posttoday

ประชากรของเวียดนาม

12 สิงหาคม 2555

สัปดาห์นี้อาจารย์ ดร.วิราภรณ์ โพธิศิริ ยังมาช่วยกันนำเสนอภาพของประชากรในภูมิภาคอาเซียนกันต่อค่ะ ทวนกันสักนิดหนึ่งนะคะ

โดย...รศ.ดร.วิพรรณ ประจวบเหมาะ

สัปดาห์นี้อาจารย์ ดร.วิราภรณ์ โพธิศิริ ยังมาช่วยกันนำเสนอภาพของประชากรในภูมิภาคอาเซียนกันต่อค่ะ ทวนกันสักนิดหนึ่งนะคะ ว่าอาเซียนมีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 600 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 8.5 ของประชากรโลก โดยประเทศที่มีจำนวนประชากรมาที่สุดในอาเซียน คือ อินโดนีเซีย ตามด้วย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไทย เมียนมาร์ มาเลเซีย กัมพูชา ลาว สิงคโปร์ และบรูไน

อาทิตย์นี้มาพิจารณาถึงประชากรของเวียดนามกันบ้างนะคะ เวียดนามเป็นประเทศที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากจะมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประชากรในภูมิภาคอาเซียน ยังเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพประชากรทั้งในด้านการศึกษาและสุขภาพ ข้อมูลของ Population Reference Bureau ในปี 2555 แสดงให้เห็นว่า เวียดนามมีประชากร 89 ล้านคน มีอัตราการเพิ่มประชากรร้อยละ 1 ต่อปี เวียดนามเป็นอีกประเทศหนึ่งในภูมิภาคอาเซียนที่มีการเปลี่ยนผ่านทางประชากรจากการที่มีภาวะการเกิดและการตายในระดับสูงมาสู่ระดับต่ำ โดยผู้หญิงคนหนึ่งมีบุตรโดยเฉลี่ยประมาณ 2 คน ด้านภาวะการ

ประชากรของเวียดนาม

ตายนั้นจะเห็นได้ว่า อัตราการตายของทารกของเวียดนามลดลงอย่างมาก จนปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงกว่าประเทศไทยเพียงเล็กน้อย และประชากรของเวียดนามมีอายุค่อนข้างยืนยาวใกล้เคียงกับไทย โดยผู้หญิงมีอายุคาดหมายเฉลี่ยประมาณ 76 ปี และผู้ชายประมาณ 70 ปี จากข้อมูลของสำนักงานโครงการเพื่อการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ชี้ให้เห็นว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อยู่ในระดับปานกลางเช่นเดียวกับไทย โดยเวียดนามมีดัชนีการพัฒนามนุษย์เท่ากับ 0.593 ส่วนไทยมีดัชนีการพัฒนามนุษย์เท่ากับ 0.682 ในปี 2554 ประชากรเวียดนามมีการศึกษาโดยเฉลี่ยประมาณ 5.8 ปี จุดที่ทำให้ดัชนีการพัฒนามนุษย์ไทยสูงกว่าเวียดนาม คือ ระดับรายได้ต่อหัว ซึ่งประชากรเวียดนามยังมีระดับรายได้เฉลี่ยน้อยกว่าไทยมาก

ประเด็นท้าทายทางประชากรในเวียดนาม นอกจากจะเป็นเรื่องประชากรสูงอายุแล้ว ประเด็นเรื่องอัตราส่วนทางเพศก็เป็นประเด็นที่น่าห่วงใย ข้อมูลจากสำมะโนประชากรและการเคหะในปี 2552 พบว่าอัตราส่วนทางเพศของเวียดนามมีค่าผิดปกติไปมาก คือ มีเด็กแรกเกิดที่เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงมาก (เด็กแรกเกิดเป็นผู้ชาย 110 คนต่อเด็กผู้หญิง 100 คน) เนื่องด้วยเวียดนามเป็นประเทศหนึ่งที่มีค่านิยมที่เลือกเพศบุตร โดยเลือกที่จะมีบุตรชายมากกว่ามีบุตรสาว และในเวียดนามมีการใช้การทำแท้งเพื่อเลือกเพศบุตร อัตราส่วนทางเพศที่ไม่สมดุลกันนี้ เป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อความเท่าเทียมกันทางเพศ และสิทธิและสวัสดิภาพของเด็กและสตรี เป็นการปิดกั้นไม่ให้เด็กหญิงหรือผู้หญิงมีโอกาสแม้แต่จะเกิดมามีชีวิต ผลจากการเลือกเพศบุตรนี้ยังจะส่งผลในระยะยาวให้เกิดภาวะบีบคั้นทางการสมรส กล่าวคือ หากมีเด็กชายเกิดมากกว่าเด็กหญิงอย่างมาก เมื่อถึงช่วงวัยที่จะมีครอบครัว ซึ่งผู้ชายในเอเชียมักจะนิยมที่จะสมรสกว่าผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า ส่งผลให้ผู้ชายจำนวนหนึ่งไม่สามารถหาคู่ได้ เนื่องจากผู้หญิงในรุ่นหลังๆ ยิ่งมีจำนวนน้อยลง ไม่ได้สัดส่วนกัน ประเด็นเรื่องการเลือกเพศบุตรจึงเป็นประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลเวียดนามและองค์การระหว่างประเทศกำลังให้ความสนใจและเร่งหาแนวทางแก้ไข