เลือดมังกร – จันทน์ผา – วาสนา
พืชทั้ง 3 ชนิดที่อยู่ในหัวเรื่อง ซึ่งจะนำมาเขียนถึงในฉบับนี้ ล้วนแต่มาจากต่างทิศต่างถิ่นกัน
โดย...ม.ล.จารุพันธ์ ทองแถม
พืชทั้ง 3 ชนิดที่อยู่ในหัวเรื่อง ซึ่งจะนำมาเขียนถึงในฉบับนี้ ล้วนแต่มาจากต่างทิศต่างถิ่นกัน แต่มีคุณลักษณะสำคัญร่วมกัน คือ มีความสวยงามโดดเด่น จึงเป็นไม้ใบประดับที่ผู้คนทั่วโลกยอมรับและปลูกเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายไม่เพียงเฉพาะแต่ในประเทศไทย
ต้นเลือดมังกร จันทน์ผา และวาสนา ล้วนแต่เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว (Monocots) จัดอยู่ร่วมวงศ์ (Family Dracaenaceae) แต่เดิมนักพฤกษศาสตร์รวมมันอยู่ในวงศ์ลิลี่ (Liliaceae) แต่ต่อมาจึงรวมกลุ่มให้อยู่ในวงศ์ของมันเองดังกล่าว พืชใบเลี้ยงเดี่ยวในวงศ์นี้พบในป่าเมืองไทยมากมายหลายชนิด เช่น ค้อนหมาขาว (D.elliptica, D.granulata) จันทร์แดง (D.loweiri) หมากผู้ป่า (D.pachyphylla) และเกาะนาซิ (D.umbratica) เป็นต้น พืชดังกล่าวมีทั้งที่นิยมใช้เป็นไม้ประดับจัดสวน เช่น จันทร์แดง จันทน์ผา (D.loweiri) และอีกหลายชนิดถูกใช้เป็นพืชสมุนไพรสำหรับบำรุงกำลัง
พืชในสกุลจันทน์ผา (Dracaena) นี้ ส่วนใหญ่มีลักษณะคล้ายกัน คือมีต้นเป็นลำชูใบเกิดประชิดติดกันจนเห็นเป็นข้อถี่บนลำต้น ใบมักแคบยาว แต่บางชนิดมีใบคล้ายดาบหรือหอกสั้นๆ ผิวใบอาจมีสีเขียว ผิวใบเป็นมัน ใบอาจมีลายตามแนวยาวสีครีม ขาว หรือสีเหลือง บางชนิดมีสีแดง หลายชนิดมีจุดสีขาว หรือสีครีมประตามแผ่นใบ ตัวอย่างที่รู้จักกันดี ได้แก่ Dracaena Deremenis “Bausei” วาสนา Dracaena Fragrans Massangeana สายสะพายจอมพล D.Fragrans “Victoriae” ไผ่ฟิลิปปินส์ (Dracaena Godseffiana) เข็มสามสี Dracaena Marginata “Tricolor” และอื่นๆ อีกมาก พืชในสกุลจันทน์ผาและวาสนานี้มีข้อเด่นคือ พวกมันปรับตัวได้ดีกับสภาพแวดล้อมภายในอาคาร ซึ่งมีความเข้มแสงน้อย ความชื้นต่ำ นอกจากนี้ ยังมีลำต้นที่แข็งแรง ชูขึ้นได้สูงต่างระดับ และสามารถแตกพุ่มใบสีเขียวสวยงาม ก่อให้เกิดบรรยากาศป่าดิบชื้นเขตร้อนได้ภายในบ้าน
สำหรับต้นเลือดมังกรนั้นดูจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยได้ไม่ดีเท่าจันทน์ผา ซึ่งเป็นพืชท้องถิ่น ต้นเลือดมังกรไม่ชอบน้ำและความชุ่มชื้นในดินมากนัก หากฝนตกหนักติดต่อกันและเครื่องปลูกระบายน้ำได้ไม่ดี รากมักเน่าตายเอาง่ายๆ
เลือดมังกรเรียกตามชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า Dragon Blood หรือ Dragon Tree (Dracaena Draco) ซึ่งเป็นพืชขนาดยักษ์คล้ายต้นจันทน์ผา อายุนับร้อยปีในเมืองไทย แต่เลือดมังกรนี้พบตามพืชที่แห้งแล้งในหมู่เกาะคานารี ปัจจุบันมีปลูกทั่วไปในยุโรป โดยเฉพาะเขตติดต่อกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกที่ต้นเลือดมังกรจะชอบภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน คือ แห้งแล้ง แสงแดดจัด แต่กลางคืนหนาวเย็น ปัจจัยที่สำคัญต่อการปลูกเลี้ยงต้นเลือดมังกรให้ได้ขนาดใหญ่และงดงาม ก็คือสภาพการระบายน้ำของเครื่องปลูก ซึ่งควรจะควบคุมปริมาณน้ำที่ให้ เนื่องจากในสภาพแวดล้อมดั้งเดิมคือเกาะคานารีและภูมิอากาศของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้นจะร้อนแห้งแล้งในฤดูร้อน ความชื้นในอากาศต่ำ แต่กลับมีฝนตกในช่วงฤดูหนาว
ปัจจุบันเราสามารถหาซื้อต้นเลือดมังกรได้ตามร้านที่จำหน่ายพืชแปลกๆ นำเข้าจากแอฟริกา เช่น พืชที่มีลักษณะเป็นโขด (Caudex Plants) ซึ่งเป็นที่นิยมของนักสะสมไม้แปลกในกรุงเทพฯ เช่น พืชจากแอฟริกาใต้ จากนามิเบีย จากมาดากัสการ์ นอกเหนือจากนี้ ยังอาจพบตามร้านขายไม้ประดับประเภทพืชอวบน้ำ (Succulent) ซึ่งรวมทั้งพืชในวงศ์กระบองเพชร (Cactaceae) อีกด้วย
สำหรับจันทน์ผานั้นพบมากมายหลายสิบชนิดในเขตภูเขาหินปูนทุกภาคของประเทศ แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีนักอนุกรมวิธานจำแนกชื่อออกมาให้ได้รู้จักกัน อย่างน้อยจันทน์ผาที่พบในบริเวณชายแดนไทยพม่า ทางด้านติดต่อกับดอยอ่างขาง ก็มีจันทน์ผาอยู่หลายชนิด เช่นเดียวกับจันทร์แดง ซึ่งเป็นพืชลำต้นเล็กกว่าจันทน์ผา และแตกกอเป็นกิ่งก้านสวยงาม ถูกนำไปปลูกเป็นไม้กระถางและไม้จัดสวน ซึ่งรู้จักกันดี จันทร์แดงนี้พบตั้งแต่เขตประจวบฯ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ลงไปสู่ภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบตามหน้าผาหินปูน
สำหรับวาสนา (Corn Plant; Dracaena Fragrans “Massangeana” นั้น เป็นที่ยอมรับกันมานานแล้วว่าเป็นไม้ประดับในอาคารชั้นเลิศ โดยมีคุณสมบัติสูงในการดูดซับแก๊สพิษจากในอาคารห้องปรับอากาศ ปลูกเลี้ยงได้ง่าย ไม่อ่อนแอ อีกทั้งไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มากนัก คุณสมบัติที่ดีอีกประการคือ แทบจะไร้โรคแมลงรบกวน และมีอัตราการคายน้ำสูง ทำให้สภาพอากาศภายในห้องมีความสดชื่นเยือกเย็น
จันทน์ผาและวาสนามีความคล้ายคลึงกันหลายประการ แต่จันทน์ผาต้องการแสงแดดปริมาณเข้มข้นกว่าวาสนา อีกทั้งต้องการแสงในเวลาที่ยาวนานกว่า เนื่องจากเป็นพืชแดด (Sun Plant) ต่างจากถิ่นกำเนิดของวาสนา ซึ่งอยู่ในสภาพชุ่มชื้นและแสงน้อยกว่า
วาสนาอาจสูงขึ้นไปได้นับสิบเมตร หากปลูกลงดินให้รากเติบโตได้อย่างอิสระ อย่างไรก็ตาม เราควรตัดทอนลำต้นลงปลูกใหม่และใช้ลำต้นปักชำต่อ จะได้ต้นวาสนาเล็กๆ ไว้ใช้งานได้โดยไม่ต้องซื้อหา นับเป็นข้อดีของพืชสกุลนี้