posttoday

อีแพง & อีเม้ย ‘ตาย’ แล้ว ‘เกิด’

23 พฤษภาคม 2555

คนเราตายแล้วไปไหน? ยังเป็นคำถามที่เหมือนไข่กับไก่อะไรเกิดก่อนกัน

โดย...จตุรภัทร หาญจริง–วณัชวรรณ โชคดีวิพิชย์ ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี (เฉพาะชุดาภา)

คนเราตายแล้วไปไหน? ยังเป็นคำถามที่เหมือนไข่กับไก่อะไรเกิดก่อนกัน แต่ถ้าไปถามลุงป้าน้าอาขาละครทีวี คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า... ตายแล้วเกิดสิจ๊ะ เกิดแบบดังเปรี้ยงปร้าง ข้ามวันข้ามเดือนข้ามปีกันเลยทีเดียวเชียว แบบที่ “นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา” แจ้งเกิดจากบท “ผีอีแพง” ในละครเรื่อง “บ่วง” เช่นเดียวกับที่ก่อนหน้านั้น “ชุ-ชุดาภา จันทเขตต์” ได้แจ้งเกิดจากบท “ผีอีเม้ย” ในละครเรื่อง “รอยไหม” มาแล้ว (ล่าสุดเพิ่งได้รับรางวัลนาฏราชประจำปี 2554 สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม)

ผีสาวมากความสามารถทั้งสอง วันนี้จะถอดวิญญาณ (การแสดง) มาคุยกันแบบหมดเปลือก

รู้สึกอย่างไรบ้างกับการมารับบทผี แล้ว ‘เกิด’ ได้เปรี้ยงปร้างขนาดนี้

นุ่น : “เอาจริงๆ แบบไม่แอ๊บเลยนะ นุ่นไม่รู้สึกว่านี่คือการกลับมาแจ้งเกิด เพราะหน้าที่ของการเป็นนักแสดงคือ การถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครให้ดีที่สุด นอกเหนือจากนั้นมันคือผลพลอยได้มากกว่า ยิ่งเราไปเหลิง หรือไปรู้สึกถึงการกลับมา นุ่นว่ามันเป็นการยึดติด แค่มีคนชอบตัวละครที่เราแสดง หรือชอบละครเรื่องที่เราเล่น แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ”

ชุ : “สำหรับชุตั้งแต่อ่านบทเกือบไม่รับนะ เพราะไม่ทันได้คิดว่าการเล่นบทผีค่อนข้างที่จะสร้างชื่อให้กับคนที่เล่น นึกแต่ว่าลำบากอย่างเดียว (หัวเราะ) เพราะรู้ว่างานต้องหนักมากแน่ๆ แต่ด้วยความที่ไว้วางใจในตัว พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ที่เป็นผู้กำกับเราเลยตัดสินใจเล่น ซึ่งก็ต้องทำให้เต็มที่ ผลตอบรับก็ดีเกินคาดมากๆ”

อีแพง & อีเม้ย ‘ตาย’ แล้ว ‘เกิด’

 

บทผีต้องมีความพิเศษอะไรบางอย่าง ทำให้ ‘ตาย’ แล้ว ‘เกิด’ กันทั้งคู่

นุ่น : “นุ่นคิดว่าความพิเศษของผีอีแพงคือ ทำให้ผู้ชมได้เห็นว่าเวลาที่เราคิดผิด เห็นผิด ทำผิด หรือมีความโกรธ เกลียด ริษยา หรือมีความคิดในด้านมืดยิ่งมากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ออกมามันก็จะทำให้เราทุกข์มากยิ่งขึ้นเท่านั้น”

ชุ : “สำหรับบทอีเม้ยมีความน่ารักในความร้าย ร้ายเพราะรักนายมาก รักเหลือเกิน ยิ่งเป็นผียิ่งชัด รักมาก ถึงกับคลอเคลียนายให้ทำอะไร ทำได้หมด ดีชั่วไม่รู้ รู้แต่ว่าทำเพื่อนายที่ตัวเองรักเท่านี้พอ”

อะไรคือความต้องการสูงสุดของผีอีแพงและผีอีเม้ย

นุ่น : “ความต้องการสูงสุดของผีอีแพงคือ “ความอยากเอาชนะ” ตั้งแต่เป็นคน อีแพงนั้นแสนต้อยต่ำ เลยอยากเอาชนะคนที่สูงกว่า ถูกคนที่เหนือกว่าได้ครอบครองคนที่ตัวเองรัก ก็อยากเอาชนะ อยากจะแย่งชิงคนที่ตัวเองรักคืนกลับมาให้ได้ นุ่นคิดว่าความอยากเอาชนะทำให้คนลืมความดีงามไปได้หมด”

