posttoday

เหลือเชื่อ!เรือเบิ้ลทดเจ็บพลิกชะตาคว้าแชมป์ลีก

14 พฤษภาคม 2555

"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 44 ปี ไปครองได้สำเร็จ

"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 44 ปี ไปครองได้สำเร็จ

"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 44 ปี หลังโกงความตาย ไล่ยิงช่วงทดเจ็บ2ลูก แซงเอาชนะ "ทหารเสือราชินี" ควีนส์ปาร์ค 3-2 กระชากโทรฟีคืนจากอริร่วมเมือง อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 อย่างเหลือเชื่อ ในศึกพรีเมียร์ลีก วานนี้

แมนฯ ซิตี เปิดรัง เอติฮัด สเตเดียม ทำศึกชี้ชะตาแชมป์ กับ " ควีนส์ปาร์ค โดยมีถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นเดิมพัน เริ่มเกมมา5นาที  ยาย่า ตูเร ได้สับไกยิงด้วยขวา แต่บอลโด่งข้ามคานอีก 5 นาทีถัดมา ซาเมียร์ นาสรี ได้โอกาสแต่บอลยังไม่เข้ากรอบ เจ้าถิ่นก็ได้ ที่ครองบอลได้มากกว่า ขณะที่ทีมเยือนเน้นตั้งรับลึก  นาทีที่15 แมนฯซิตี มีโอกาสได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ คาร์ลอส  เตเวซ จ่ายให้ ดาบิด ซิลบา เข้าไปพลิกบอลยิงมุมแคบด้วยเท้าซ้าย แต่บอลยังตรงตัว แพทริค เคนนี นายด่านควีนส์ปาร์ค

นาทีที่24 เป็นฝ่ายทีมเยือน ที่ได้ลุ้นบ้าง เมื่อ ฌิบริล ซิสเซ ได้ฟรีคิกระยะหวังผล20หลา ทว่าบอลลอดกำแพงไปตรงตัว โจ ฮาร์ท เจ้าบ้านยังคงพยายามบุกแหลก อย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสได้จบอีกครั้ง เมื่อ คาร์ลอส เตเวซ ไหลบอลคืนกลับมาให้ ดาบิด ซิลบา กดเต็มๆด้วยเท้าซ้าย แต่ยังบังคับบอลให้เข้ากรอบไม่ได้ จนกระทั่งมาประสบความสำเร็จใน นาทีที่ 39 เมื่อ ยายา ตูเร ไหลบอลต่อให้ ปาโบล ซาบาเลตา วิ่งสอดมายิงเต็มข้อ เคนนี พยายามปัดบอล แต่ปัดไม่ออก บอลลอยเช็ดเสาเข้าตาข่ายให้ แมนฯซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 ท่ามกลางเสียงโห่ร้องจากแฟนบอล

เหลือเชื่อ!เรือเบิ้ลทดเจ็บพลิกชะตาคว้าแชมป์ลีก ภาพข่าว/เอเอฟพี

ช่วงเวลาที่เหลือ แมนฯซิตี้ พยายามครองบอลไว้กับตัวเอง โดยปล่อยให้ คิวพีอาร์ ยืนคุมโซนในแดนตัวเอง หมดครึ่งแรก ซิตีขึ้นนำ คิวพีอาร์ อยู่ 1-0เริ่มครึ่งหลังมาเพียง3นาที  แฟนเจ้าถิ่นก็ต้องเงียบกริบ เนื่องจาก โจเลียน เลสค็อตต์ โหม่งกลับคืน ฮาร์ท เบาและเป็นทางด้าน ซิสเซ ที่หลุดเข้าไปล่อเป้าไม่มีเหลือ  คิวพีอาร์ ตีเสมอ 1-1

