‘จู๊ด’ คู่ใจใหม่ จี๊ด แสงทอง
จี๊ด แสงทอง เป็นสาวชอบปั่น...
โดย...ลีโอ
จี๊ด แสงทอง เป็นสาวชอบปั่น...
เปล่านะ! เธอไม่ได้ชอบ ปั่นหุ้น ปั่นหวย หรือปั่นหัวผู้ชายเล่น แต่เธอชอบปั่น “จักรยาน” คลายเครียดต่างหากล่ะ
“รถมันติดขี้เกียจหงุดหงิด เลยปั่นจักรยานดีกว่า” จี๊ด...ด (มาก)
นี่คือบางเหตุผลที่ จี๊ด-แสงทอง เกตุอู่ทอง (สิกขา ฐิตะรดิศ) ปันใจมารักจักรยาน ที่กำลังเทรนดี้สุดๆ ณ ตอนนี้ “ส่วนใหญ่หนูจะปั่นไปซื้อของ ไปหาคุณแม่ที่เอกมัย สบายใจดี”
ก่อนที่จะนำมือละมุนและเรียวนิ้วงามงอนมาลูบไล้ เปอร์โยต์คันโก้ ที่เธอเพิ่งได้มาครอบครองไม่ถึงปีอย่างทะนุถนอม “ยังไม่ได้ตั้งชื่อเลย ช่วยตั้งชื่อให้หน่อยสิค่ะพี่ “ไอ้จ๊าบ” ไม่เอา (อ้าว) เออชื่อ “ไอ้จู๊ด” ดีฝ่า เพื่อนๆ มันชอบเรียกจี๊ดว่าจู๊ด” (หัวเราะ)
ในที่สุด “จี๊ด” กะ “จู๊ด” ก็เข้ามาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน
จู๊ด “คน” เอ๊ย “คัน” ปัจจุบัน แต่ไม่ใช่คันแรกที่จี๊ดเคยขี่ เพราะคันแรกนั้นต้องย้อนไปถึงความทรงจำแรกของ ด.ญ.แสงทอง เมื่ออยู่บนอานจักรยานกันโน้น!
“ตื่นเต้นมาก หนูยังเด็กมากๆ เลย เป็นจักรยานคันเล็กๆ จำได้ว่าพ่อเป็นคนจับท้ายให้ พอได้ที่ ปล่อยเลยพ่อ ปล่อยเลย ถีบได้ ถีบได้ เชื่อดิ ผลปรากฏว่า ชนท้ายรถกระบะเข้าอย่างจัง ถลอกปลอกเปิก ถามว่าเข็ดมั้ย ไม่นะคะ เพราะชนท้ายรถกระบะครั้งนั้นเลยทำให้หนูถีบจักรยานเป็น” (แก่แดด 555)
กระทั่งมาถึง “จู๊ด” จักรยานวินเทจพะยี่ห้อเปอร์โยต์สีขาวนวลตา คันแรกที่จี๊ดลงทุนซื้อเอง “อยากได้จักรยานสีขาว หนูชอบเพราะเวลามันไปอยู่รวมกับจักรยานสีอื่นๆ มันเด่นดี สวยดี คือมันดูมอมแมมนะ แต่ก็น่ารักไปในตัว พี่เจ๊กกี้ (สุรพร เลิศวงศ์ไพฑูรย์) เป็นคนหาให้”
ทันทีที่ได้ยลโฉม จู๊ด รูปหล่อ “ว้าย ว้าย ตายแล้ว หล่อมาก เท่มาก เรามีจักรยานเป็นของตัวเองแล้ว เราก็อยากจะแต่งนั่น แต่งดีมั้ย พี่เจ๊กกี้ก็บอกว่า มึงเอาไปปั่นก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยว่ากัน” (555)
ความรู้สึกเปลี่ยนมั้ยกับสมัยเด็ก “เปลี่ยนสิเรามั่นใจกว่า ทรงตัวได้ดีกว่า และจักรยานเราก็ทรงเท่กว่า (ยิ้มปลื้ม) มันอาจจะไม่ใหม่ แต่เป็นแอนทีกอย่างหนึ่ง บางทีเราไม่ได้ปั่น เราก็เอาไว้โชว์ในบ้าน เวลาใครไปมาก็จะบอกว่า เอ๊ย...จักรยานน่ารักจังเลย เราก็...ใช่ จักรยานฉันน่ารัก (ที่บ้านเรียกเห่อ 5555) ”
ยามเมื่ออยู่บนหลัง (อาน) จู๊ด...จี๊ดรู้สึกยังไงเหรอ?