ชุ : “ผีอีเม้ย ‘ต้องการทำทุกอย่างให้นายมีความสุข’ ไม่ว่านายจะสั่งอะไร ฉันก็จะช่วยนายเจ็บแทน แค้นแทน ปวดแทน ตายแทน รับผิดแทน เม้ยทำได้หมดทุกสิ่งอย่างขอแค่ให้นายมีความสุขเท่านี้พอ”

การรับบทผีแน่นอนว่าต้องรับบทเป็นคนเป็นๆ ด้วย ภาคคนกับภาคผีมีความแตกต่างกันบ้างไหม

นุ่น : “สำหรับนุ่นคิดว่า แตกต่างกันค่ะ แตกต่างกันตรงวิธีเล่น แต่ความนึกคิดความรู้สึกหรือความต้องการสูงสุดยังคงมีอยู่เหมือนเดิม ตอนเป็นคนแค้นแค่ไหน ตอนเป็นผีความแค้นยิ่งเพิ่มขึ้น ปมในใจยิ่งผูกแน่นเข้าไปใหญ่”

ชุ : “ชุคิดว่าความต้องการสูงสุดเหมือนกัน สำหรับความแตกต่างคือ การมีชีวิตกับไม่มีชีวิต ตอนเป็นคน นิสัยเป็นคนร้าย คิดแต่เรื่องร้ายๆ พอตายไปแล้ว ความคิดร้ายๆ ยังคงมีอยู่ เพียงแต่ว่าความเป็นมนุษย์มันหมดไป มันถึงได้เกิดบุคลิกที่คลาน ไถไปไถมา แง่กๆ ไปตามที่เห็นกันในจอแค่นั้นเอง (หัวเราะ)”

อีแพง & อีเม้ย ‘ตาย’ แล้ว ‘เกิด’

 

ในฐานะคนแสดงได้ข้อคิดอะไรจากการแสดงเป็นบทผีอีแพงและผีอีเม้ยบ้าง

นุ่น : “ชัดสุดคงเป็นเรื่องของการยึดติด อีแพงนี่มันยึดติดแบบมีตัวกูของกูใหญ่มาก ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ จนมันกลายเป็นความอยากเอาชนะ ยิ่งเลวร้ายคือ การไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมสะบัด โกรธใครก็จะยึดความโกรธนี้ไว้ สุดท้ายเราจะเห็นว่า ผีอีแพงไม่มีความสุขเลย แม้ตอนเป็นคนหรือเป็นผี ว่ากันตามตรงอีแพงไม่ได้เป็นคนขี้เหร่นะ มันก็เป็นคนสวย สวยในแบบของมันน่ะ แต่พอมันโกรธ มันเกลียด มันลอยหน้าลอยตา จากที่สวยก็กลายเป็นไม่สวยในสายตาคนอื่นขึ้นมาได้ในบัดดล”

ชุ : “ชุมองว่าเม้ยรักเจ้านาย แต่เม้ยทำในสิ่งที่ผิด แล้วคิดว่าสิ่งที่ทำผิดนั้นคือ สิ่งที่ดีและถูกต้อง สิ่งนี้นี่แหละที่สอนให้เรารู้ว่า ถ้ามนุษย์ตีความรักผิดไป เส้นทางเดินของชีวิตก็อาจจะผิดพลาดไปได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการตีความอะไรสักอย่างนั้นมีความสำคัญมาก เราต้องรู้จักตีความอย่างมีสติและปัญญา”

เทคนิคการแสดงเป็นผีอีแพง

นุ่น : “นุ่นสร้างจินตนาการ แล้วเอาจินตนาการนั้นมาใช้เทียบเคียง ก่อนหน้านี้เคยเอาประสบการณ์จริงมาใช้เทียบเคียงกับหนังเรื่อง เป็นชู้กับผี แล้วไม่เวิร์ก ทำให้เราติดในอารมณ์ เช่นวันนี้ต้องถ่ายฉากเศร้า ต้องโดนแย่งคนรัก แล้วเรามาเทียบเคียงกับสิ่งที่เราเคยเจอมา เหมือนเรากลับไปรื้อฟื้นบาดแผล สุดท้ายพอเราถ่ายฉากนั้นเสร็จ เราจมดิ่งอยู่โรงแรมคนเดียวแล้วร้องไห้ ชีวิตตอนนั้นไม่มีความสุขเลยลองใช้วิธีการใหม่ ซึ่งมันดีตรงที่ว่าพอผู้กำกับสั่งคัตปุ๊บ มันจบเลย ไม่ติดค้าง มันดีกับตัวนุ่นเองมากๆ ค่ะ”