จุดเปลี่ยนของเกมเกิดขึ้นนาทีที่59  เมื่อผู้ตัดสินมองว่า โจอี บาร์ตัน เจตนาตีศอกใส่ คาร์ลอส  เตเวซ จึงทำโทษชูใบแดง ให้ บาร์ตัน ทันที ทำเอานักเตะทั้งสองทีมมีทั้งวิ่งมาเอาเรื่อง บาร์ตัน รวมถึงห้ามปรามกันวุ่นวาย10 คนก็ทำได้ จากจังหวะที่ อามองด์ ตราโอเร แบ็กซ้ายตัวสำรองพาบอลแหวกทางฝั่งซ้ายของสนาม ก่อนเปิดโค้งมาที่หน้าประตูให้ เจมี่ แม็คกี พุ่งโหม่งส่งบอลตุงตาข่ายอย่างงามหยด ให้ คิวพีอาร์ พลิกแซงนำ 2-1 อย่างเหลือเชื่อ

ช่วงเวลาที่เหลือ เจ้าถิ่น โหมบุกเป็นพายุ แต่ผู้เล่น ทหารเสือ กลับช่วยกันสกัดไว้ได้หมดจนครบ 90 นาที โอกาสคว้าแชมป์แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะ ซิตี ต้องการถึง 2 ประตูจาช่วงทดเจ็บ 5 นาที  แต่แล้ว ปาฏิหาริย์ ก็มีจนได้ เมื่อ แมนฯซิตี  มาได้ประตูตีเสมอจาก เอดิน เชโก ในนาทีที่ 92 กระทั่งอีก 2 นาทีต่อมา เซร์คิโอ  อากูเอโร พาบอลแหวกมายิงยัดเสาแรก กลายเป็นประตูให้ ซิตี้ แซงนำ 3-2 กลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ไปแบบสุดระทึก

เหลือเชื่อ!เรือเบิ้ลทดเจ็บพลิกชะตาคว้าแชมป์ลีก ภาพ/เอเอฟพี

มันโชรับเป็นฤดูกาลที่บ้าดีเดือด

โรแบร์โต มันชินี กุนซือแมนเชสเตอร์ ซิตียอมรับว่าพรีเมียร์ลีกซีซันนี้ เป็นเรื่องที่บ้าคลั่งที่สุด เมื่อลูกทีมคว้าแชมป์อย่างดรามา เนื่องจาก แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังจะได้แชมป์สมัยที่ 20 อยู่แล้ว จากการบุกไปชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 ทว่า

"เรือใบสีฟ้า" กลับพลิกสถานการณ์ซัด 2 ประตูชัยในช่วงทดเจ็บ ทำให้พวกเขาชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 3-2 ส่งผลให้ทีมมี 89 คะแนน เท่ากับ "ผีแดง" แต่ผลต่างประตูได้-เสียดีกว่าทีม จึงเฉือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ในช่วงวินาทีสุดท้ายของเกม

"เราไม่สมควรพ่ายแพ้ เราสร้างโอกาสเข้าทำมากมายและเราสมควรชนะในเกมนี้รวมทั้งลีกด้วย มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับสโมสรและบรรดากองเชียร์ภายหลัง 44 ปีที่เราได้แชมป์หนล่าสุด มันเป็นซีซั่นที่บ้าเอามากๆ ห้านาทีก่อนจบเกม ผมไม่คิดว่าเราจะชนะเกมนี้แล้ว แต่เราสมควรชนะมันและสมควรคว้าแชมป์ลีกด้วย และหลังจากนี้ทีมจะมีอนาคตที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน" มันโช กล่าว 

ขณะที่ แว็งซองต์ กอมปานี เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมตราเรือใบ ยอมรับว่าเรื่องดราม่าที่มาคว้าแชมป์ลีกในนาทีสุดท้าย มันเกือบจะมากเกินไปแล้วสำหรับเขา 

"แม้จะดูเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ แต่กรุณาอย่าให้ผมต้องมาลุ้นแบบนี้อีก ตอนที่เซโกทำประตูตีเสมอผมไม่เคยหยุดความเชื่อมั่น ตอนนี้ผมมีความสุขไปกับลูกทีมของผมเพราะพวกเขาพยายามกันอย่างหนักมาตลอดฤดูกาล เราฝันถึงการคว้าแชมป์ร่วมกันแล้วในตนนี้เราก็ทำมันได้สำเร็จ การได้เห็นแฟนบอลแสดงความสุขออกมามันเหลือเชื่อมาก" กองหลังเบลเยียม กล่าว