หรูริมน้ำเจ้าพระยา โรงพยาบาล “มาตรฐานศิริราช”

08 กุมภาพันธ์ 2555

ป่วย (เมื่อไรคุณก็จะเป็นทั้ง) “ผู้รับ” (แล้วยังจะเป็น) “ผู้ให้” ทูอินวัน

โดย...ปอย

ป่วย (เมื่อไรคุณก็จะเป็นทั้ง) “ผู้รับ” (แล้วยังจะเป็น) “ผู้ให้” ทูอินวัน

ฟังๆ ดูแล้วในโอกาส...เปื่อยยยยย!!! คราวนี้สุดพิเศษ ก็เพราะคนไทยเราจะมีสถานพยาบาลแห่งใหม่ที่ต้องนิยามคำว่า “หรู&เลิศ” โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งมีจุดเด่นด้าน “ภูมิสังคม” คือตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามีทัศนียภาพที่งดงาม อากาศดีเหมาะแก่การพักฟื้นของผู้ป่วย

นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบเป็นชุมชนที่ยังมีความเป็นมิตร เงียบสงบ มีการพัฒนาระบบการคมนาคมที่สะดวกสบาย คุณภาพในการรักษาในรูปแบบการบริหารใหม่จากการดูแลโดยคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คุณภาพที่คนไทยฟังแล้ว “อบอุ่นหัวใจ” เป็นที่สุด

“โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์” พร้อมเปิดบริการเฟสแรก ปลาย เม.ย.นี้ ตอกย้ำแนวคิด “ผู้รับและผู้ให้” นำรายได้คืนกลับสู่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

หรูริมน้ำเจ้าพระยา โรงพยาบาล “มาตรฐานศิริราช”

SiPH “หรูหรา” ริมแม่น้ำ

วันนี้ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ก้าวสู่มิติใหม่แห่งการบริการทางแพทย์ด้วยการเปิด “โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์” หรือ SiPH ตึกโรงพยาบาลดีไซน์หรูหราเรียบง่าย “Simplicity” ในแบบฉบับปรัชญาตะวันออก ล็อบบี้หรูหรา รับวิวงดงามระดับโรงแรม 5 ดาวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ๆ โรงพยาบาลศิริราช

รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลใหม่แห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นอีกมิติหนึ่งทางการแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ซึ่งในวงการแพทย์เป็นเสาหลักในฐานะศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการแพทย์ ทุกวันนี้โรงพยาบาลศิริราช ภายใต้การบริหารจัดการของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ต้องรับภาระดูแลผู้ป่วยจำนวนปีละมากกว่า 2.8 ล้านรายและมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี รวมทั้งยังต้องดูแลเรื่องการศึกษาของแพทย์ การวิจัย แม้กระทั่งมีหน้าที่ในด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม (อีกด้วย) ซึ่งภารกิจหลักทั้งหมดนี้ต้องอาศัยทุนทรัพย์มาก

การบริหารรูปแบบใหม่ “SiPH จึงเกิดขึ้นเพื่อแบ่งเบาภาระของคณะแพทย์ฯ ในการดูแลสังคมและสุขภาพประชาชน โดยกำหนดรูปแบบ การบริหารใหม่ที่มีประสิทธิภาพและคล่องตัว สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ที่สำคัญ รศ.นพ.ประดิษฐ์ ย้ำจะนำเงินรายได้จากการดำเนินงานคืนกลับสู่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

“ด้วยการบริหารรูปแบบใหม่ SiPH ให้บริการที่สะดวกรวดเร็ว ลักษณะเดียวกับโรงพยาบาลเอกชนเลยครับ แต่ค่ารักษาในอัตราค่าบริการที่สมเหตุสมผล คือคุณป่วย เดินเข้ามาก็ต้องจ่ายแพงกว่าโรงพยาบาลรัฐแน่นอน แต่ราคา (โดยเฉลี่ย) 75-80 เปอร์เซ็นต์ของโรงพยาบาลเอกชน เพราะเราต้องการกำไรเพียง 10-12 เปอร์เซ็นต์เพื่อเลี้ยงตัวเองได้อย่างยั่งยืน แต่ไม่เป็นองค์กรที่หวังทำกำไร โดยโรงพยาบาลนี้ไม่มีผู้ถือหุ้น เงินจึงจะคืนกลับสู่ผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์” รศ.นพ.ประดิษฐ์ กล่าวย้ำอีกครั้ง

หรูริมน้ำเจ้าพระยา โรงพยาบาล “มาตรฐานศิริราช”

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจึงได้ริเริ่มโครงการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ขึ้น โดยจะเป็นโรงพยาบาลของรัฐแห่งแรกที่มีรูปแบบการบริหารและบริการที่มีประสิทธิภาพแบบเอกชน โดยมีจุดต่างที่การยึดหลัก “คืนรายได้จากการดำเนินงานกลับสู่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และพัฒนาสู่ความเป็นเลิศระดับสากล” ดังนั้น ผู้ป่วยที่ยินดีจ่ายเพิ่มเพื่อเข้ารับบริการในโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์นั้น นอกจากจะเป็น “ผู้รับ” คือได้รับบริการที่เป็นเลิศตามมาตรฐานทางการแพทย์แล้ว ยังจะมีโอกาสเป็น “ผู้ให้” ด้วย