เล่นเรื่องบ่วง นุ่นมีบ่วงอะไรบ้าง และถอนบ่วงนั้นออกไปได้แล้วหรือยัง

“นุ่นก็มีบ่วงเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ ทั้งเรื่องของที่บ้าน เรื่องของงาน โดยเฉพาะเรื่องความรัก แต่นุ่นคิดว่าท็อปโชคดีนะที่นุ่นได้เล่นละครเรื่องนี้ เมื่อก่อนนุ่นจะมีอารมณ์ผู้หญิงสูง มีอารมณ์เซนซิทีฟ ขี้งอน น้อยใจ แต่ตอนนี้เริ่มปล่อยวางและเริ่มปล่อยให้เขาเป็นอิสระ (หัวเราะ)”

อีแพง & อีเม้ย ‘ตาย’ แล้ว ‘เกิด’

 

สิ่งสำคัญของการเป็นนักการแสดงคืออะไร

ชุ : “สิ่งสำคัญของการเป็นนักการแสดงคือ การรักในอาชีพ เชื่อมั้ยว่านักแสดงที่รักในอาชีพ เขาจะรับผิดชอบในทุกเรื่อง รับผิดชอบในการทำงาน ท่องบท ตีความมาอย่างดี ทำการบ้านมาอย่างดี เขาจะรับผิดชอบในตัวเองอย่างดี ดูแลตัวเองอย่างดี ถนอมตัวเองอย่างดีรับผิดชอบต่อสังคมอย่างดี วางตัวดี ลองสังเกตนักแสดงที่อยู่ยงคงกระพันในวงการ ไม่ว่าจะเป็น พี่นก สินจัย พี่นก จริยา แอน ทองประสม หรือหมิว ลลิตา เขาจะดูแลทุกสิ่งอย่างที่ว่ามา แต่นักแสดงที่ไม่รักในอาชีพ ไปทำงานสาย หรือไปกองแล้วไม่ท่องบท ไม่ทำการบ้าน สาเหตุทั้งหมดทั้งมวลมาจากอะไร มาจากคุณไม่รักในอาชีพ คำเดียวสั้นๆ เพราะฉะนั้นคนที่มีความสุขกับการทำงาน เขาจะทำได้ดีมาก”

ลองพูดถึงนักแสดงรุ่นน้องในฐานะ ‘ตาย’ แล้ว ‘เกิด’ เหมือนกัน

ชุ : “ชื่นชอบนุ่นมาตั้งแต่เล่นเป็นดากานดา ในภาพยนตร์เรื่องเพื่อนสนิทค่ะ หลังจากนั้นก็เห็นนุ่นในด้านการแสดงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาเป็นผีอีแพง ชุยอมรับในฝีมือการแสดงของนุ่นนะ ชุคิดว่าการแสดงต้องเป็นแบบนี้ ในเมื่อคุณตัดสินใจที่จะเล่นแล้ว คุณออมไม่ได้ คุณกั๊กไม่ได้ คุณต้องแสดงให้เต็มที่ คุณต้องจัดเต็ม ถ้าไม่เต็มที่ก็อย่ารับเล่นเลยดีกว่า”

อีแพงปะทะอีเม้ย ประโยคเด็ดมัดใจคอละคร

สิ่งที่ทำให้คนดูจดจำผีอีแพงได้ดีคือ คาถาที่เอาไว้ใช้ทำเสน่ห์คาถานี้มีอยู่ว่า “โอมให้ช้างลืมโขลง โอมให้โขลงลืมไพร โอมให้มันร้อนเร่า โอมให้มันรักใคร่ โอมให้มันอยู่มิได้”

สิ่งที่ทำให้คนดูจดจำผีอีเม้ยคือ คำอวยนาย ประมาณว่า “งามแต๊ๆ งามกว่าปู้ใด๋ในเจียงใหม่ เจียงฮาย ละปาง ละปูน แป้ น่าน ยันอุตรดิตถ์เลยกะเจ้า” หรือ “เม้ยเกิดมาอาภัพแต๊ๆ หม่อมของเม้ยนอกจากจะงามตี้สุดแล้วยังฉลาดล้ำลึกตั้งแต่เจียงใหม่ เจียงฮาย ละปาง ละปูน แป้ น่าน อุตรดิตถ์โตยเจ้า” แถมเสียงร้อง “แฮ่” ที่มีอยู่ในทุกฉาก

&<2288;