“หนูรู้สึกว่าเหมือนเราเป็นมนุษย์ตัวเล็กๆ เวลาเราปั่นจักรยานก็จะเรียงแถวกัน เออมันน่ารักดี เหมือนกับมดที่มันเดินเรียงแถวไปสร้างรัง”
อีกประการ... “เวลาเราปั่นจักรยานมันทำให้เรามีสมาธิ ทำให้เราไม่ประมาท และที่แน่ๆ ทำให้เรารู้สึกเป็นอิสระ ซึ่งมันก็สอนเรานะว่าถ้าเราทำตัวสบายๆ เราก็จะปั่นจักรยานได้อย่างอิสระ แต่ถ้าเราเกร็งๆ จักรยานมันก็จะไม่ไปอย่างที่เราต้องการ”
ประการต่อมา... “รู้สึกดีกว่าขับมอเตอร์ไซค์นะ คือเราใช้ขาปั่นกับมือบิดคันเร่ง ความรู้สึกมันคนละแบบกันนะ มันสมูตมากกว่า มันไม่ต้องเร่งรีบ มันค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป มันทำให้เราใจเย็นขึ้นน่ะค่ะ รู้สึกผ่อนคลาย แค่ได้ปั่นเราก็รู้สึกดีแล้ว หนูว่าเหมือนมันมีชีวิต ให้คุณค่าทางใจ ให้แรงบันดาลใจหลายอย่าง” (จี๊ดด....อีกแล้วอ่ะ)
ประการสุดท้าย... “ถึงเป็นจักรยานเวลาปั่นต้องใส่หมวกและมีไฟบอกทาง มันอันตรายเหมือนกันนะจ๊ะ และเราควรปั่นในที่ที่ควรปั่น เราก็ไม่ควรไปรบกวนรถใหญ่ๆ เราควรจะปั่นอยู่ในที่ของเรา อย่าซ่าพี่ เราคันเล็ก” (หัวเราะ)
เอ้อ...อีกสักประการละกัน... “จักรยานเป็นเหมือนหลุมอากาศเล็กๆ ที่ดึงเราออกมาแล้วทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และรับมือและอยู่ร่วมกับสังคมวุ่นวายนี้ได้ เมื่อก่อนเราก็อยากจะไปต่างจังหวัด ไปเรียกเอนเนอร์จี แต่พอมีจักรยานแค่ปั่นไปซื้อนม เราก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว”
สิ่งที่จี๊ดร้องขอ... “อยากให้กรุงเทพฯ พัฒนาฟุตปาทให้ดีกว่านี้ คือ เดินได้ด้วยและปั่นจักรยานด้วยก็ได้ ทั้งหลุม ทั้งท่อ แม่ค้า ถังขยะก็น่าจะจัดการให้ดี ลดเสาไฟเก็บสายไฟนิดหนึ่งก็ยิ่งดี ปั่นจักรยานไปเพลินๆ อาจจะเกี่ยวคอตายได้ (555 เห็นภาพมาก) ถ้าทำตรงนี้ดีๆ ก็น่าจะช่วยลดปัญหาจราจรไปได้เยอะทีเดียว”
ความในใจจาก จี๊ด ถึง จู๊ด... “ก็รักมันนะ มันเป็นของที่น่าทะนุถนอม ถ้ามันเป็นรถใหม่เราก็จะเฉยๆ พอมันเป็นแอนทีก เราก็เลยอยากดูแลมันดีๆ” (น่ารัก อ่ะ!)
และหน้าหนาวที่ใกล้ถึงนี้ “จี๊ด” ตั้งใจว่าจะพา “จู๊ด” ไปเปิดตัว (อิอิ)