ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก จากหุ้นกลุ่มเทค ทรัมป์ย้ำคุยจีนเรื่องภาษี
ดัชนีหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยี ขณะนักลงทุนประเมินสัญญาณว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอาจคลี่คลายลง
หุ้นของAlphabet บริษัทแม่ของ Google เพิ่มขึ้น 1.7% หลังจากที่ผลกำไรเกินความคาดหวังและยืนยันเป้าหมายการใช้จ่าย AI อีกครั้ง ในขณะที่เทคโนโลยี S&P 500 และบริการการสื่อสาร ปิดบวกมากกว่า 1%
แต่นักลงทุนต่างยังคงติดตามตัวเลขผลประกอบการของบริษัทต่างๆ อย่างใกล้ชิดในฤดูกาลผลประกอบการนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคาดการณ์ที่ลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ว่าการเจรจาภาษีกำลังดำเนินการกับจีน แต่ปักกิ่งปฏิเสธว่าการเจรจาใดๆ เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับความคืบหน้าในการลดความรุนแรงของสงครามการค้าที่อาจบั่นทอนการเติบโตทั่วโลก
ทรัมป์บอกกับนิตยสารไทม์ว่าการเจรจากำลังเกิดขึ้น และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนได้โทรหาเขา
การเก็บภาษีแบบตอบโต้กัน ที่เริ่มต้นด้วยการประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้าจำนวนมากของทรัมป์เมื่อวันที่ 2 เมษายน มีแนวโน้มจะขัดขวางการค้าระหว่างสองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก และก่อให้เกิดความกลัวว่าการเติบโตทั่วโลกจะชะลอตัวลง
ดัชนีหุ้นหลัก 3 อันดับแรกของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในสัปดาห์นี้ ขณะที่หุ้นยุโรปพุ่งขึ้นเป็นรายสัปดาห์เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 20.10 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 40,113.50 จุด
ส่วนดัชนี S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 40.44 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 5,525.21 จุด
และดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) เพิ่มขึ้น 216.90 จุด หรือ 1.26% เป็น 17,382.94 จุด
ราคาน้ำมันขยับสูงขึ้น แต่ภาพรวมทั้งสัปดาห์ลดลง
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนต์ บวก 32 เซนต์ อยู่ที่ 66.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ร่วงลง 1.6% ตลอดทั้งสัปดาห์
น้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ มาอยู่ที่ 63.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งลดลง 2.6% ต่อสัปดาห์
ราคาทองคำซึ่งเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ลดลง 1.7% อยู่ที่ 3,292.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์