แองจี้ ลูกไม้ใต้ต้น โป่ง หินเหล็กไฟ

โดย...เสน่ห์จันทน์/วิภาคย์ พูนพันธุ์ ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

เพลงร็อกของพ่อยังฮิตข้ามยุคข้ามสมัยอยู่เลย เผลอแป๊บๆ ศิลปินร็อกรุ่นใหญ่ระดับตำนาน โป่ง-ปฐมพงศ์ สมบัติพิบูลย์ แห่งวงหินเหล็กไฟก็ไฟเขียวให้ลูกสาว แองจี้-ฐิติชา สมบัติพิบูลย์ ก้าวตามรอยมาเป็นศิลปินเดี่ยวในสังกัดอาร์เอส แต่ขอโตตามทางของตัวเองด้วยแนวเพลงแดนซ์ฮิปฮอป

ไม่ใช่ว่าเป็นลูกศิลปินใหญ่แล้วจะมีใบเบิกทางผ่านสะดวก หากแต่เส้นทางการเป็นนักร้องของแองจี้ต้องฝ่าฟัน มีการทดสอบความสามารถเฉกเช่นเพื่อนๆ กว่าจะมายืนอยู่จุดนี้ได้เป็นเวลา 2 ปีกว่าที่อยู่ในฐานะศิลปินฝึกหัดของค่าย ต้องฝึกร้อง ฝึกเต้น ฝึกการแสดง และต้องทดสอบความสามารถทุกเดือน เพื่อแสดงพัฒนาการก่อนจะมีผลงานจริง จนวันนี้เธอได้เป็นหนึ่งในศิลปินกามิกาเซ่รุ่นล่าสุด

“แองจี้มีโอกาสได้เจอครูท่านหนึ่งในคอนเสิร์ตของคุณพ่อ แล้วจึงได้โอกาสมาออดิชั่น ที่ผ่านมายอมรับค่ะว่ามีเครียดบ้าง เพราะเราก็เรียนหนัก ฝึกหนัก กลัวจะทำออกมาได้ไม่ดี แต่ก็พยายามบอกตัวเองเสมอว่าต้องทำได้ สร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง พยายามฝึกซ้อมบ่อยๆ และได้กำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่ โดยส่วนตัวก็ไม่ได้เครียดนาน เพราะปกติเป็นคนสนุกสนานเฮฮา และชอบร้องชอบเต้นเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว ได้ทำสิ่งที่เรารักก็มีความสุขแล้วค่ะ”

ตอนนี้แองจี้มีผลงานเป็นเพลงรวมของทุกคนในกามิกาเซ่ ชื่อเพลง “ขัดใจ” แต่ในปีหน้าจะมีผลงานเดี่ยวเป็นครั้งแรกในชีวิต เป็นแนวเพลงฮิปฮอปที่เธอถนัด

การเป็นลูกสาวของโป่ง หินเหล็กไฟ ทำให้แองจี้ได้รับการเอ็นดูจากผู้ใหญ่หลายๆ คน หากแต่ในอีกมุมก็เกิดความกดดันจากความคาดหวังว่า ผลงานของเธอจะมีคุณภาพแล้วได้รับความนิยมเช่นคุณพ่อมั้ย ซึ่งแองจี้บอกว่าเคยกดดัน เคยเครียด แต่คิดได้แล้วว่าทุกคนต่างมีเส้นทางของตัวเอง แล้วคุณพ่อคือแรงบันดาลใจของเธอ เป็นต้นแบบ เป็นคนสอนความรู้ทางดนตรี ทำให้เธอรักเสียงเพลง

“ได้เห็นคุณพ่ออยู่บนเวที แฟนคลับร้องเพลงของคุณพ่อได้ เลยรู้สึกว่าอยากจะให้คนร้องเพลงของเราได้บ้าง อยากจะไปยืนอยู่จุดนั้น ก็เรียกได้ว่ามีคุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจในการทำสิ่งต่างๆ เพราะคุณพ่อแนะนำวิธีการร้องและการออกเสียง มีสอนทฤษฎีดนตรีและการทำเพลงบ้างค่ะ แองจี้ไม่เคยเรียนร้องเพลงแร็ป แต่ชอบฟังเพลง เห็นศิลปินฮิปฮอปของเกาหลีก็ฝึกร้องเองบ้าง โดยมีครูเป็นยูทูบ ส่วนความสามารถด้านดนตรี เล่นเปียโนตั้งแต่เด็กๆ เพราะคุณพ่ออยากให้รู้เรื่องโน้ตเพลงค่ะ”

แองจี้ในวัย 13 ปี ต้องแบ่งเวลาทั้งเรียนและทำงานเพลง ทว่าสิ่งที่เธอทำนั้นแม้จะเหนื่อยยาก แต่ก็สร้างความภูมิใจให้ตัวเอง ไม่ทำให้คุณพ่อเสียชื่อ และดีใจมากที่ได้เดินตามรอยเป็นศิลปินอย่างพ่อ