posttoday

ดาวมากเสน่ห์ ปาลิดา หงษ์กระจ่าง

12 สิงหาคม 2555

หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาน้องแพรว ปาลิดา หงษ์กระจ่าง กันเป็นอย่างดีกับงานพิธีกร ถ่ายแบบ และนักแสดงรับเชิญหลายๆ รายการ

โดย...โยธิน อยู่จงดี

หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาน้องแพรว ปาลิดา หงษ์กระจ่าง กันเป็นอย่างดีกับงานพิธีกร ถ่ายแบบ และนักแสดงรับเชิญหลายๆ รายการ ด้วยบุคลิกขี้เล่น เป็นกันเองกับทุกคนอีกทั้งยังแฝงไว้ด้วยความฉลาด วันนี้เราจึงไม่พลาดโอกาสได้พูดคุยกับเธอวันสบายๆ ช่วงสายๆ ก่อนการเรียนคาบบ่ายของน้องแพรว ซึ่งตอนนี้เธอเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะอุตสาหกรรมการเกษตร สาขาวิศวกรรมแปรรูปอาหาร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

น้องแพรวเล่าให้พี่ๆ ฟังว่า เธอเป็นคนที่ชอบรับประทานอาหารและรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำ จึงตัดสินใจเรียนต่อทางด้านการแปรรูปอาหาร 2 ปีแรกก็เรียนเหมือนคณะที่เรียนทางสายวิทยาศาสตร์ทั่วไป ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ พอขึ้นปี 3 ก็เริ่มแยกสาย ได้ฝึกงานในโรงงานอาหารของเนสท์เล่ ไอศกรีม ซึ่งเธอรู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ เพราะที่นี่นอกจากจะได้ชิมไอศกรีมอร่อยๆ แล้ว ยังได้ความรู้เรื่องการหาวัตถุดิบ การคัดเลือกโดยใช้มาตรฐานต่างๆ ใช้กฎหมายระหว่างประเทศในการคัดสรร

“จากที่เคยคิดว่าแค่ไปหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากที่ไหนก็ได้ แต่ที่จริงแล้วมีอะไรที่ซับซ้อนกว่านั้น ในโลกนี้มีมาตรฐานของอาหารอยู่มากมายที่ต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเป็นอาหารแปรรูปที่พวกเรารับประทานกัน เป็นปัญหาสำหรับเกษตรกรไทยที่เราต้องให้ความรู้กับเกษตรกรมากขึ้น ทั้งที่จริงแล้วผลผลิตของคนไทยดีมาก แต่ไม่รู้ว่าจะไปขายที่ไหนหรือต้องผ่านกระบวนการอะไรถึงจะได้มาตรฐานส่งออกไปต่างประเทศ ที่ผ่านมามีเพียงแค่กระดาษหรือหนังสือแนะนำ แต่พวกเขาจะได้อ่านหรือเปล่าเราไม่รู้ ซึ่งทำให้เราเสียโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตตรงนี้ไปอย่างมหาศาล” น้องแพรวเล่าถึงขั้นตอนที่กว่าจะได้มาเป็นอาหารแปรรูปที่เรารับประทานกันต้องผ่านหลายมาตรฐาน

ดาวมากเสน่ห์ ปาลิดา หงษ์กระจ่าง

ทำให้ความฝันของเธออย่างหนึ่งนอกจากการรับงานพิธีกร นางแบบ และนักแสดงแล้ว อยากจะเปิดร้านอาหารเล็กๆ อย่างร้านกาแฟหรืออาหารที่เธอชอบรับประทานเป็นพิเศษ แต่นั่นคงเป็นเรื่องของอนาคตที่ยังไม่แน่นอน แต่ที่มั่นใจที่สุดในเวลานี้ก็คือ สัดส่วนระหว่างการรับประทานจะน้อยกว่าการประกอบอาหารอยู่มาก นั่นก็เพราะน้องแพรวกำลังรับงานเป็นพิธีกรรายการรีวิวร้านอาหารของวงใน ใครที่อยากดูผลงานของเธอก็สามารถติดตามกันได้

