‘จับตาย’บิน ลาเดน
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล ภาพ ไม่เครดิต
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล ภาพ ไม่เครดิต
Zero Dark Thirty (ยุทธการถล่มบิน ลาเดน)
ประเทศ สหรัฐ
ประเภท ต่อสู้/ระทึกขวัญ
เรตติ้ง น.15+ เหมาะสำหรับผู้มีอายุ ปีขึ้นไป
ความยาว 157 นาที
กำกับ แคธรีน บิเกโลว์
นำแสดง เจสสิก้า แชสเทน เจสัน คลาร์ค โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน และ ไคล แชนเลอร์
วันที่ 2 พ.ค.ปี 2011 เป็นอีกวันที่โลกต้องจารึกลงบนประวัติศาสตร์ เมื่อผู้ก่อการร้ายหมายเลขหนึ่ง โอซามา บิน ลาเดน แกนนำกลุ่มอัลกออิดะห์ ถูกสังหารคาบ้านพักในปากีสถาน โดยน้ำมือของหน่วยรบซีลแห่งกองทัพเรือสหรัฐ
ปิดฉากการตามล่ามานานกว่า 10 ปี
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าผ่านมาเพียงแค่ปีเศษ ผู้กำกับหญิงคนเก่ง แคธรีน บิเกโลว์ เจ้าของรางวัลออสการ์จากเรื่อง The Hurt Locker จะสามารถเข็นหนังเรื่องใหม่ว่าด้วยเบื้องหลังของภารกิจจับตายบิน ลาเดน ออกสู่โรงฉายได้อย่างรวดเร็วทันใจ
Zero Dark Thirty ภาพยนตร์แอ็กชันทริลเลอร์ ผลงานเขียนบทของ มาร์ค โบล แฉหมดเปลือกถึงปฏิบัติการลับสุดยอดในการติดตาม ไล่ล่า สังหาร อาชญากรที่ชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก
โดยมีศูนย์กลางของเรื่องอยู่ที่สายลับซีไอเอสาวนาม มายา (เจสสิกา แชสเทน) ผู้มีส่วนสำคัญในการตามล่าตัว บิน ลาเดน อย่างกัดไม่ปล่อยมานานหลายปี
หนังเริ่มเรื่องด้วยการปล่อยหมัดเด็ด นั่นคือเทปเสียงสุดท้ายของนักบิน เหล่าผู้โดยสารบนเครื่องยูไนเต็ดแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 93 และ 175 ก่อนที่จะพุ่งชนอาคารเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ จนกลายมาเป็นเหตุวินาศกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ หรือที่เรียกกันว่า 9/11 เราจะสัมผัสได้ถึงอาการตื่นตระหนก ขวัญผวา ตลอดจนคำสั่งเสีย เต็มไปด้วยความหดหู่น่าเศร้า
ฉากการทารุณกรรมผู้ต้องสงสัยในเครือข่ายอัลกออิดะฮ์ด้วยวิธี Waterboarding อันลือลั่น ด้วยการจับตรึงร่างไว้ ก่อนจะเทน้ำราดรดบนใบหน้า จมูก ปาก จนสำลักแทบขาดใจตาย
บรรยากาศความวุ่นวายน่าอึดอัดของทีมเฉพาะกิจ ตั้งแต่การติดตามเบาะแสจากกองเอกสาร แฟ้มลับ ภาพถ่าย ดักฟังทางโทรศัพท์ แทรกซึมลงพื้นที่อันตรายหลายแห่งในดินแดนตะวันออกกลาง ตลอดจนตามรอยผ่านระบบดาวเทียมล้ำสมัย ทว่าทุกวิธีล้วนประสบความล้มเหลวไม่เป็นท่า
ผู้เขียนบทและผู้กำกับเลือดตาแทบกระเด็นในการค้นคว้าข้อมูล จากทั้งปากคำของผู้อยู่ในเหตุการณ์ บันทึกคำให้การของพยานในที่เกิดเหตุ รายงานฉบับจริงของซีไอเอ รวมถึงการจับเข่าคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหม ทั้งคู่ต้องทำงานอย่างรัดกุม เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครได้รับอันตรายจากการเปิดเผยข้อมูลลับสุดยอดเหล่านี้
เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างรวบรัด กระชับฉับไว ภายใต้การถ่ายทำแบบเน้นความเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญ มากกว่าจะเป็นสารคดี เน้นยุทธวิธีทางการทหาร หนักแน่นในข้อเท็จจริง แต่ก็ให้อารมณ์ชวนตื่นเต้น ไม่จืดชืดน่าเบื่อ
นอกจากนี้ ความยากลำบากที่ทีมงานต้องเผชิญคือ ต้องยกกองไปถ่ายทำในหลายสถานที่หลายประเทศ ทั้งสหรัฐ อังกฤษ โปแลนด์ อินเดีย และจอร์แดน
ไคลแมกซ์ของหนัง หนีไม่พ้นฉากเหตุการณ์บุกเข้าโจมตีและสังหารบิน ลาเดน ซึ่งเป็นฉากที่ท้าทายมากที่สุดของทีมผู้สร้าง และเป็นฉากที่ผู้ชมตั้งตารอชมมากที่สุดเช่นกัน
แม้จากรายงานข่าวตามสื่อต่างๆ เมื่อ 2 ปีก่อน จะทำให้คนทั้งโลกรู้แล้วว่าจุดจบของเหตุการณ์นี้ลงเอยเช่นไร แต่หลายคนคงไม่รู้ว่าขั้นตอนแผนการสังหารเป็นอย่างไรบ้าง บรรยากาศการบุกโจมตี ฉากการปะทะนองเลือดรุนแรงฉับไวแค่ไหน ด้วยฝีมือเฉียบขาดของ ซีล ทีมซิกซ์ หน่วยรบพิเศษแห่งกองทัพสหรัฐ ชุดจับตาย บิน ลาเดน ซึ่งใช้เวลาปฏิบัติการเพียง 40 นาทีเท่านั้น
ภาพยนตร์อื้อฉาวเรื่องนี้ ถือว่ารวบรวมเอาข้อมูลข้อเท็จจริงในเชิงลึกที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้มาก่อน
บิน ลาเดน ตายจริงไหม ตายอย่างไร ปฏิบัติการปลิดชีพผู้ก่อการร้ายครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่งกินระยะเวลาถึงหนึ่งทศวรรษ ยากลำบากสาหัสสากรรจ์เพียงไร
ไปดูด้วยตาตัวเอง