรียนล้อมรอบประธานาธิบดี และลงนามในคำสั่งผู้บริหารจำลองของตนเองเคียงข้างเขา

 

การศึกษาเป็นประเด็นถกเถียงทางการเมืองมายาวนานในสหรัฐอเมริกา พรรคอนุรักษ์นิยมสนับสนุนการปล่อยให้นโยบายการศึกษาในท้องถิ่น

 

แต่ทรัมป์ไปไกลกว่านั้น เขาพยายามที่จะปรับโครงสร้างการศึกษาระดับอุดมศึกษาในสหรัฐอเมริกา ด้วยการลดเงินทุนและผลักดันให้ขจัดนโยบายความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยกในวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับที่เขามีในรัฐบาลกลาง

 

ตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยโคลัมเบียต้องเผชิญกับเส้นตายในวันพฤหัสบดีเพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องในการเข้มงวดข้อจำกัดในการประท้วงในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับการเปิดการเจรจาเพื่อขอรับเงินทุนของรัฐบาลกลางที่ถูกระงับจำนวน 400 ล้านดอลลาร์

 

พรรคเดโมแครตยอมรับเมื่อวันพฤหัสบดีว่าทรัมป์สามารถทำลายกระทรวงศึกษาฯได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องรอการดำเนินการใดๆ จากรัฐสภา

 

“โดนัลด์ ทรัมป์ รู้ดีว่าเขาไม่สามารถยกเลิกกระทรวงศึกษาธิการได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสภาคองเกรส แต่เขารู้ดีว่าหากไล่พนักงานทั้งหมดออก และแยกมันให้เป็นส่วนๆ คุณอาจได้รับผลลัพธ์แบบเดียวกัน” แพตตี เมอร์เรย์ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์

 

ทรัมป์ย้ำเมื่อวันพฤหัสบดีว่าเขาจะยังคงพยายามยุบกระทรวงศึกษาฯโดยสิ้นเชิง

 

กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐ ดูแลโรงเรียนของรัฐประมาณ 100,000 แห่งและโรงเรียนเอกชน 34,000 แห่ง  แม้ว่าเงินทุนสำหรับโรงเรียนรัฐบาลมากกว่า 85% จะมาจากรัฐบาลของรัฐและท้องถิ่นก็ตาม โดยเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางจะมีสำหรับโรงเรียนและโครงการต่างๆ ที่ขัดสน รวมถึงเงินเพื่อจ่ายให้กับครูของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ให้ทุนแก่โครงการศิลปะ และทดแทนโครงสร้างพื้นฐานที่ล้าสมัย

 

นอกจากนี้ยังดูแลเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาจำนวน 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ที่ถือครองโดยชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนที่ไม่สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนในวิทยาลัยได้ทันที

 

สำหรับตอนนี้ คำสั่งผู้บริหารของทรัมป์มีเป้าหมายที่จะลดภารกิจลงเหลือเพียงหน้าที่พื้นฐาน เช่น การบริหารเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา Pell Grants ที่ช่วยให้นักเรียนที่มีรายได้น้อยเข้าเรียนในวิทยาลัย และทรัพยากรสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษเท่านั้น