เที่ยวไทยหัวใจใหม่ ตอน มหัศจรรย์เมืองไทย 2555 (Miracle Year of Amazing Thailand 2012)

โดย...นิธิ ท้วมประถม

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกันเดือนละครั้งกับคอลัมน์ เที่ยวไทยหัวใจใหม่ นะครับ ในสัปดาห์นี้ผมจะบอกท่านผู้อ่านว่า เราจะมีเพื่อนร่วมเดินทางคนใหม่ ที่จะพาผมและท่านผู้อ่านไปท่องเที่ยวยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วไทย นั่นก็คือ

รถยนต์ เชฟโรเลต ครับ ต่อไปรถยนต์เชฟโรเลตและผมจะพาท่านผู้อ่านไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วเมืองไทย ด้วยรถยนต์ที่หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์นั่งอย่าง เชฟโรเลต ครูซ ที่มีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลให้เลือกสรร

รถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด สำหรับลุยไปในทุกเส้นทาง ทั้งแบบ On Road และ Off Road หรือเส้นทางทุรกันดารแค่ไหนก็ไม่หวั่น รวมทั้งจะเดินทางแบบหรูๆ สบายๆ ไปกับ เชฟโรเลต แคปติวา รถเอสยูวีสุดหรูก็มีให้เลือกเช่นกัน เรียกว่าไปไหนไปกัน ได้หมดครับกับ เชฟโรเลต

การเดินทางด้วยรถยนต์เชฟโรเลตจะเริ่มตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ส่วนจะเป็นเส้นทางใด โปรดติดตามด้วยใจระทึกได้เลยครับ

ส่วนสัปดาห์นี้ผมไม่มีทริปที่จะพาท่านผู้อ่านไปเที่ยวไหน แต่จะขอแนะนำกิจกรรมของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบกันว่า ในปีนี้ ททท.มีกิจกรรมอะไร และมีเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ อะไรมาแนะนำคนชอบเดินทางท่องเที่ยวของเราอย่างไรบ้าง

ปีนี้ ททท.จะมีธีมท่องเที่ยวคือ “มหัศจรรย์เมืองไทย” หรือพูดเป็นภาษาปะกิดเท่ๆ ว่า Miracle Thailand ซึ่งน่าสนใจเหลือเกินว่า มหัศจรรย์เมืองไทยจะพาเราไปเที่ยวที่ไหน ที่แปลกๆ ใหม่ๆ ทำให้เราเปิดหูเปิดตาได้มากน้อยแค่ไหน

ซึ่งผมเลยถือโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ท่านผู้ว่าการ ททท. สุรพล เศวตเศรนี ถึงแนวคิดและรายละเอียดของโครงการมหัศจรรย์เมืองไทยให้ผมและท่านผู้อ่านได้รับทราบ

สำหรับโครงการมหัศจรรย์เมืองไทยนั้น ททท.ได้กำหนดให้มีทั้งหมด 7 ความมหัศจรรย์ด้วยกัน ประกอบด้วย

1.มหัศจรรย์ใต้ฟ้าพระบารมี (The Miracle of Thai Monarchy)

เป็นการแสดงถึงความมหัศจรรย์ในพระมหากรุณาธิคุณในสามพระบารมีเนื่องในสามโอกาสสำคัญ ดังนี้ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา

2.มหัศจรรย์วิถีไทย (The Miracle of Thainess)

เป็นการนำเสนอวิถีชีวิตไทยในตลาด 3 รูปแบบ จำลองบรรยากาศตลาดดอกไม้ปากคลองตลาด จำลองตลาดโบราณ 100 ปี ตลาดเก้าห้อง จ.สุพรรณบุรี จำลองบรรยากาศตลาดน้ำ ศิลปะกรงนกเขาและนกหัวจุก นำกรงนกที่ประดิษฐ์จากวัสดุต่างๆ เช่น ทำด้วยงาช้าง ทำด้วยมุก ทำด้วยทองคำ ซึ่งมีรูปแบบแตกต่างกันไป ราคาสูง นำมาจัดแสดงโชว์ทั้งแบบแขวนและแบบตั้งโชว์

3.มหัศจรรย์มรดกไทย (The Miracle of Thai Heritage)

เพื่อนำเสนอคุณค่าความอัศจรรย์แห่งมรดกไทย เช่น โขน เครื่องดนตรีไทย มวยไทย เป็นต้น

4.มหัศจรรย์ศิลปวัฒนธรรมและประเพณี (The Miracle of Arts, Culture and Traditions)

นำเสนอการทอผ้าไหมไทย การทำเครื่องเงิน/เครื่องทองโบราณ การแกะสลัก ฯลฯ

5.มหัศจรรย์ธรรมชาติล้ำค่า (The Miracle of Nature)