SiPH มาตรฐานเดียวกับศิริราช

ในปัจจุบันศิริราชต้องดูแลผู้ป่วยถึงปีละ 2.8 ล้านราย โดยเป็นผู้ป่วยในถึง 8 หมื่นราย (และคนไข้ก็เพิ่มขึ้นๆ ทุกปี) ปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องการการรักษา และการบริการที่สะดวกรวดเร็วควบคู่กันไป ที่สำคัญ “ยินดีที่จะจ่ายเพิ่ม!!!” แต่ไม่สามารถแบกภาระค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน! และก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ในโรงพยาบาลรัฐ!!! อีกทั้งสัดส่วนงบประมาณที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้รับจากภาครัฐ การบริจาค และรายได้จากโรงพยาบาลศิริราช นับวันจะไม่เพียงพอที่จะแบกรับภารกิจต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น

แนวคิดนี้จึงมีการเปิดโรงพยาบาลมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลศิริราชขึ้น ทั้งด้านบุคลากรทางการแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยทั้งสองโรงพยาบาลมีการคัดกรองบุคลากรทางการแพทย์ด้วยมาตรฐานเดียวกัน คือ ดี เก่ง และหมอพยาบาล คนทำงานทุกคนมีความสุขในการทำงาน

หรูริมน้ำเจ้าพระยา โรงพยาบาล “มาตรฐานศิริราช”

ส่วนในด้านเครื่องมือทางการแพทย์ก็จะมีความก้าวหน้าและทันสมัยในระดับมาตรฐานโลกเหมือนกัน และยังสามารถช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่าง 2 โรงพยาบาลได้ด้วย

SiPH มีกำหนดเปิดบริการในต้นปี 2555 โดยในปีแรก เฟสแรกจะให้บริการ 30% วันที่ 26 เม.ย.นี้ครับ ในปีที่สองก็จะเปิดให้ได้ 50% ปีที่สามจะสามารถให้บริการได้ 100% เต็มรูปแบบ” รศ.นพ.ประดิษฐ์ กล่าว

การดำเนินงานแบบใหม่นี้ รศ.นพ.ประดิษฐ์ กล่าวว่าหลายคน (อาจ) กังวลว่าศิริราชรักษาได้ แต่บริการจะ (ดี) เท่าเอกชนหรือไม่? แต่เนื่องจากมีประสบการณ์และเคยประสบความสำเร็จมาแล้วจากการเปิดศูนย์หัวใจ The Heart by Siriraj ซึ่งเป็นโครงการนำร่องมาตั้งแต่ปี 2549 สนองความต้องการของผู้ป่วยที่ยินดีจ่ายเพิ่มแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงตัวเอง และคืนกลับสู่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ มีความสูง 14 ชั้น และชั้นใต้ดิน 3 ชั้น ภายในอาคารจะมีศูนย์รักษาโรคครบวงจร เช่น ศูนย์โรคหัวใจ ศูนย์มะเร็ง ศูนย์รังสีรักษา ศูนย์รังสีวินิจฉัย ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ ศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะ ศูนย์ประสาทวิทยา ศูนย์ไตเทียม ศูนย์ทางเดินปัสสาวะ ศูนย์เบาหวาน ศูนย์ภูมิแพ้ ศูนย์กระดูกและข้อ ฯลฯ

หรูริมน้ำเจ้าพระยา โรงพยาบาล “มาตรฐานศิริราช”

มีห้องบริการผู้ป่วยนอก 117 ห้อง ห้องผ่าตัด 12 ห้อง เตียงผู้ป่วย 284 เตียง หอผู้ป่วยวิกฤต 61 ห้อง ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในงานบริการ ให้สามารถเป็นศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ในภูมิภาคนี้

“ใครต้องเดินเข้าห้องอินเทนซีฟแคร์ (ป่วยวิกฤต) จิตใจก็ห่อเหี่ยวแล้วนะครับ การได้อยู่ในห้องดีๆ สวยๆ จิตใจก็ดีตามโรคหายไปกว่าครึ่งแล้ว เป็นการยกมาตรฐานการรักษานะครับ” รศ.นพ.ประดิษฐ์ กล่าว

กว่า 120 ปี ที่โรงพยาบาลศิริราชได้สืบทอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งโรงพยาบาลขึ้นเพื่อทำหน้าที่ “ผู้ให้” ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ชาวไทย จนกลายเป็นเสาหลักด้านบริการทางการแพทย์ที่ค้ำจุนสังคมไทยมาตลอด และเป็นแหล่งรวมความเป็นเลิศทางการแพทย์ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลก

มาวันนี้ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ก้าวสู่มิติใหม่ SiPH ในรูปแบบการบริหารโรงพยาบาลแนวใหม่ที่นอกจากจะสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในสังคมแล้ว ยังได้ตอกย้ำแนวคิด “ผู้รับและผู้ให้” คือ ผู้ป่วยเป็นผู้รับ ดำรงเจตนารมณ์ในด้านการพัฒนาแพทย์และการดูแลสังคมและชาวไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อสืบทอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้อย่างยั่งยืน

 

 

Thailand Web Stat