“The Winner s Brain” ลับสมองให้เป็นผู้ชนะ
ได้คุยกันไปแล้วในสัปดาห์ก่อนถึงผลจากการศึกษามันสมองของบรรดา “The Winners”
โดย...รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข
ได้คุยกันไปแล้วในสัปดาห์ก่อนถึงผลจากการศึกษามันสมองของบรรดา “The Winners” หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในวงการอาชีพต่างๆ ว่ามีคุณลักษณะตรงกันอยู่ 5 ประการคือ
1.มีเรดาร์จับหาโอกาสที่จะสร้างความสำเร็จ
2.มีความระแวดระวังและความไวที่จะจับสัญญาณอันตรายและความเสี่ยง (Risks) ทั้งหลายอย่างทันท่วงที
3.มีเป้าหมายในการดำเนินชีวิตและการทำงานที่ชัดเจน
4.มีพลังในการทำงานให้บรรลุจุดหมายด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีใครมาชี้นิ้วสั่ง
5.รู้ว่า “พรสวรรค์” (Talent) ของตนเองคืออะไร
แต่ถึงแม้เราจะรู้ว่าคุณลักษณะทั้ง 5 ประการที่เปรียบเสมือนเป็น “เครื่องมือ” (Tools) ที่ทำให้คนธรรมดากลายเป็น The Winners นั้นคืออะไร นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เราพัฒนาตนเองให้เป็น The Winners ได้หากเราไม่รู้วิธี
ดังนั้น ในสัปดาห์นี้เราจะได้มาพูดคุยถึงวิธี หรือกลยุทธ์ที่จะพัฒนาและลับสมองของเราให้เป็น The Winners ตามที่ Jeff Brown Mark Fenske และ Liz Neporent ได้นำเสนอในหนังสือ The Winner’s Brain กันต่อ ซึ่งกลยุทธ์ลับสมองนี้มีอยู่ 8 ประการด้วยกัน
กลยุทธ์ที่ 1 รู้จักตนเอง (Self-Awareness) คุณอาจไม่จำเป็นต้องมี IQ (ไอคิว) ที่สูงลิ่วเพื่อเป็น The Winners (แต่แน่นอนที่ The Winners หลายคนมี IQ สูง) แต่ถ้าคุณรู้จักตนเองในแง่ของจุดเด่น (Strengths) จุดด้อย (Weaknesses) และรู้วิธีที่จะนำจุดเด่นมาใช้ให้ถูกวิธี ความสำเร็จก็ใช่ว่าจะอยู่ไกลเกินเอื้อม วิธีการง่ายๆ ที่จะ “รู้จัก” ตัวเองอาจเริ่มจากการถามผู้ที่ใกล้ชิดให้ช่วยวิจารณ์จุดเด่น จุดด้อยของตนเองในบทบาทต่างๆ เช่น ในบทบาทของการเป็นเพื่อน เป็นพนักงาน เป็นพี่เลี้ยง เป็นนาย ฯลฯ หรือถ้ามีเครื่องมือทดสอบทางด้านจิตวิทยาและทักษะด้านต่างๆ ที่มาใช้ประเมินตนเอง ก็ให้ลองทำบททดสอบต่างๆ นั้นดู ข้อมูลจากการประเมินเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ เพราะมันจะทำหน้าที่เสมือนเป็นกระจกส่องให้คุณรู้จักตนเองจากมุมมองของคนอื่นๆ ได้ดี
