แรงบันดาลจาก มาร์โค โปโล

05 สิงหาคม 2554

อันว่า มาร์โค โปโล คือใคร หลายๆ คนคงรู้กันอยู่แล้ว

อันว่า มาร์โค โปโล คือใคร หลายๆ คนคงรู้กันอยู่แล้ว

โดย.. ปณิฏา สุวรรณปาล

มาร์โค โปโล เป็นชาวอิตาเลียน ที่โด่งดังมาจากการเดินทางสร้างประวัติศาสตร์ จากทวีปยุโรปไปยังทวีปเอเชีย เขานับเป็นชาวยุโรปรายแรกที่เดินทางเข้าไปยังประเทศมองโกเลีย และจีนแผ่นดินใหญ่

มาร์โค เกิดที่เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ราวๆ ค.ศ. 1254 โดยในวัยเพียง 17 ปี เขาก็เริ่มเดินทางไปยังเอเชียกับบิดาและลุงของเขา ระหว่างการเดินทาง เขากลายเป็นเด็กหนุ่มซึ่งเป็นที่โปรดปรานขององค์กุบไลข่าน จักรพรรดิของมองโกล ซึ่งทำให้เขานอกจากจะได้ติดสอยห้อยตามพระองค์เดินทางไปยังที่ต่างๆ แล้ว เขายังใช้เวลาถึง 17 ปี ไปๆ มาๆ ระหว่างมองโกเลีย ไปยังประเทศจีนด้วย เรียกว่าเป็นชาวยุโรปที่เดินทางเข้ามาในจีนแผ่นดินใหญ่ได้ไกลที่สุดเท่าที่เคยมีมา ก่อนที่จะเดินทางกลับผ่านทางเปอร์เซียสู่เวนิส นับสิริรวมแล้ว จากบ้านเกิดไปถึง 24 ปีเต็มๆ

แรงบันดาลจาก มาร์โค โปโล

มาร์โค โปโล กลับบ้านในวัยหนุ่มใหญ่ (ปี ค.ศ. 1295) เขากลายเป็นนักเล่าเรื่องคนดัง ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องการได้ยินเรื่องราวจากปากของเขาเกี่ยวกับตะวันออกไกลทั้งนั้น

ในปี ค.ศ. 1298 เกิดสงครามระหว่างเมืองเวนิสกับเจนัว มาร์โค ถูกจับไปขังคุกที่เจนัว ระหว่างถูกจองจำ เขายังคงทำตัวเป็นนักเล่าเรื่อง โดยเล่าให้ผู้พิมพ์ผู้โฆษณารายหนึ่งนำมาเขียนเป็นหนังสือ The Travels of Marco Polo ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้บรรดาพ่อค้าชาวยุโรป ต่างก็ต้องการเดินทางออกไปค้าขายกับชาวจีนและชาวตะวันออกไกลกันทั้งนั้น

นอกจากนี้ ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ซึ่งเป็นชาวอิตาเลียนเหมือนกัน (คริสโตเฟอร์เป็นชาวเจนัว ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของสเปน) ต้องการจะออกเดินเรือไปยังจีนและอินเดีย ในซีกโลกตะวันออกด้วยเช่นกัน

จากการเดินทางของชาวอิตาเลียนในศตวรรษที่ 13 มาถึงวันนี้ กลายเป็นแรงบันดาลใจบนโต๊ะอาหาร ทำไมอาหารจีนจะคู่กับไวน์อิตาลีจากตะวันออกเฉียงเหนือ อันเป็นบ้านเกิดของมาร์โค โปโล ไม่ได้...

