posttoday

‘ทางแยกวัดใจ’ หนังทำดี ...!?

20 ธันวาคม 2554

การทำดีนั้นทำยาก และเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่

การทำดีนั้นทำยาก และเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่

โดย..นกขุนทอง

“การทำดีนั้นทำยาก และเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว”

พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สู่แก่นของภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติเรื่อง “ทางแยกวัดใจ” 3 ทางเลือก 3 การตัดสินใจ 3 อารมณ์ โดย 3 ผู้กำกับ ต้นนิธิวัฒน์ ธราธร หมูชยนพ บุญประกอบ และ จิมโสภณ ศักดาพิสิษฏ์ ร่วมสร้างสรรค์ภาพยนตร์ที่คนมีเงินก็ตีตั๋วเข้าชมไม่ได้ ต้องเอาความดีมาแลกดู ด้วยการแบ่งปันเรื่องราวความดีตามหลักทศพิธราชธรรม หลักธรรมที่ทำให้คนเป็นคนดี ของตัวเองหรือของคนรอบข้าง ผ่านเว็บไซต์ www.iwilldoforking.com

‘ทางแยกวัดใจ’ หนังทำดี ...!?

 

ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ “ทางแยกวัดใจ” เกิดขึ้นจากโครงการ “ทำดีให้พ่อดู ปีที่ 5 เฉลิมพระเกียรติฯ 84 พรรษา” โดย ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมมือกับค่ายหนังจีทีเอช คว้า 3 ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมมานั่งกำกับภาพยนตร์ พร้อมนักแสดงนำ “เต้ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์” โดยหวังให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยยึดมั่นในการทำความดี

จะเลือกทางไหน?

กลางดึกสงัด ณ สี่แยก โต้ง เด็กชายวัยมัธยมปลายกำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อนว่าแอบเอารถที่บ้านออกมาใช้ ทันทีที่เห็นสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว โต้งวางสายแล้วขับรถออกไป แต่แล้วจู่ๆ รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่งฝ่าไฟแดงพุ่งเข้าชนรถโต้งอย่างแรง จนตัวคนขี่ลอยกระเด็นหลุดออกจากรถลงไปกระแทกกับพื้นถนน ก่อนจะแน่นิ่งไป!!

(ถ้าคุณเป็น) โต้งจะทำอย่างไร?

1.รีบลงจากรถ แล้วนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลทันที

2.เร่งเครื่องขับออกไป โดยปล่อยคนเจ็บทิ้งไว้แบบนั้น

3.ตกใจขับรถออกไป แต่ด้วยความรู้สึกผิดในใจ จึงย้อนกลับมาพาคนเจ็บนำส่งโรงพยาบาล

แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน การตัดสินใจแต่ละครั้งก็ได้เปลี่ยนแปลงชีวิต... เพราะแต่ละทางเลือก ได้นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง

(3 ผู้กำกับ) ทางแยกวัดใจ

“สิ่งที่พระองค์ท่านทรงสอนเราอยู่เสมอเป็นหลักง่ายๆ เป็นพื้นฐานของการทำความดีอยู่แล้ว หนังมีประเด็นดีๆ ที่ต้องการพูด เราทำบนพื้นฐานให้สนุก ให้คนอยากติดตาม เรามีเมสเซจดีๆ แต่เราจะมาพูดแต่สาระไม่ได้ คนดูจะไม่สนุก และพอดูจบเรื่องจะได้ประเด็นดีๆ กลับบ้านไปด้วย”

‘ทางแยกวัดใจ’ หนังทำดี ...!?

