ผู้ผลิตโซลาร์เซลไทยอ่วม เจอภาษีต้านการทุ่มตลาดสหรัฐ 375%
สหรัฐฯ ตัดสินเก็บภาษีแผงโซลาร์เซลล์จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูงขึ้นเพื่อต่อต้านการใช้เป็นฐานการผลิตจากสินค้าราคาถูกของจีน ไทยอ่วม เจอ 375%
สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นทางการ หลังจากคดีการค้าที่ยืดเยื้อมานานกว่าหนึ่งปี โดยผู้ผลิตอเมริกันกล่าวหาว่าบริษัทจีนใช้ประเทศเหล่านี้เป็นฐานผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงกฎการค้า
ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เปิดเผยอัตราภาษีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยแตกต่างกันไปตามบริษัทและประเทศ:
-ผลิตภัณฑ์ Jinko Solar จากมาเลเซียเสียภาษี 41.56%
-ผลิตภัณฑ์ Trina Solar จากไทยต้องเสียภาษีสูงถึง 375.19%
-สินค้าจากกัมพูชาถูกเรียกเก็บภาษีมากกว่า 3,500% เนื่องจากผู้ผลิตไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน
คดีนี้เริ่มต้นเมื่อปีที่แล้วโดย Hanwha Qcells ของเกาหลีใต้ และ First Solar Inc. จากแอริโซนา พร้อมด้วยผู้ผลิตรายย่อยหลายราย ที่ต้องการปกป้องการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ
ทิม ไบรท์บิล ทนายความของกลุ่มผู้ผลิตอเมริกัน กล่าวว่า "นี่เป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจมาก เรามั่นใจว่าการตัดสินนี้จะจัดการกับแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของบริษัทจีนในสี่ประเทศนี้ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของสหรัฐฯ มาเป็นเวลานาน"
ผลกระทบจากการตัดสินครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากทั้งสี่ประเทศเคยจัดหาผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์มูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ให้กับสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว การนำเข้าจากประเทศเหล่านี้ในปีนี้ลดลงอย่างมาก ขณะที่การนำเข้าจากประเทศอื่นๆ เช่น ลาวและอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม สมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ (SEIA) แสดงความกังวลว่าภาษีดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อผู้ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในสหรัฐฯ เนื่องจากจะทำให้ต้นทุนเซลล์นำเข้าที่โรงงานในอเมริกาใช้ประกอบเป็นแผงสูงขึ้น ซึ่งขัดแย้งกับนโยบายส่งเสริมการผลิตพลังงานสะอาดที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศใช้เมื่อปี 2565
อัตราภาษีนี้จะมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์หลังจากคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศลงคะแนนเสียงในเดือนมิถุนายนว่าอุตสาหกรรมได้รับความเสียหายจากการนำเข้าที่ถูกทุ่มตลาดและได้รับเงินอุดหนุนหรือไม่