คาราบาวบนแผ่นฟิล์ม
ไถ่ถามกันหนาหูว่าใครหนอช่างกล้าหาญชาญชัยหยิบเอาประวัติวงคาราบาวมาทำเป็นภาพยนตร์
โดย...อนันเดียร์
ไถ่ถามกันหนาหูว่าใครหนอช่างกล้าหาญชาญชัยหยิบเอาประวัติวงคาราบาวมาทำเป็นภาพยนตร์
อาโจวยุทธกร สุขมุกตาภา ยกมือแสดงตัว ก่อนยิ้มอย่างมั่นใจ
แม้สืบดูจากประวัติการทำงานในแวดวงหนังโฆษณามากว่า 20 ปี คว้ารางวัลคุณภาพจากเวทีต่างประเทศมามากมาย มีผลงานหลายตัวเป็นที่ติดอกติดใจผู้ชม
แต่ถึงอย่างนั้นก็จัดว่าชื่อชั้นยังโนเนมเหลือเกินบนถนนแผ่นฟิล์ม
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นี่คือภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของเขา “ยังบาว” (Carabao the Movie)
“สำหรับผม หนังเรื่องแรกในชีวิตของการเป็นผู้กำกับสำคัญที่สุด เรามีโอกาสเพียงครั้งเดียว ช็อตเดียว เรื่องแรกที่จะทำให้คนดูจดจำหนังของเราไปจนตาย เราต้องเลือกทำในสิ่งที่ชอบที่สุด อยากทำที่สุด และมั่นใจว่าสามารถทำมันออกมาได้ดีที่สุด ผมจึงขอเลือกทำหนังชีวประวัติวงคาราบาว”
หลังสั่งสมประสบการณ์มาตลอดสองทศวรรษ ทั้งบทบาทอาร์ตไดเรกเตอร์ ครีเอทีฟ จนกลายมาเป็นผู้กำกับหนังโฆษณาคุณภาพหลายรางวัลจากเวที B.A.D Awards เขาพร้อมแล้วที่จะก้าวกระโดดครั้งสำคัญมาขึ้นแท่นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต
ยังบาวจะพาย้อนอดีตไปขุดคุ้ยเรื่องราวของคาราบาว กว่าจะมาเป็นวงดนตรีเพื่อชีวิตระดับตำนานของเมืองไทย เล่าผ่านวิถีชีวิตของ 7 หนุ่มบนถนนสายดนตรีที่มารวมตัวกันด้วยความรักในเสียงเพลง ใฝ่ฝันสร้างสรรค์ผลงานมีคุณค่า บอกเล่าความเป็นไปของสังคม จนถึงการออกอัลบั้มเพลงเพื่อชีวิตที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์อย่าง เมด อิน ไทยแลนด์
“ทุกเนื้อหาสาระ ข้อคิด อุดมการณ์ที่สอดแทรกในบทเพลง ในการแสดงออกบนเวที ในการใช้ชีวิตนอกเวทีของพี่ๆ วงคาราบาว เป็นแรงบันดาลใจให้ผมมาตลอด
ความเป็นมนุษย์ปุถุชนของสมาชิกวงคาราบาวทุกคนชัดเจนมาก คาราบาวไม่ใช่เทพ ไม่ใช่คนดีเลิศประเสริฐศรีที่สุดในโลก แต่มีความเป็นมนุษย์จริงๆ ที่มีทั้งด้านสว่าง และด้านมืดให้เราได้เรียนรู้ทั้งสองซีก ผมว่าคนที่ชอบคาราบาวเป็นพวกมีเหตุมีผลนะ มิใช่พวกหลงงมงายหัวปักหัวปำ
ข้อประทับใจอีกอย่างคือความเป็นทีมเวิร์ก มิตรภาพอันหนักแน่นระหว่างผองเพื่อนสมาชิก แม้ไม่ได้กลมเกลียวหนักแน่น มีทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกันบ้าง แต่เสน่ห์นั้นกลับอยู่ตรงความแตกต่างของแต่ละคน ไม่ว่าทัศนคติ สไตล์แต่ละคนมารวมกันจึงทำให้วงแข็งแกร่ง มั่นคง ยืนหยัดจนเป็นตำนานถึงทุกวันนี้”
เมื่อเปรียบเทียบกับภาพยนตร์คลาสสิกเรื่อง เสียงเพลงแห่งเสรีภาพ หนังฮิตเมื่อปี พ.ศ. 2528 ที่เล่าประวัติการต่อสู้ของวงคาราบาวยุคก่อตั้ง โดยใช้สมาชิกวงคาราบาวตัวจริงเป็นดารานำทั้งหมด กำกับโดย คัมภีร์ ภาคสุวรรณ์