นำเสนอความอัศจรรย์ใหม่ล่าสุดทางธรรมชาติบนผืนแผ่นดินอีสาน ทะเลบัวแดง หนองหาน กุมภวาปี จ.อุดรธานี

6.มหัศจรรย์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (The Miracle of Health and Wellness)

นำเสนอวิวัฒนาการดั้งเดิมด้านการแพทย์แผนไทยสู่สุขภาพสมัยใหม่แบบมาตรฐานสากล ได้แก่ จารึกวัดโพธิ์ตำนานฤาษีดัดตน ผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์

และ 7.มหัศจรรย์ครัวไทย (The Miracle of Thai Cuisine)

นำเสนออาหารไทยแบบโบราณ อาหารไทยยอดนิยมที่ได้รับการจัดอันดับ เช่น มัสมั่น ผัดไทย ต้มยำกุ้ง ส้มตำ เป็นต้น

จะว่าไปแล้ว ปีมหัศจรรย์เมืองไทยที่ ททท.กำหนดขึ้นมานั้น ผู้ว่าฯ สุรพล จะใช้เป็นกรอบใหญ่ของกิจกรรมการท่องเที่ยวไทยในปีนี้ โดยกิจกรรมท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นจะเดินอยู่ภายใต้มิราเคิลทั้งเจ็ดนั่นเอง

ทั้งนี้ ททท.จะนำกิจกรรมการท่องเที่ยวที่มีอยู่แล้ว และที่คิดขึ้นมาใหม่มาต่อยอดสร้างคอนเซปต์ในแต่ละกลุ่ม แล้วเร่งสร้างสินค้าทางการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับธีมนั้นๆ เพื่อให้เกิดการจับต้องได้ และเร่งโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวต่อไป อย่าง มหัศจรรย์ใต้ฟ้าพระบารมี นั้นก็จะยังคงเน้นเส้นทางท่องเที่ยวในโครงการหลวงต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ไทย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม มหัศจรรย์ไหมไทย หรืองานเซเลเบรต ไทยซิลก์ ซึ่ง ททท.จะร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำจัดกิจกรรมเชิดชูเรื่องราวของผ้าไหมไทยเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา

 

โดย ททท.ได้กำหนดการจัดงานไว้ระหว่างวันที่ 35 ส.ค. 2555 ในหลายแห่งด้วยกัน อย่างเช่น เกษรพลาซ่า จะจัดนิทรรศการผ้าไหมไทยภาคเหนือ ดิ เอ็มโพเรียม จัดนิทรรศการผ้าไหมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เซ็นทรัล ลาดพร้าว จัดนิทรรศการผ้าไหมภาคกลาง และเซ็นทรัลเวิลด์ จัดนิทรรศการผ้าไหมภาคใต้ งานนี้ใครที่เป็นแฟนผ้าไหมพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงครับ เดินกันน่องปูดแน่ๆ

นอกจากนี้ ยังมีการจัดโครงการ 9 ศิลปิน สร้างตำนาน “นิทานแผ่นดิน” เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดย ททท.และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสจะนำเสนอเรื่องราวการสร้างสรรค์งานด้านศิลปะขนาดใหญ่ “Miracle Land Arts” โดยศิลปินระดับชาติ 9 คนใน 9 พื้นที่ 9 ชุมชน เช่น ผลงาน อ.ปรีชา เถาทอง ที่วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่วัดร่องขุน จ.เชียงราย อ.กมล ทัศนาญชลี ที่สวนรถไฟ กรุงเทพมหานคร

สำหรับผลงานของศิลปินต่างๆ ใน 9 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น สุโขทัย สงขลา ตราด สุราษฎร์ธานี (สมุย) นครนายก พระนครศรีอยุธยา เชียงราย และกรุงเทพมหานคร นั้นจะถูกถ่ายทอดแบบเรียลิตีโชว์ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.0010.30 น. ครับ แล้วเราก็จะได้ชมความคืบหน้าของผลงานกันไปเรื่อยๆ และหากใครอยากไปชมผลงานจริงๆ ก็สามารถเดินทางไปชมได้ ซึ่ง ททท.จะทำคู่มือแจ้งวัน เวลา สถานที่ และวิธีการชม แจกฟรี จำนวน 1 หมื่นเล่มทีเดียว

นี่แค่ มหัศจรรย์ใต้ร่มพระบารมี เพียงอย่างเดียวนะครับ ส่วนมหัศจรรย์ หรือมิราเคิลอื่นๆ นั้นจะพูดรวมๆ นะครับ เพราะหากพูดแยกที่จะมหัศจรรย์ละก็ เนื้อที่ไม่พอแน่ๆ แต่จะเอาเฉพาะเรื่องที่น่าสนใจและอยากแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้นำไปเป็นข้อมูลท่องเที่ยวในปีนี้กันบ้าง อย่างเช่น เทศกาลแห่เทียนพรรษาที่ จ.อุบลราชธานี นั้น ต่อไปนี้ ททท.จะสร้างให้มิราเคิลมากขึ้น แต่ไม่ใช่ในแง่ของความใหญ่โตของงานนะครับ แต่เป็นความมิราเคิลในมุมที่ให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ เข้าไปมีส่วนร่วมในงานเทศกาลดังกล่าวที่มากกว่าการยืนชมในระหว่างงานแห่ต้นเทียนครับ