ต้นนิธิวัฒน์ ธราธร การันตีฝีมือจากภาพยนตร์ซีซั่นส์ เชนจ์ (Seasons Change) พี่ใหญ่ของกลุ่มรับหน้าที่กำกับทางเลือกที่ 3 โดยใช้เส้นอารมณ์ดรามามาสะกดคนดู ต้นรับอาสาเล่าถึงที่มาของทางแยกวัดใจว่า ได้รับโจทย์ให้กำกับหนังที่พูดถึงการทำความดีและเชิญชวนคนมาทำความดี ทั้งสามผู้กำกับได้รวมพลังสร้างสรรค์ผลงาน โดยมีโจทย์ว่า หนังต้องดูสนุก มีเนื้อหาสาระดีที่ต้องการสื่อ และไม่ซ้ำกับหนังเรื่องอื่นๆ ที่มีหลายๆ เรื่องอยู่รวมกัน จึงได้ข้อสรุปว่า ทำหนังเรื่องเดียวกัน มีจุดเริ่มต้นจากเหตุการณ์เดียวกัน และแบ่งออกเป็น 3 พาร์ต สุดท้ายมาขมวดปมมีบทสรุปอยู่ด้วยกัน

“เรื่องเดียวกัน ทีมนักแสดงเดียวกัน แต่มีพล็อตข้างในถึง 3 พล็อต แล้วยังเป็นคนละแนวกันอีก แต่อยู่ในเรื่องเดียวกัน เพราะฉะนั้นในกระบวนการทำงานเราต้องคุยกันเยอะมาก และแบ่งพาร์ตของแต่ละคนให้ชัดเจน ก่อนจะเอาสิ่งที่กลั่นออกมาได้ไปสร้างเป็นแต่ละพาร์ต แล้วนำมาร้อยเรียงกันใหม่”

ต่อมากับคอนเซปต์หนังพูดถึงการทำความดี เชิญชวนคนมาทำความดี จะสื่อสารออกมาอย่างไรให้น่าสนใจ จึงมีเหตุการณ์หนึ่งตั้งออกมาเป็นคำถาม แล้วมีทางเลือก ช่วย หรือไม่ช่วย หรือหนีก่อนแล้วกลับมาช่วย แล้วเกิดอะไรขึ้นกับแต่ละ 3 ทางเลือกนี้ “ผมว่าการทำความดีหรือไม่ทำความดี ช่วยหรือไม่ช่วยมันคาใจไปตลอดชีวิตนะ มันคือปมอย่างหนึ่งในชีวิตเรา หนังมีบทสรุปให้และน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้คนฉุกคิด อย่างน้อยตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไร เพราะแต่ละตอนก็มีตัวอย่างให้ดู อย่างน้อยที่สุดชีวิตการเลี้ยวคนละแยก ผลที่ได้มันกลายเป็นคนละแบบไปเลย บางคนพอเห็นหนังเฉลิมพระเกียรติอาจจะติดภาพเดิมๆ กลัวหนังจะไม่สนุก แต่ผมว่าหนังสนุกกับการตั้งคำถาม คนที่ชอบดูหนังน่าจะสนุกกับเงื่อนไขแบบนี้ แต่สำหรับคนดูทั่วๆ ไป หนังมีประเด็นดีๆ ที่ต้องการพูด เราทำบนพื้นฐานให้สนุก ให้คนอยากติดตาม โจทย์แรกที่เราทำคือ ต้องสื่อสารประเด็นดีๆ ออกมาให้ได้ และต้องทำให้สนุก ในหลวงให้ข้อคิดกับเราไว้ แต่เราทำในกระบวนการที่ไม่เคยเห็นมาก่อน”

“รู้สึกว่าชีวิตคนเรามันมีทางแยกให้ต้องเลือกเดินเสมอ มันจะต้องมีสักครั้งที่พอเราเลือกอะไรสักอย่างไปแล้วต้องอดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าเลือกอีกอย่างละ จะดีกว่านี้ไหม หรือรู้งี้เลือกแบบนี้ดีกว่า...”