ผู้กำกับยังบาวยอมรับว่า เนื้อหาและประเด็นที่ต้องการนำเสนออาจคล้ายคลึงกัน แต่ความแตกต่างอยู่ตรงที่วิธีการเล่าเรื่องที่อาจแหวกไปจากขนบการทำหนังทั่วไป รวมถึงเปิดเผยแง่มุมลับๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน
“เราพยายามเก็บข้อมูล คุ้ยปูมหลัง ตามติดตั้งแต่ตระเวนเล่นคอนเสิร์ต ดูการทำงาน ดูวิถีชีวิตส่วนตัวของพี่ๆ แต่ละคน เก็บรายละเอียดทุกเม็ด ทำทุกอย่างด้วยความละเมียดรอบคอบ ผมทำหนังเรื่องนี้ด้วยความเคารพอย่างที่สุดต่อทั้งวงคาราบาว และแฟนคลับของวง”
ไฮไลต์สำคัญคือการนำเหล่าศิลปินนักร้องระดับซูเปอร์สตาร์มาแสดงในหนังเรื่องนี้
เริ่มจาก อาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้สแลม มารับบท แอ๊ด คาราบาว เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ รับบท เล็ก คาราบาว ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์ รับบท เทียรี่ เมฆวัฒนา แบงค์-ปวริศร์ มงคลพิสิฐ รับบท เขียว คาราบาว เต๋า-สมชาย เข็มกลัด รับบท เป้า คาราบาว ต๊อก-ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ รับบท อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และเต้-ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ รับบท อ๊อด คาราบาว
“พี่ๆ วงคาราบาวเมื่อตอนเป็นหนุ่มๆ หล่อจะตาย เท่ทุกคน ยุคนั้นถือว่าหล่อมากนะครับ พี่เล็กนี่ระดับพระเอกหนังเลยนะ
เรื่องที่บ่นกันถึงความเหมือนไม่เหมือน เดี๋ยวไว้รอดูกัน แต่อยากจะบอกว่าก่อนจะติดต่อพวกนี้มาเล่น ผมต้องอธิบายอย่างหนักหน่วงเลยว่าทำไมเขาถึงเหมาะสมมารับบทนั้น
อย่างพี่แอ๊ดกับตูน บอดี้สแลม เมื่อนึกถึงความเป็นหัวหน้าวง เป็นฟอร์นแมน แต่งเพลง เล่นกีตาร์บนเวที เหมือนไหม พี่เล็กมีเสียงร้องเป็นเอกลักษณ์ รูปร่างผอมสูง เท่มีสไตล์ ก็เหมือนกับเป้ ซึ่งเล่นกีตาร์และมีเสียงที่ไม่เหมือนใคร แค่ไม่มีหนวด ส่วนแบงค์กับพี่เขียว คู่นี้ขนาดภรรยาพี่เขียวยังเอ่ยปากชมเลยว่าต้องแบงค์เท่านั้น คู่ฮิวโก้กับพี่รี่ไม่ต้องพูดถึง เหมือนยังกับพ่อลูก
เต๋ากับน้าเป้า เต้กับพี่อ๊อด ต๊อกกับ อ.ธนิสร์ ผมมั่นใจว่าเห็นอะไรหลายอย่างในตัวคนเหล่านี้ที่เหมาะสมจะมาสวมบทบาท ถ้าให้ผมเลือกอีกสิบครั้งก็ไม่เปลี่ยนใจไปเลือกคนอื่นแน่นอน”
ภาพยนตร์เรื่องยังบาวมีกำหนดเปิดกล้องในเดือน ต.ค.นี้ และยังไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะพบเจออุปสรรคปัญหาอะไรบ้างต่อจากนี้ จนถึงวันปิดกล้อง
ได้แต่หวังว่าแฟนๆ จะเปิดใจให้โอกาสผู้กำกับหนุ่มคนนี้ได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่
รอตัดสินพร้อมกันได้ที่โรงภาพยนตร์ ไม่เกินกลางปีหน้าแน่นอน