แรงบันดาลจาก มาร์โค โปโล

 

อู้...ว้าว... ช่างครีเอตจริงหนา แรงบันดาลใจจากการเดินทางของชาวอิตาเลียนเลื่องชื่อ “มาร์โค โปโล” กลายมาเป็นดินเนอร์มื้อค่ำอาหารจีนสุดเก๋สไตล์กวางตุ้ง เข้าคู่กับไวน์อิตาเลียนแบบเชื่อม 2 วัฒนธรรม ณ ห้องอาหารจีน อิมพีเรียล ไชนา โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค สุขุมวิท 22

งานนี้พ่อครัวใหญ่ประจำห้องอาหาร ชู ฮอยโฮง สร้างสรรค์เมนูจีน 6 คอร์ส ใน “มาร์โค โปโล ดินเนอร์” เริ่มกันที่ การปะทะสังสรรค์ของออร์เดิฟร์ร้อนเย็น 2 ชนิดในจานเดียว ประกอบด้วย ไก่แช่เหล้า และป่อเปี๊ยะไหมเงิน คอร์สแรกก็เสิร์ฟคู่กับไวน์แดง Sudtiroler Blauburgunder Marklhof Pinot Nero (หรือองุ่นพันธุ์ปิโนต์นัวร์) ปี 2009 ซะแล้ว

คอร์สที่ 2 เชฟเสิร์ฟซุปรสชาติจัดจ้าน อย่าง ซุปเสฉวนทะเล รับประทานคู่กับไวน์ขาวจากองุ่นพันธุ์ซิลวาเนอร์ Sudtirol Eisacktaler, Sylvaner ปี 2009 ช่วยตัดความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดให้กลมกล่อม

แรงบันดาลจาก มาร์โค โปโล

ตามด้วย ปลาหิมะนึ่งเต้าโชว์ ปลาเนื้อขาวนุ่มลิ้นหวานหอม ลิงก์กับไวน์ที่มีกลิ่นผลไม้อย่างปิโนต์ กรีโจ Eisacktaler, Pinot Grigio ปี 2009 ส่วนอีกจานที่รับประทานคู่ไวน์ตัวเดียวกัน คือ เนื้อสันฮ่องกงผัดพริกไทยดำบรอกโคลี ซึ่งน่าจะเป็นน้ำซอสเนื้อรสชาติหอมหวาน ที่ไปด้วยกันได้กับรสชาติของไวน์ ฉีกกฎที่ว่า เนื้อวัวต้องรับประทานคู่กับไวน์แดงเท่านั้นไปอย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม ลองเก็บไวน์แดง Sudtiroler Blauburgunder Marklhof Pinot Nero จากคอร์สแรกเอาไว้ลองรับประทานคู่กับจานนี้ดูก็ได้เหมือนกัน

อาหารจีนต้องปิดท้ายมื้อก่อนของหวาน ด้วยข้าว หรือผัดหมี่ เชฟชูฮอยโฮง เลือกเสิร์ฟข้าวผัดกุ้งกระเทียม ที่ทุกคนล้วนชมเปาะว่า ผัดได้แห้งและมีกลิ่นหอมของกระทะ (อร่อยก็ตรงนี้แหละ) รับประทานคู่กับเคอร์เนอร์ ไวน์ขาวรสชาติหนักแน่นขึ้นมาหน่อย Sudtirol Eisacktaler, Kerner ปี 2009

จานโปรดของมื้อ (เป็นการส่วนตัว) ได้แก่ของหวาน วอแป๋ง เรียกกันง่ายๆ ในบ้านเราว่า พุทราจีนทอด รับประทานคู่กับเหล้าบ๊วย ที่คนจีนเรียกว่า เส้าชิงจิ่ว ส่วนชาวญี่ปุ่น (โต๊ะข้างๆ) เรียกว่า โชกูฉุ ที่นอกจากรับประทานคู่กับพุทราจีนทอดแล้ว ยังเสิร์ฟมาพร้อมบ๊วยเต็ม เกลือ และมะนาว ให้ดื่มด่ำกันแบบดั้งเดิมจริงๆ

ดินเนอร์อาหารจีน 6 คอร์ส พร้อมไวน์จากอิตาลี สนนราคา 1,988 บาทถ้วน โทร.ถามได้ที่ 022619300 ต่อ 5059

ใครใคร่ลอง ไปลองได้แล้วตั้งแต่วันนี้...


 

 

Thailand Web Stat