posttoday

ตรวจวัดดัชนี สุข-สำเร็จ ‘อิทธิ ทองแตง’

09 สิงหาคม 2554

ใครที่คุ้นเคยดีกับวงการหุ้น ย่อมรู้จักดีกับ “ทนายนักช็อป” วิชัย ทองแตง

ใครที่คุ้นเคยดีกับวงการหุ้น ย่อมรู้จักดีกับ “ทนายนักช็อป” วิชัย ทองแตง

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์

ใครที่คุ้นเคยดีกับวงการหุ้น ย่อมรู้จักดีกับ “ทนายนักช็อป” วิชัย ทองแตง แต่วันนี้จะมาทำความรู้จักกับลูกชายคนเก่ง “อิทธิ ทองแตง” ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท ประสิทธิ์พัฒนา และกลุ่มเครือโรงพยาบาลพญาไทเปาโล หนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ส่อแววความเก่งและกล้า (ลงทุน) ไม่แพ้บิดา

ความลับของชายหนุ่ม

ไปเรียนหนังสืออยู่ที่แคลิฟอร์เนียถึง 9 ปี ก่อนจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทย ใครเพิ่งรู้จักอิทธิวันนี้ คงคุ้นเคยดีกับมาดสมาร์ตแอนด์เพอร์เฟกต์ อย่าแปลกใจหากจะเผยความลับให้รู้ว่า อดีตของชายหนุ่มไม่ได้สมบูรณ์แบบ...หล่อ เนี้ยบ เฉียบขาดเหมือนในปัจจุบัน หากเป็นอะไรที่แปลกแตกต่างชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ เจ้าตัวเล่าเองว่า “เกมาก” ขนาดว่าบิดาถึงขั้นเตรียมจะไล่ออกจากบ้าน ข้ามน้ำข้ามทะเลไปตัดพ่อตัดลูกกันถึงสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว

ตรวจวัดดัชนี สุข-สำเร็จ ‘อิทธิ ทองแตง’

“ซานฟรานซิสโกอากาศดีครับ ไม่หนาวไม่ร้อน วิวสวย” ชายหนุ่มเล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดี ถึงการใช้ชีวิตในต่างประเทศ ช่วงนั้นใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ คบเพื่อนหลายกลุ่มหลายวงการ เอาเป็นว่าใช้ชีวิตเต็มที่ และเกเรจนถึงขั้น “ไม่เป็นผู้เป็นคน” แต่ที่สุดของที่สุดเมื่อชีวิตถึงมุมต้องหักเลี้ยวขึ้นมาจริงๆ เขาก็พลิกเปลี่ยน และวกกลับมาได้อย่างผู้ชนะ

อิทธิ หรือ “อาม” ไปเรียนต่อต่างประเทศตั้งแต่อายุยังไม่ 18 ปีเต็ม เขาจบชั้นมัธยมที่ โรงเรียนสวนกุหลาบ จากนั้นจึงไปต่อปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ (International Business) ที่โกลเดน เกต ยูนิเวอร์ซิตี พ่อซื้อบ้านให้อยู่ริมสะพานโกลเดนเกต ช่วงแรกก็เที่ยว เที่ยวและเที่ยว ตรงกันข้ามกับพี่ชาย “อัฐ ทองแตง” ซึ่งเรียนหนังสือและอยู่ร่วมบ้านเดียวกันที่ซานฟรานฯ รายนั้นมุ่งมั่นกับการเรียนมาก

สัจจะวาจา

แม้วิตกกับพฤติกรรมของน้องชาย แต่ลึกๆ พี่ชายก็เชื่อว่าน้องจะกลับมาได้เอง จึงเก็บความลับเงียบ ขนาดว่าน้องไม่ไปเรียนหนังสือเลย ก็ไม่แพร่งพรายบอกทางบ้าน ความมาแตกเมื่อพ่อและแม่ “นงลักษณ์ ทองแตง” เดินทางมาเยี่ยมลูก วันรุ่งขึ้นเป็นวันเกิดของมารดา อามถูกวางตัวเป็นคนขับพาครอบครัวไปเที่ยวฉลองวันเกิด แต่ในคืนนั้นชายหนุ่มกลับออกไปดื่มเหล้าเมามาย ก่อนย่ำรุ่งเพียงเล็กน้อยจึงกลับบ้านด้วยอาการหมดสภาพ

