ดอกไม้ในตะกร้าความทรงจำ
มะลิ ณ อุษา เครือข่ายพุทธิกา http://www.budnet.org
มะลิ ณ อุษา เครือข่ายพุทธิกา http://www.budnet.org
ดอกไม้บางชนิดใช้เวลาดูดซึมน้ำและสารอาหารขึ้นมาหล่อเลี้ยงลำต้นปีละ 360 วัน และใช้เวลาเพียง 5 วัน สำหรับผลิบาน กับชีวิตในปีนี้ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเกือบ 360 วันแล้ว มีสักวันไหมที่เราจะมองเห็น...ดอกไม้บาน?
ซากุระเป็นดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีช่วงเวลาผลิดอกเพียงสั้นๆ แต่งดงามและน่าอัศจรรย์มาก เพียงชั่วข้ามคืน กิ่งก้านสีน้ำตาลอันว่างเปล่าจะดารดาษด้วยดอกไม้เล็กๆ นับล้านๆ จากนั้นไม่นานกลีบดอกเล็กๆ ก็จะพร้อมใจกันลากิ่งก้านลงมาจนหมดสิ้น ด้วยเหตุนี้ชาวญี่ปุ่นจึงถือเป็นสัญลักษณ์ของช่วงชีวิตอันแสนสั้นที่เจิดจรัสและงดงามของบรรดานักรบและซามูไร
สำหรับเราที่เป็นคนไทยและไม่ใช่นักรบหรือซามูไร ก็ใช่ว่าจะมีชีวิตที่ยืนยาวนัก มิหนำซ้ำยังเป็นชีวิตที่ปล่อยให้ช่วงเวลาที่ดอกไม้แย้มบานเลยผ่านไปอย่างน่าเสียดาย
ก่อนดอกไม้จะบานก็ได้ผ่านการทดสอบและหล่อเลี้ยงจากฤดูกาลต่างๆ ที่หมุนเวียนเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นความเหน็บหนาว ความร้อนแล้ง หรือแม้แต่ความเกรี้ยวกราดของลมมรสุม ในยามนั้นกิ่งใบอาจหักรานลงบ้าง และหากไม่เข้มแข็งพอก็อาจถึงแก่โค่นล้มลงได้ แต่ตราบใดที่รากแก้วยังมั่นคงอยู่ ต้นไม้ก็จะฟื้นคืนและเยียวยาตัวเองให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้
ชีวิตคนเราก็เช่นกัน ย่อมต้องมีฤดูกาลต่างๆ หมุนเวียนผ่านเข้ามา ทั้งทุกข์ สุข อุปสรรค ความสำเร็จ ฯลฯ แต่แง่มุมที่แตกต่างออกไปก็คือ ชีวิตเราผลิบานได้โดยไม่เลือกฤดูกาล แม้ในยามที่พายุโหมกระหน่ำ เราก็อาจเห็นดอกไม้เล็กๆ แย้มบานขึ้นมาได้
น่าเสียดายที่ลักษณะทางกายภาพของเราไม่เอื้อให้จับต้องมองเห็นดอกไม้ที่ว่านั้น ด้วยตาเนื้อหรือสัมผัสใดๆ อย่าว่าแต่ดอกไม้ไร้รูปในใจเลย แม้แต่ดอกไม้สองข้างทางที่เราเดินผ่านแต่ละวันก็ยังมองไม่เห็น นั่นเป็นเพราะชีวิตที่ตั้งอยู่บนความรีบร้อนแทบตลอดเวลา ยามสุขก็มีความสุขแบบกึ่งอัตโนมัติ ยิ้มหัวเพียงชั่วครู่แล้วก็กลับเข้าสู่รางเดิม ยามทุกข์ร้อนก็มัวจ่อมจมถมทับแล้วก็กลับเข้าสู่รางเดิม ซึ่งเป็นรางแห่งกระแสที่รีดเค้นความรู้เนื้อรู้ตัวแทบทุกขณะจิต หากเป็นเช่นนี้วันแล้ววันเล่า ไม่ช้าไม่นานต้นไม้แห่งชีวิตก็จะค่อยๆ เหี่ยวเฉาลง เหลือแต่กิ่งก้านหงิกงอ มิพักต้องพูดถึงลมพายุหรือลมมรสุมใดๆ แค่เพียงลมปากเบาๆ ก็อาจโค่นล้มลงโดยง่าย
นอกจากนั้น เวลาที่อยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ เราก็มักจับจ้องไปที่ซากปรักหักพัง หรือไม่ก็กองขยะเน่าเหม็น พร่ำบ่นก่นด่าถึงแต่ความขาดพร่องด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่เป็นนิจ นั่นไม่ดี นี่ไม่ได้ นานวันเข้า ในหน่วยความทรงจำของเราก็จะมีแต่เศษซากต่างๆ กองพะเนินเทินทึกเต็มไปหมด
ขยะเหล่านี้เราอาจจะยังกวาดให้หมดไปไม่ได้ในวันนี้วันพรุ่ง แต่จะดีไหมถ้าเราจะใช้การขึ้นศักราชใหม่เป็นหมุดหมายในการ...เริ่มต้น
เริ่มต้น...กวาดขยะที่สะสมอยู่ในหน่วยความทรงจำ หรือใต้พรม
เริ่มต้น...มองหาดอกไม้ที่ผลิบานในห้วงเวลาต่างๆ ของชีวิต
และเริ่มต้น...เก็บดอกไม้แทนขยะไว้ในหน่วยความทรงจำของเรา
