หมูหมักมิโซะกับสลัดวากาเมะ เมนูสุขภาพดีของ อัญชลี จงคดีกิจ
โดย...อณุศรา ทองอุไร / ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช
โดย...อณุศรา ทองอุไร / ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช
สาวๆ อายุ 30 ปีขึ้นไป คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักนักร้องสุดเท่คนนี้ พี่ปุ๊อัญชลี จงคดีกิจ เมื่อก่อนในบทบาทของนักร้อง นักแสดง ชื่อดัง ที่ดีกรีความเท่นั้นไม่เคยลดลง แต่วันนี้บทบาทเปลี่ยนไป เธอเป็นผู้ที่อุทิศตนให้กับคริสต์ศาสนาอย่างเต็มตัวมานานกว่า 10 ปี กับอีกบทบาทเล็กๆ แต่สุขใจ ก็คือการเป็นหุ้นส่วนร้านชมสวน และซูมิ ซูมิ เอเชี่ยน กริลล์ ที่คริสตัลพาร์ค เรียบทางด่วนรามอินทรา ซึ่งตอนนี้มีถึง 6 สาขาแล้ว แทบไม่อยากจะเชื่อว่าวันนี้พี่ปุ๊อายุใกล้ 60 แล้ว แต่หน้างี้ยังใสกิ๊ก แก้มยังมีเลือดฝาด เนื้อยังแน่นเซี้ยะ หุ่นก็ไร้ไขมันกวนใจ
พี่ปุ๊ บอกว่า น้ำหนักคงที่มาตลอด ไม่เคยอ้วนขึ้นเลย ส่วนหนึ่งมาจากการออกกำลังกายแล้วก็ดูแลตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องการกิน เพราะห่วงสุขภาพ อยากแข็งแรงไม่เป็นภาระแก่ใคร
“ปกติพี่เป็นคนรับประทานน้อยอยู่แล้ว ไม่ชอบของหวาน ของมัน นม เนย นี่ไม่ชอบเลย ชอบอาหารไทยมาก อาหารฝรั่งนี่เฉยๆ ไม่ถูกปาก
และแม้พี่จะมาเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทปิ้งย่าง นำเนื้อดีๆ เข้ามาจากญี่ปุ่นและออสเตรเลีย แต่พี่ก็ไม่กินเนื้อ หยุดมาหลายปีแล้ว บุหรี่ แอลกอฮอล์ก็เลิกเด็ดขาดเกือบ 20 ปีแล้ว” นี่คือสูตรเด็ดเคล็ดลับในการดูแลตัวเองให้ดูอ่อนวัยเกินจริงไปหลายปี
พี่ปุ๊ บอกว่า เรื่องอาหารถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เลือกกินอาหารประจำวันที่ดีต่อสุขภาพนั้นดีกว่า จะไปซื้ออาหารเสริมแพงๆ มากินอย่างมากมาย อาหารไทยเราดีที่สุด เพราะมีเครื่องเทศเยอะ พวกผักสด ผลไม้นั้นก็ยาวิเศษ ส่วนอาหารญี่ปุ่นก็ดีเหมือนกัน เพราะเน้นความสดผ่านขั้นตอนการปรุงน้อย มีผักสดเป็นเครื่องเคียงเยอะ เน้นปลาเป็นส่วนประกอบสำคัญ ก็อนุโลมได้ว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน อย่างเมนูที่เลือกมาในวันนี้ ก็เป็นสูตรที่พี่คิดขึ้นมาเองง่ายๆ คือ หมูหมักมิโซะ กินกับสลัดวากาเมะ พร้อมน้ำสลัดวาซาบิ
“จานนี้เป็นสูตรที่พี่ทำกินเองบ่อยๆ เวลามาที่ร้าน เป็นจานด่วนเล็กๆ มีหมูสัก 5 ชิ้น เพราะที่ร้านเป็นบุฟเฟต์ มีแต่จานใหญ่ๆ ก็มักกินไม่หมด เสียดายของ ก็เลยคิดเมนูเล็กๆ พวกสลัดผักสดจานเล็กง่ายๆ เลยเน้นพวกน้ำหมักด้วยงาเป็นหลัก พี่เป็นคนขาดโปรตีน ต้องเพิ่มโปรตีนเข้าไปบ้าง ส่วนแป้งข้าวนี่ไม่ค่อยเน้น พี่กินแต่ละมื้อน้อย ไม่เยอะ มันแน่นท้อง อึดอัด ผลพลอยได้คือ ไม่อ้วน ไม่เคยมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน มีแต่ขาด”
เขาว่า กินยังไงก็ได้อย่างนั้น ตัวอย่างอยู่ตรงหน้านี่แล้วค่า...
หมูหมักมิโซะกับสลัดวากาเมะ
เครื่องปรุง
1.หมูติดมันเล็กน้อยแล่เป็นแผ่นบางๆ 5 ชิ้น
2.เต้าเจี้ยวบด 2 ช้อนโต๊ะ
3.เหล้าสาเก 1 ช้อนชา
4.กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
5.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
6.ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
7.น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
8.วาซาบิ 0.5 ช้อนชา
9.ผักกาดแก้ว 1 จานเล็ก
10.แตงกวาญี่ปุ่น 1 ลูก
11.สาหร่ายทะเลสดหั่นเป็นเส้นๆ พอคำ 2 ช้อนโต๊ะ
12.มะเขือเทศลูกใหญ่ 1 ลูก
(หากชอบมะเขือเทศลูกเล็กแบบมะเขือเทศราชินีก็ได้เช่นกัน)
วิธีทำ
เมื่อแล่หมูเป็นชิ้นบางๆ เรียบร้อยแล้ว แผ่ใส่จานไว้ ผสมน้ำหมักคือน้ำมันงา เต้าเจี้ยวบด เหล้าสาเก กระเทียมสับ น้ำตาลทรายนิด เกลือหน่อย วาซาบิเล็กน้อย ชิมรสให้ออกหวานนิด เค็มหน่อย มีรสเผ็ดจากวาซาบินิดๆ คนให้เข้ากัน แล้วนำมาราดบนแผ่นหมูบนจาน โรยด้วยต้นหอมซอย ทิ้งไว้สัก 5 นาที นำไปย่างบนเตา (หรือหากไม่มีเตาย่าง เปลี่ยนไปอบหรือเข้าไมโครเวฟสัก 3 นาทีก็ได้เช่นกัน) ก่อนรับประทาน พันม้วนกับผักกาดหอมก็ได้ หรือจะรับประทานเป็นชิ้นๆ แบบนั้นเลยก็ได้ตามสะดวก
สำหรับสลัดผักกาดแก้ว ล้างผักให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นๆ พอคำ นำมะเขือเทศหั่นเป็นแว่นๆ พอคำ หั่นแตงกวาญี่ปุ่นเป็นแว่นพอคำ เรียงผักใส่จานให้สวยงาม วางด้วยสาหร่ายสด โรยต้นหอมซอย นำน้ำหมักที่เหลือมาราดบนสลัดผักสด รับประทานคู่กับหมูหมักที่ย่างเรียบร้อยแล้ว