
รวมพล! คนนับล้านพร้อมใจขับไล่ "ทรัมป์-มัสก์" ทั่วสหรัฐฯ
สำนักข่าว CNN รายงานว่าผู้ชุมนุมนับล้านคนพร้อมใจกันเข้าร่วมการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเพื่อต่อต้านประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" และ "อีลอน มัสก์" ในแคมเปญที่ชื่อว่า “Hands Off!” (ปล่อยมือ/หยุดเดี๋ยวนี้!) ซึ่งจัดขึ้นมากกว่า 1,400 แห่งในรัฐทั้งหมด 50 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา และยังรวมไปถึงในเมืองใหญ่บางประเทศ เช่น ลอนดอนและปารีส
การชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดทั่วประเทศเมื่อวันเสาร์ตามเวลาในสหรัฐ จัดขึ้นโดยกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยเพื่อตอบโต้สิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “การยึดครองปรปักษ์” และ "การโจมตีสิทธิและเสรีภาพของชาวอเมริกัน" มีการชุมนุมประท้วงมากกว่ากว่า 1,400 แห่ง ตั้งแต่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน, ท้องถนนในนิวยอร์ก, บอสตัน, ซอลท์เลกซิตี, แอตแลนตา, ฟลอริดา ไปจนถึงแองเคอเรจ ในอลาสกา
“ไม่ว่าคุณจะถูกปลุกระดมด้วยการโจมตีประชาธิปไตยของเรา การเลิกจ้างลดตำแหน่งงาน การละเมิดความเป็นส่วนตัว หรือการละเมิดบริการต่างๆ ของเรา ช่วงเวลานี้มีไว้สำหรับคุณ” ใบปลิวของงานระบุ “เราตั้งเป้าที่จะสร้างการปฏิเสธวิกฤตการณ์ครั้งนี้ให้เป็นการชุมนุมระดับประเทศครั้งใหญ่และเห็นได้ชัด”
Indivisible ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรที่นำขบวนการเคลื่อนไหวครั้งนี้ร่วมกับพันธมิตรระดับประเทศซึ่งประกอบด้วยองค์กรด้านสิทธิพลเมือง ทหารผ่านศึก กลุ่มสิทธิสตรี สหภาพแรงงาน และผู้สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ ระบุว่ามีผู้คนเกือบ 600,000 คนลงทะเบียนเข้าร่วมงานทั่วสหรัฐ ขณะที่บางงานยังจัดขึ้นในเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก เช่น ลอนดอนและปารีส
ผู้จัดงาน เปิดเผยว่า พวกเขามีข้อเรียกร้องสามประการ ได้แก่
1. ยุติการเข้ายึดอำนาจของมหาเศรษฐีพันล้าน (มัสก์) และการทุจริตที่แพร่หลายของรัฐบาลทรัมป์
2. ยุติการตัดลดงบประมาณสำหรับโครงการประกันสุขภาพ Medicaid, โครงการประกันสังคม Social Security และโปรแกรมอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับคนทำงานที่ต้องพึ่งพา
3. ยุติการโจมตีผู้อพยพ คนข้ามเพศ และชุมชนอื่นๆ
ผู้ชุมนุมพร้อมใจกันชูป้ายประท้วงในหลากหลายประเด็นความไม่พอใจต่อรัฐบาลทรัมป์ ตั้งแต่การตัดงบเลิกจ้างพนักงานของรัฐจำนวนมากที่นำโดยกระทรวง DOGE ภายใต้การดูแลของมัสก์ การต่อต้านเผด็จการฟาสซิสต์ในอเมริกา และการปกป้องสิทธิของกลุ่มต่างๆ
เจมี ราสกิน สส.ของพรรคเดโมแครต ปราศรัยต่อหน้าผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์วอชิงตันว่า สหรัฐจะไม่มีอนาคตหากมีประธานาธิบดีที่ดำเนินนโยบายการเมืองแบบผู้นำเผด็จการของอิตาลี "เบนิโต มุสโสลินี" และดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ "เฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์" ที่ประกาศสงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ พร้อมทั้งบอกด้วยว่า ไม่มีใครต้องการเผด็จการผู้ทำลายเศรษฐกิจ ที่รู้จักราคาทุกอย่าง แต่ไม่รู้จักคุณค่าอะไรเลย
ขณะที่ อัล กรีน สส.พรรคเดโมแครต กล่าวเตือนทรัมป์ด้วยว่า อาจอยู่ไม่ครบวาระ เพราะพรรคเดโมแครตจะกลับมากุมอำนาจในรัฐสภาและถอดถอนเขาพ้นตำแหน่งได้สำเร็จ