หมูชยนพ บุญประกอบ ที่ฝากผลงานขั้นเทพไว้ในเรื่อง “Suckseed ห่วยขั้นเทพ” รับหน้าที่กำกับทางเลือกที่ 1 กับแนวทางถนัด โรแมนติก คอมมิดี แม้จะมีดรามานิดๆ แต่ก็เดินเรื่องด้วยความสนุกสนาน บางคนอาจคิดว่าทางเลือกนี้น่าจะแฮปปี้เอนดิงที่สุด แต่ก็นั่นแหละ ทุกเส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอ แม้จะมีจิตสำนึกรู้ว่าทางนี้ถูก ทางนี้ผิดก็ตาม

‘ทางแยกวัดใจ’ หนังทำดี ...!?

 

“ผมไม่เชื่อว่าคนทำดีแล้วได้ดีเสมอ แต่แม้ว่าจะมีบางเหตุการณ์ที่เราทำดีแล้วไม่ได้ดี ก็ยังดีกว่าเราไม่ได้ทำ ผมว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นกำลังใจให้คนทำดีแล้วไม่ได้ดีอย่าท้อ ในความซับซ้อนของพล็อตเรื่อง ผมว่ามันสะท้อนให้เห็นเรื่องราวของชีวิตคนได้ดีทีเดียว เหมือนชีวิตจริงที่คนเราต้องมีทางแยกไว้ให้เลือกเดินเสมอ มันจะต้องมีสักครั้งที่พอเราเลือกอะไรไปแล้ว ต้องกลับมาสงสัยว่า ถ้าเลือกอีกอย่างล่ะ ชีวิตเราจะเป็นอย่างไร จะดีกว่านี้หรือไม่ จะสุขกว่านี้ จะทุกข์กว่านี้ แต่นั่นก็คือสิ่งที่ทำไม่ได้ในชีวิตจริง สำหรับผู้ชม ความสนุกอยู่ที่การเฝ้าดู “ผล” ของการกระทำนั้นๆ ซึ่งบางทีผลของการทำความดีมันอาจไม่ได้ส่งผลดีกับตัวเราเสมอไป จนหลายๆ คนท้อใจ ผมสอดแทรกคำตอบของผมเอาไว้ในเรื่องนี้ และหวังว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นกำลังใจให้คนที่ทำดียังคงทำดีต่อไป และสำหรับอีกหลายๆ คนที่จะลุกขึ้นมาทำดี โดยไม่หวังผลตอบแทน”

“ในชีวิตจริงเราคงไม่มีโอกาสได้เลือกทำหรือเลือกตัดสินใจอะไรหลายๆ ทางเลือกในเหตุการณ์เดียวกัน”

“จิมโสภณ ศักดาพิสิษฏ์” ฝากผลงานไว้ในเรื่อง “ลัดดาแลนด์” มาครั้งนี้เขาใช้อารมณ์ของหนังทริลเลอร์กำกับทางเลือกที่ 2 การนำคนดูเข้าไปสู่ผลแห่งกรรม การค่อยๆ เผยถึงเรื่องราวชีวิตหน้าที่การงานความรักของโต้งใน 10 ปีข้างหน้า นับจากวันเกิดอุบัติเหตุควบคู่ไปกับผลของการกระทำในอดีตที่เสมือนเป็นเงามืดคุกคามชีวิตและจิตใจ ส่งผลต่อหน้าที่การงาน เสมือนฝันร้ายที่ไม่จบสิ้น

“แต่ละทางเลือกก็ส่งผลต่อชีวิตตนเองและคนรอบข้างในรูปแบบต่างๆ ไป เรื่องนี้เหมือนกับให้ผู้ชมได้มาดูกรณีศึกษานะครับ จริงๆ แล้วคงไม่มีใครจะสามารถเลือกหรือตัดสินใจอะไรหลายๆ อย่างในเหตุการณ์เดียวกันได้ ผมว่ามันคือเสน่ห์ของหนังที่เปิดโอกาสให้คนดูได้เลือกคิด เลือกตัดสินใจ เลือกตั้งคำถามกลับไปยังตัวเองได้ และเวลาที่เรามีโอกาสได้เลือกควรมีสติ เพราะการเลือกทางใดทางหนึ่งก็จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปเลย”