posttoday

ราคาน้ำมันโลกร่วงหนักกว่า 2% หวั่นอุปสงค์ลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจ

22 เมษายน 2568

ราคาน้ำมันร่วงมากกว่า 2% หลังมีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน ขณะนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจจากภาษีที่อาจกดความต้องการเชื้อเพลิง

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าลดลง 1.70 ดอลลาร์หรือ 2.5% สู่ 66.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากปิดเพิ่มขึ้น 3.2% ในวันพฤหัสบดี วันพฤหัสบดีเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเป็นวันหยุด Good Friday 

 

น้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐร่วงลง 1.60 ดอลลาร์หรือ 2.5% สู่ 63.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเพิ่มขึ้น 3.54% ในช่วงก่อนหน้า

 

ความเคลื่อยไหวดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังการคว่ำบาตรเพิ่มเติมของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วต่อโรงกลั่นน้ำมันอิสระของจีนที่อ้างว่าแปรรูปน้ำมันดิบของอิหร่าน และเพิ่มแรงกดดันต่อเตหะราน

 

ตลาดยังตกอยู่ภายใต้ความเครียดในวันจันทร์หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ธนาคารกลางสหรัฐซ้ำแล้วซ้ำอีก 

 

ทรัมป์กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวลงเว้นแต่อัตราดอกเบี้ยจะลดลงทันที 

 

ราคาน้ำมันโลกร่วงหนักกว่า 2% หวั่นอุปสงค์ลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจ

 

ในขณะเดียวกัน OPEC+ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ซึ่งรวมถึงองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตรเช่นรัสเซีย ยังคงคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 411,000 บาร์เรลต่อวัน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม

 

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นบางส่วนอาจได้รับการชดเชยด้วยการลดปริมาณการผลิตจากประเทศที่ใช้เกินโควต้าของตน

 

ผลสำรวจของรอยเตอร์เมื่อวันที่ 17 เมษายน แสดงให้เห็นว่านักลงทุนเชื่อว่านโยบายภาษีศุลกากรจะกระตุ้นให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงอย่างมากในปีนี้และปีหน้า โดยค่ามัธยฐานของความน่าจะเป็นที่จะเกิดภาวะถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้าจะเข้าใกล้ 50% 

 

สหรัฐอเมริกาเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก

 

ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ รวมถึง PMI ภาคการผลิตและบริการในเดือนเมษายน เพื่อดูทิศทางของเศรษฐกิจที่จะส่งผลต่อการบริโภคน้ำมันด้วย