แน่นอนว่าฉันไม่ได้ชวนคุณมาคุ้ยขยะหรือชมนกชมไม้ แต่ฉันกำลังชวนคุณมองหาดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน(แสดงว่ามีอยู่แล้ว) ก่อนที่มันจะร่วงโรยไป ไม่ว่าดอกไม้นั้นจะขึ้นอยู่บนกองดินที่อุดมสมบูรณ์ หรือกองขยะเน่าเหม็นก็ตาม
ไม้กวาดที่ฉันจะเชิญชวนให้คุณหยิบขึ้นมานั้น คือ สมุดบันทึก คุณจะจั่วหัวว่าอย่างไรก็ได้ แต่บรรทัดต่อไปขอให้จดบันทึกอารมณ์ความรู้สึก สภาวะ เหตุการณ์ หรือแม้แต่ภารกิจที่ยังติดค้าง ทรงจำ หรือประทับใจ ทั้งสภาวะที่ดีและไม่ดีตลอดปีที่ผ่านมา หรืออาจจะย้อนกลับไปนานกว่านั้นก็ได้
อย่าเพิ่งคิดว่าเราจะจัดการกับรายการเหล่านั้นอย่างไร เพียงแค่เห็นว่ามันเคยเกิดขึ้นกับเราในอดีตเท่านั้น
จากนั้นเลือกหยิบมา 1 หัวข้อที่โดดเด่นขึ้นหน้าใหม่ แล้วพิจารณาถ้อยคำหรือประโยคที่คุณหยิบขึ้นมาอย่างละเอียดถี่ถ้วนทุกแง่มุม หากมันยังทำให้หัวใจคุณสั่นไหว อย่าเพิ่งขีดฆ่ามันออกไปให้พ้นสายตา เพราะนั่นคือโอกาสที่คุณจะได้มองเห็นดอกไม้ที่งดงามที่สุด
ขอให้ตอบคำถามต่อไปนี้ด้วยความซื่อตรงต่อตัวเอง ไม่ต้องพะวงถึงความถูกผิด ไม่ต้องเขินอายหากมันจะแลดูบ้าบอหรือโง่เง่า มีเพียงคุณเท่านั้นที่รู้ (เพราะฉันไม่ได้ให้คุณส่งมาตรวจหรือให้คะแนน)
คุณรู้สึกอย่างไรกับคำหรือประโยคที่เลือกมา ให้เขียนบรรยาย (ระบาย) ออกมาให้หมดเท่าที่จะทำได้ ไม่ต้องคิดสรรคำให้สละสลวย เมื่อเขียนจนพอใจแล้ว ขยับไปคำถามต่อไป อย่างไรก็ตาม หากรู้สึกว่ามีอารมณ์เกิดขึ้นมากมายจนเกินไป ก็สามารถหยุดพักแล้วค่อยกลับมาตอบคำถามต่อไปก็ได้
คราวนี้ขอให้คุณสวมบทบาทเป็นกล้อง คุณสมบัติของกล้องก็คือ ถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าตามความเป็นจริง โดยปราศจากอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดหรือการตัดสินใดๆ เอาล่ะมาที่คำถาม คุณมองเห็นอะไรในสิ่งที่เขียนบรรยายออกมาบ้าง เช่น มองเห็นตัวเองโกรธและทะเลาะกับแฟนอย่างรุนแรง ต่างคนต่างโทษอีกฝ่ายว่าไม่มีเวลาให้กัน ขุดข้อบกพร่องของแต่ละฝ่ายมาต่อว่าซึ่งกันและกัน เหตุการณ์นี้สั่งสมมาหลายเดือนแล้ว และท้ายที่สุดก็ต้องแยกทางกันไป ตอนนี้คุณรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากขอโทษเขาและอยากให้เขาขอโทษคุณด้วย ฯลฯ
ปรากฏการณ์ข้างต้นได้ให้บทเรียนหรือข้อค้นพบอะไรกับเราบ้าง คุณอาจจะอยากตั้งคำถามกลับว่า การที่เลิกกับแฟนมันมีบทเรียนด้วยหรือ แค่ฉันเสียใจก็ย่ำแย่พอแล้ว ยังจะให้มาค้นหาบทเรียนอะไรอีก พอแล้วฉันไม่อยากคิดถึงมัน แล้วก็ซุกขยะก้อนโตเข้าไปไว้ใต้พรมเหมือนเดิม หากคุณต้องการอย่างนั้นก็ย่อมทำได้โดยไม่มีใครตำหนิแต่อย่างใด แต่หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงจากสภาวะที่เป็นอยู่ ก็ขอให้อดทนและพยายามต่อไป
คุณมองเห็นอะไรจากคำตอบทั้ง 3 ข้อนั้นบ้าง กองขยะ? ดอกไม้? หรือ...? หากยังไม่เห็นอะไร ก็ขอให้ทำต่อไป เลือกหัวข้อที่เราเขียนในบัญชีรายการขึ้นมาทบทวนอยู่เสมอ หากไม่เป็นภาระเกินไปนัก ให้พยายามทำทุกคืนก่อนเข้านอน ฉันรับประกันว่าคุณจะได้เห็นดอกไม้ที่ผ่านการทดสอบความเข้มแข็งจากฤดูกาลอย่างแน่นอน ยิ่งบททดสอบถาโถมรุนแรงเพียงใด ดอกไม้ก็จะยิ่งงดงามและคงทนเท่านั้น ขอเพียงแต่คุณให้เวลาและโอกาสกับตัวเอง
และที่สำคัญ หากคุณอ่านทวนบทควานี้อีกครั้งจะพบว่า กองขยะ สวนดอกไม้ ไม้กวาด สมุดบันทึก และชีวิต อยู่ในตะกร้าใบเดียวกัน!