กลยุทธ์ที่ 2 สร้างแรงจูงใจและพลังที่จะสู้เพื่อเป็น The Winners Jeff และคณะอธิบายคร่าวๆ ถึงการทำงานของสมองว่า ก่อนที่เราจะมีแรงจูงใจและเรี่ยวแรงในการทำงานเพื่อบรรลุชัยชนะ เราต้องเริ่มจากการมีเป้าหมายที่ชัดเจนเสียก่อน และมันต้องเป็นเป้าหมายที่เราสนใจ ชอบและปรารถนาในสิ่งนั้นอย่างแรงกล้า และเมื่อมีเป้าที่ชัดเจนแล้ว สมองของเราก็ต้องเริ่มสร้างแผนที่หรือแผนการเพื่อเดินทางสู่จุดหมาย คนที่มีเป้าหมายแต่ขาดวิธีการอันเป็นระบบขั้นตอนมักมีผลทำให้ขาดพลังขับดันในการทำงาน เพราะอาจหลงทางและรู้สึกท้อถอยก่อนถึงเส้นชัย ดังนั้นจำไว้ว่าเป้าหมายและแผนการต้องไปด้วยกัน
กลยุทธ์ที่ 3 จิตใจตั้งมั่นจดจ่อกับภารกิจ (Focus) หมายถึงการมีสมาธิมุ่งมั่นกับงาน ซึ่งบางคนที่มีสมาธิสั้นคงรู้ว่าอาจจะปฏิบัติตามกลยุทธ์นี้ได้ยาก ทั้งนี้มีข้อแนะนำให้ตัดสิ่งรบกวนการทำงานทั้งหลายออกไป (เช่น ปิดมือถือ ไม่อ่านอีเมล จัดสภาพแวดล้อมการทำงานที่เงียบสงัดไม่พลุกพล่านหนวกหู เป็นต้น) นอกจากนี้การมีสมาธิยังหมายถึงการรู้จักลำดับความสำคัญของงานที่ต้องทำ และให้เวลากับข้อมูลรายละเอียดปลีกย่อยที่สำคัญกับงานอีกด้วย สรุปก็คือต้องฝึกตนเองให้รู้จักมองทั้งภาพรวมและรายละเอียดปลีกย่อยไปพร้อมกัน
กลยุทธ์ที่ 4 มี EQ (Emotional Quotient) หรือมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ ว่ากันว่าความฉลาด หรือ IQ ทำให้คุณได้งาน แต่ EQ ช่วยให้คุณรักษางานเอาไว้ได้ The Winners จะไม่ปล่อยให้อารมณ์มาครอบงำภูมิปัญญาที่จะพิจารณาถูก–ผิด และเหตุผลข้อเท็จจริงต่างๆ ดังนั้นต้องฝึกบริหารและความคุมอารมณ์ให้ดี
กลยุทธ์ที่ 5 มีความทรงจำที่ดี (Memory) The Winners ต้องรู้จักสกัดและเก็บบทเรียนในอดีตเพื่อจดจำนำมาใช้ในการวิเคราะห์ หรือคาดการณ์เหตุการณ์ในปัจจุบันและอนาคตอย่างเหมาะสม ถือว่าเป็นพฤติกรรมสำคัญในการสร้างและสะสมองค์ความรู้
(Knowledge) เป็นทุนรอนสืบไปในภายหน้า
กลยุทธ์ที่ 6 มีความยืดหยุ่น (Resilience) เมื่อเจอตอหรืออุปสรรคขัดขวาง หรือแม้แต่ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า The Winners ก็จะไม่หมดกำลังใจ แต่สมองจะสั่งการให้ดีดตัวกลับให้ลุกขึ้นมาสู้ใหม่
กลยุทธ์ที่ 7 รู้จักปรับกระบวนท่า (Adaptability) กลยุทธ์ข้อนี้เป็นตอนต่อจากกลยุทธ์ข้อที่ 6 กล่าวคือ เมื่อสามารถดีดตัวกลับจากความล้มเหลวได้แล้วก็ต้องคิดหาหนทางปรับตัว ปรับกระบวนยุทธ์เพื่อแก้ปัญหาและขจัดอุปสรรคต่อไปให้ได้
กลยุทธ์ที่ 8 รู้จักบำรุงรักษาสมองให้มีสุขภาพดีเสมอ อาหารที่ครบหมู่ การออกกำลังกาย การพักผ่อนที่พอเพียง การลับสมองด้วยกิจกรรมที่เหมาะสมล้วนเป็นปัจจัยที่จะทำให้สมองของคุณมีความแข็งแรง สดชื่น และมีคุณภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา
หากสนใจอยากรู้รายละเอียดเบื้องลึกในการพัฒนาสมองให้เป็น The Winners รบกวนต้องหาหนังสือมาอ่านเองนะคะ