สเปน-โปรตุเกส โกลาหล ไฟฟ้าดับข้ามวัน บริการสาธารณะล่ม

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประชาชนในสเปนและโปรตุเกสประสบกับเหตุการณ์ไฟฟ้าดับในวงกว้างซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทรไอบีเรีย เป็นสถานการณ์ที่ "ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" ตามที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลได้รายงาน

 

เมืองสำคัญของสเปนอย่างมาดริดและบาร์เซโลนาประสบกับไฟฟ้าดับ ในขณะที่โปรตุเกสได้รับผลกระทบในวงกว้างเช่นกัน รัฐบาลทั้งสองประเทศได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อรับมือกับสถานการณ์

 

นายเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน แถลงว่า "เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เคยมีมาก่อน ประเทศสูญเสียกำลังผลิตไฟฟ้า 15 กิกะวัตต์ภายในระยะเวลาเพียง 5 วินาที ซึ่งคิดเป็น 60% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ"

 

การสืบสวนหาสาเหตุของเหตุการณ์

 

การสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ยังดำเนินอยู่ โดยแต่ละฝ่ายได้ให้ข้อมูลที่แตกต่างกัน:

 

-ฝ่ายโปรตุเกส: ระบุว่าต้นเหตุเกิดจากฝั่งสเปน

-ฝ่ายสเปน: ชี้แจงว่าปัญหาเกิดจากความล้มเหลวในระบบเชื่อมต่อกับฝรั่งเศส

-ผู้บริหารบริษัทโครงข่ายไฟฟ้าสเปน (REE): ยืนยันว่าปัญหาเริ่มต้นจากการขาดการเชื่อมต่อกับฝรั่งเศส

 

นายลูอิส มอนเตเนโกร นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส ได้แถลงว่า "ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ถึงการโจมตีทางไซเบอร์" แม้จะมีการคาดการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ในหลายลักษณะ

 

ผลกระทบต่อการบริการสาธารณะและภาคธุรกิจ

 

เหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน ดังนี้:

 

-ระบบขนส่ง: มีการยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก และระบบรถไฟรวมถึงรถไฟใต้ดินต้องหยุดให้บริการชั่วคราว

-ระบบจราจร: ไฟสัญญาณจราจรในเมืองหลักไม่สามารถใช้งานได้ มีรายงานว่าประชาชนบางส่วนได้อาสาช่วยดูแลการจราจรโดยสวมเสื้อสะท้อนแสง

-การบริการด้านสาธารณสุข: โรงพยาบาลหลายแห่งต้องเลื่อนการรักษาที่ไม่เร่งด่วน และใช้ระบบไฟฟ้าสำรองสำหรับการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน

-ภาคธุรกิจ: ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เช่น Lidl และ IKEA ต้องปิดให้บริการ ระบบธนาคารออนไลน์ยังคงทำงานได้บนระบบสำรอง แต่เครื่อง ATM ส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้งานได้

-ระบบอินเทอร์เน็ต: การใช้งานอินเทอร์เน็ตลดลงประมาณ 80-90% ในทั้งสองประเทศ

 

การปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์

 

กระทรวงมหาดไทยของสเปนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 30,000 นายปฏิบัติหน้าที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่สำคัญและเส้นทางคมนาคมหลัก ในขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านพลังงานทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขระบบไฟฟ้า

 

ผลการดำเนินการในคืนวันจันทร์ สเปนสามารถฟื้นฟูกำลังไฟฟ้าได้ประมาณ 61% ส่วนโปรตุเกสสามารถกู้คืนสถานีไฟฟ้าได้ 85 สถานีจากทั้งหมด 89 สถานี พื้นที่ที่ได้รับการฟื้นฟูระบบไฟฟ้าเป็นลำดับแรกได้แก่ แคว้นบาสก์ บาร์เซโลนา และบางส่วนของมาดริด

 

บทเรียนและความท้าทายด้านโครงข่ายพลังงานยุโรป

 

เหตุการณ์ไฟฟ้าดับในวงกว้างไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่สำหรับยุโรป โดยมีเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นในอิตาลีเมื่อปี 2003 และในเยอรมนีเมื่อปี 2006 อย่างไรก็ตาม ขนาดและระยะเวลาของเหตุการณ์ครั้งนี้มีนัยสำคัญต่อการพิจารณาความมั่นคงด้านพลังงาน

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานได้วิเคราะห์ว่า แม้ประเทศในยุโรปจะมีการเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น แต่โครงข่ายพลังงานยังคงมีประเด็นที่ต้องพัฒนา โดยเฉพาะในด้านความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ

 

เหตุการณ์ครั้งนี้อาจนำไปสู่การทบทวนนโยบายและมาตรการด้านความมั่นคงทางพลังงานของสหภาพยุโรปในอนาคต