ตลาดหุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐร่วงต่อเนื่อง คาดตลาดยังลดต่ออีกสัปดาห์

นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะเกิดความวุ่นวายต่ออีกสัปดาห์หนึ่ง เนื่องจากคู่ค้าทั่วโลกตอบโต้ต่อภาษีศุลกากรที่รุนแรงกว่าที่คาดไว้ ฟิวเจอร์สหุ้น E-minis ของสหรัฐ S&P 500 ลดลง 4% ล่าสุด Dow E-minis ลดลง 3.8% ในขณะที่ Nasdaq 100 E-minis ลดลง 4.6% เมื่อเปิดตลาดเมื่อวันอาทิตย์

 

ในช่วงสองวันหลังจากการประกาศนโยบายภาษีของทรัมป์เมื่อวันพุธ ดัชนี S&P 500 ลดลง 10.5% และสูญเสียมูลค่าตลาดประมาณ 5 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นการขาดทุนสองวันที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 

 

การดิ่งลงของดัชนีในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ทำให้ S&P 500 ลดลงมากกว่า 17% จากระดับสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ และลงมาใกล้กับขอบเขตของตลาดหมี ซึ่งโดยทั่วไปจะถูกจำกัดความเมื่อหุ้นลดลง 20%

 

“ตลาดกระทิงตายแล้ว” Mark Malek ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Siebert Financial กล่าวก่อนการเปิดฟิวเจอร์ส “เราอาจเห็นการเติบโตในแดนบวกได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ตอนนี้มันยังเสี่ยงอยู่มาก”

 

ช่วงเวลาของข่าวภาษีศุลกากร ใกล้เคียงกับช่วงเริ่มต้นฤดูกาลประกาศผลประกอบการของไตรมาสแรก ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดซบเซาลง

 

ในรายการทอล์คโชว์ช่วงเช้าวันอาทิตย์ ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจระดับสูงของทรัมป์พยายามชี้นำว่านโยบายภาษีศุลกากร เป็นการเปลี่ยนตำแหน่งที่ชาญฉลาด

 

Scott Bessent รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวในรายการ Meet the Press ของ NBC News ว่า "ไม่มีเหตุผล" ที่จะคาดการณ์ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย

 

เทรดเดอร์บางคนเชื่อว่าอย่างน้อยตลาดหุ้นก็จะพยายามกลับมาอีกครั้ง

 

“บางที ในสัปดาห์นี้อาจเป็นไปได้ที่เราจะต้องมีวันที่ดีขึ้น” Steve Sosnick หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ Interactive Brokers กล่าวก่อนการเปิดฟิวเจอร์ส

 

คำถามยังคงอยู่เกี่ยวกับความยั่งยืนของซื้อขายหุ้น

 

“เราอาจเห็นวันหนึ่งในสัปดาห์นี้ที่หน้าจอเป็นสีเขียว แต่การซื้อขาย อาจยังคงผันผวนต่อเป็นเวลาสามหรือสี่สัปดาห์” อเล็กซ์ มอร์ริส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ F/m Investments กล่าว “เมื่อถึงจุดนั้น ผู้คนจะเริ่มบอกว่า เราปล่อยอากาศออกจากลูกโป่งพอแล้ว”