ตื่นมาอีกทีพ่อกับแม่นั่งคอยอยู่แล้ว วันเกิดของแม่วันนั้นหมายทุกอย่างยกเลิกหมด เขาถูกเรียกตัวมาขอดูผลการเรียน ปรากฏว่าไม่ได้ไปเรียนเลยมา 2 เทอมเต็มๆ พ่อพูดด้วยเสียงดังฟังชัดว่า ครอบครัวคุยกันแล้ว พ่อจะให้เงินจำนวนหนึ่งซึ่งมากเพียงพอที่จะใช้เรียนหนังสือให้จบ แต่ขอให้ออกไปจากบ้านนี้ซะ บ้านหลังนี้พ่อซื้อไว้ให้ลูกเรียนหนังสือ เมื่อไม่เรียนก็ต้องออกไป

“ผมตั้งสติและได้สติในวินาทีนั้น ก้มกราบพ่อและแม่จากใจจริง ขอโทษในสิ่งที่ทำ ไม่ขอรับเงินก้อนใหญ่นั้น แต่จะขออยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไป ผมนั่งประจัญอยู่ตรงหน้าแม่ ให้สัญญากับแม่ในวันที่เป็นวันเกิดของแม่ว่า จะกลับตัวและเรียนให้จบ” อามเล่า จากนั้นมาตลอด 3 ปี เขากลับเนื้อกลับตัวตั้งใจเรียน รับผิดชอบตัวเองไม่เถลไถลอีก ให้เครดิตกับครอบครัว และการเติบโตมาบนพื้นฐานที่ดี สิ่งเหล่านี้ที่ชายหนุ่มเชื่อว่าทำให้เขากลับมาได้

‘ขอบคุณที่เปลี่ยนตัวเอง’

วันนี้ในวัย 34 ปี ไม่เพียงแต่จะกลับเนื้อกลับตัว แต่ยังรับผิดชอบในหน้าที่การงาน ดูแลธุรกิจครอบครัวอย่างเต็มความสามารถ ผลงานพิสูจน์ได้ด้วยผลประกอบการของบริษัท ประสิทธิ์พัฒนาและกลุ่มเครือโรงพยาบาลพญาไทเปาโลเอง แม้แต่ตัว วิชัย ทองแตง ก็ยังยอมรับ โดยครั้งหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ธุรกิจถึงความไว้วางใจในตัวบุตรชายทั้งสองว่า “เขาทำได้ดี ต้องบอกว่าดีมากด้วย บอกได้เลยว่า พญาไทและเปาโล ไม่มีผม เขาอยู่ได้”

“3 ปีก่อนในวันที่ลูกชายคนแรกของผมถือกำเนิด พ่อเขียนจดหมายให้ ตอนหนึ่งระบุว่า ไม่คิดว่าจะทำงานกับผมได้ เพราะเป็นลูกคนเดียวที่ทำให้พ่อต้องร้องไห้ ลูกเปลี่ยนไปเยอะ ขอบคุณมากที่เปลี่ยนตัวเอง”อามเล่า สิ่งที่พ่อไม่รู้คือจดหมายของพ่อฉบับนี้ คือการไถ่บาปที่ปลดเปลื้องเขาจากความรู้สึกผิดอันหนักอึ้ง ครั้งหนึ่งที่เคยทำให้แม่พ่อต้องทุกข์ทน ขอบคุณพ่อที่ให้โอกาส...ให้โอกาสให้เขาได้เปลี่ยนตัวเอง

สำหรับธุรกิจโรงพยาบาลที่บริหารงานร่วมกับพี่ชาย อาม กล่าวว่า เป้าหมายตอนนี้คือการรักษาระดับการเติบโต ล่าสุดการควบรวมกิจการกับบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ ผู้บริหารโรงพยาบาลกรุงเทพ และบริษัทในเครืออีก 26 แห่ง ทำให้เป็นต่อด้านความแข็งแกร่ง เพิ่มความพร้อมด้านการแข่งขัน สิ่งสำคัญคือบุคลากรต้องพัฒนาให้สอดรับกับธุรกิจที่บุกขยาย แต่สำคัญกว่านั้นคือการทำให้บุคลากรของบริษัทฯได้ถึงจุดหมายในชีวิตของเขาด้วย

“ในความคิดผม ความสำเร็จทางธุรกิจสำคัญ หากโจทย์ที่แท้จริงคือ ดัชนีความสุขและดัชนีความสำเร็จที่ต้องไปด้วยกัน ผมอยากให้ธุรกิจของเราเป็นที่หนึ่ง ขณะเดียวกันก็อยากทำให้คนของเรามีความสุข ได้ค่าตอบแทนที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีไปพร้อมๆ กันด้วย” เสือกลับใจ กล่าว