แต่ก็ทำให้เราอดสงสัยอีกไม่ได้ว่าทำไมด้วยอายุเพียงแค่นี้เธอถึงสามารถแบ่งเวลางานและเวลาเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพชนิดที่ผู้ใหญ่หลายคนยังต้องอาย เธอบอกกับเราว่า น่าจะได้มาจากประสบการณ์ในการสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กที่สถาบันสอนภาษา ซึ่งทำให้เธอต้องรู้จักแบ่งเวลางานและเวลาเรียนอย่างมีวินัย หากพรุ่งนี้มีสอนเช้าก็ต้องรีบเข้านอนให้เร็ว และแบ่งใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ถ้ามีงานสอนหรืองานพิธีกรมาชนกับงานเรียนก็ต้องงดงานนั้นออกไปเพื่อเน้นเรื่องเรียนเป็นหลักนั่นเอง

“ตอนแรกเราไม่ได้ตั้งใจจะมาเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ แต่พอดีตอนมีช่วงปิดเทอมซึ่งเราไม่มีอะไรทำ ก็เลยลองสมัครเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษดู เพราะระดับภาษาอังกฤษถือว่าอยู่ในระดับสูงพอที่จะสอนเด็กๆ ได้ เขาก็เลยรับ ซึ่งกดดันพอสมควร เพราะชื่อผู้สมัครด้วยกันเวลานั้นส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ แต่ก็ทำให้เราต้องเร่งพัฒนาตัว การเรียนภาษาอังกฤษนั้นไม่ยาก เพียงแต่เราต้องหมั่นใช้เป็นประจำ

ดาวมากเสน่ห์ ปาลิดา หงษ์กระจ่าง

ต้องเจอครูที่ดีและหาวิธีการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ถนัดของตัวเองออกมา เวลาแชตกับเพื่อนก็เน้นใช้ภาษาอังกฤษ ซื้อบีบีมาเราก็ซื้อแบบแป้นพิมพ์ภาษาอังกฤษ เพื่อบังคับให้ตัวเองใช้ภาษาอังกฤษ สุดท้ายคือค้นหาวิธีการเรียนรู้ด้วยตัวเอง บางคนชอบเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากการฟังเพลง บางคนชอบดูหนังซาวด์แทร็กก็หาดูหลายๆ เรื่อง หรือบางคนชอบเรียนจากการอ่านข่าวฟังข่าวก็ดี สิ่งเหล่านี้เราต้องค้นหาความถนัดในการเรียนรู้ของตัวเองให้พบ” แพรวเล่าจากประสบการณ์สอนภาษาอังกฤษของเธอให้ฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอค้นพบความสามารถและความถนัดของตัวเอง และสามารถนำมาใช้ในงานอื่นๆ ตามโอกาสดีๆ ที่เธอได้รับ

สุดท้ายนี้เธอยังบอกกับเราอีกว่า ในทุกๆ เรื่องก่อนที่จะทำอะไรทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเรียน เราจะเผื่อใจไว้ก่อน โดยไม่ได้หวังว่าเราจะได้งาน แต่เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด ทุกอย่างอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้ แต่เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด แล้วผลจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้สึกเสียดาย เพราะเราได้ทำดีที่สุดแล้ว

หลังจบการสนทนากับน้องแพรวสั้นๆ เรารู้สึกได้อย่างหนึ่งว่าในช่วงเวลา 4 ปี หรือมากกว่า ในรั้วมหาวิทยาลัย นี่คือสถานที่แห่งการค้นหาตัวตนและแสวงหาโอกาสที่จะได้เดินตามความฝัน เหมือนที่น้องแพรวได้ค้นพบตัวเอง ได้รับโอกาส และใช้เวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิตได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