 

เช่น จะให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวงานนี้ได้เข้าไปดูวิธีแกะสลักเทียนกันจริงๆ ตามชุมชนที่แกะสลักเทียน หล่อเทียน กันเลยว่าทำกันอย่างไร ต้องใช้ความละเอียดมากน้อยเพียงใด และจะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้หล่อเทียนร่วมติดไปกับต้นเทียนที่ใช้แห่อีกด้วย นั่นหมายความว่า นักท่องเที่ยวต้องเดินทางไปก่อนที่เทศกาลแห่เทียนจะเริ่ม คือสามารถเดินทางไปได้ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.นี้ จนถึง 5 ส.ค. ซึ่งเป็นวันแห่เทียน

“เราต้องสร้างให้นักท่องเที่ยวมีประสบการณ์ มีส่วนร่วมกับเทศกาลต่างๆ เพื่อที่จะได้เห็นการท่องเที่ยวในมุมใหม่ๆ อย่างตลาดน้ำซึ่งเราเห็นๆ อยู่แล้วว่ามีเรือมาขายของ มีบ้านริมน้ำ แต่เราจะโปรโมตแค่นั้นไม่ได้ ต่อไปเราต้องหาวิธีให้นักท่องเที่ยวได้ลงเรือชาวบ้านย้อนขึ้นไปดูเลยว่า กว่าจะได้สินค้าอย่างผลไม้หรือขนมมานั้นต้องทำอย่างไร ให้นักท่องเที่ยวนั่งเรือเข้าไปในบ้านสวน ไปเก็บของในสวนเลย ไปซื้อขายกันที่นั่น” ผู้ว่าฯ สุรพล ย้ำ

ไม่ใช่เพียงแค่นั้นนะครับ ททท.ยังมีแนวคิดที่จะโปรโมตการละเล่นวัฒนธรรมพื้นบ้านของไทยอย่าง ลิเก ให้กลับมาเป็นที่นิยม หรือกลายมาเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวในปัจจุบันด้วย โดยไม่ยอมให้ลิเกต้องล้มหายตายจากไปพร้อมกับกาลเวลา ซึ่งก็ต้องปรบมือให้กับแนวคิดนี้ครับ โดยจะเริ่มต้นที่งาน มหัศจรรย์มรดกลิเกไทย ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 2224 มิ.ย.นี้ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในงานนั้น ผู้ว่าฯ บอกว่า จะมีการนำเสนอลิเกในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยจะนำเทคนิคสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ เช่น นักแสดงจะต่อสู้กับคู่ต่อสู้เสมือนจริง มีการจำลองถนนลิเกของ จ.นครราชสีมา และพระนครศรีอยุธยาด้วย

ที่สำคัญ ททท.จะโปรโมตเส้นทางท่องเที่ยวถนนลิเกของทั้งสองจังหวัดให้เป็นที่รู้จัก และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของนักท่องเที่ยวอีกด้วย อย่างนี้น่าสนไม่น้อยเหมือนกันครับ ว่าถ้าเราไปเดินถนนลิเกแล้วถ่ายรูปลงเฟซบุ๊กจะเท่แค่ไหน หุหุ

และยังมี มหัศจรรย์ธรรมชาติล้ำค่า ที่ผู้ว่าฯ บอกว่ายังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่ซ่อนตัวอยู่ในแบบที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ อย่างแค่ที่เที่ยวใกล้ๆ อย่าง หลวงพ่อทองคำ ที่วัดไตรมิตร ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ผมเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ หลายต่อหลายคนยังไม่เคยไปกราบท่านแน่ๆ

หรือออกจากกรุงเทพฯ ไปหน่อย เริ่มที่เขาพะเนินทุ่ง จ.เพชรบุรี หน้าร้อนอย่างนี้ต้องไปครับ เพราะเป็นช่วงที่ทะเลหมอกสวยที่สุด เห็นชัดที่สุด เพราะหากขึ้นไปชมช่วงหน้าหนาว ทะเลหมอกจะลอยขึ้นมาในระดับที่เรายืนอยู่ ทำให้ไม่เห็นทะเลหมอก เป็นไงครับ ทะเลหมอกช่วงหน้าร้อน ที่ไหนมีบ้าง หรืออยากจะดูสัตว์ตัวใหญ่ อยากทดสอบเลนส์กล้องเทเลที่มีอยู่ในกระเป๋ากล้อง ก็ต้องไปที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งถือว่าเป็น