แกรนด์เชียงการีลา เหลาระดับฮ่องเต้

โดย...ซิตี้กาย ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

พูดถึงภัตตาคารอาหารจีน ผมว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับภัตตาคารแกรนด์เชียงการีลา อันโด่งดัง มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 40 ปี เป็น 1 ใน 5 ของภัตตาคารจีนชั้นเลิศของประเทศไทย ที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองมาแล้วนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะรสชาติอาหารและบริการ ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้า

เมนูที่ได้รับความนิยมมากๆ ก็เป็น ไก่ขอทาน เป็ดปักกิ่ง เนื้อสันผัดสไตล์ฮ่องกง ขาหมูหมั่นโถ ติ๋มซำตำรับฮ่องกง และอาหารทะเลสดๆ ที่หารับประทานได้ยากจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น กุ้งมังกร หอยเป๋าฮือ หูฉลาม หอยงวงช้าง

วันนี้ผมไปที่สาขาตึกธนิยะ ถนนสีลม สาขานี้ตกแต่งภายนอกประดับด้วยเก๋งจีน ย้อนสมัยกลับไปในภัตตาคารจีนในสมัยก่อน หน้าร้านประดับโคมไฟสีแดงทองอันสวยงามและมังกร ถือเป็นการอวยพรให้ท่านลูกค้ามีแต่ความสุข ส่วนมังกรถือเป็นสัตว์มงคลของชาวจีน แสดงถึงอำนาจและวาสนา การตกแต่งภายในภัตตาคาร ผสมผสานกันระหว่างการตกแต่งแบบจีนยุคเก่าและแบบยุโรปสมัยใหม่

เมนูอาหารมีจุดเด่นอยู่ที่ ซีฟู้ดหม้อไฟสไตล์ฮ่องกง มีน้ำซุป 2 สี ที่ครึ่งหนึ่งเป็นน้ำสะเต๊ะ น้ำซอสถั่ว ที่มีกลิ่นหอมของถั่ว เครื่องเทศ รสชาติไม่เผ็ด ถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่วันนี้แกรนด์เชียงการีลา นำเสนอเมนูใหม่ที่หารับประทานยากในประเทศไทย อย่างกุ้งมังกร 7 สีแล่หม้อไฟ

กุ้งมังกรยักษ์นำเข้าจากต่างประเทศตัวเป็นๆ นำมาให้เลือกสดๆ ในตู้ปลา เป็นกุ้งมังกรที่ใหญ่เท่าท่อนแขนผู้ชายเล่นกล้ามเลยทีเดียว เมื่อลูกค้าเลือกกุ้งได้แล้ว พนักงานจะถามว่าให้ทำอะไรบ้าง แต่ถ้าไม่รู้ ทางภัตตาคารจะแนะนำเป็น กุ้งมังกร 7 สีแล่หม้อไฟ พร้อมกับเมนูยอดนิยมอย่าง หัวกุ้งมังกรก๋วยเตี๋ยวคั่ว เพราะทั้งสองเมนูนี้สามารถนำกุ้งตัวเดียวมาทำเป็นอาหารจานไซส์ใหญ่สุด เอกซ์แอล ได้สบายๆ

สำหรับกุ้งมังกร 7 สีแล่หม้อไฟ เป็นการแล่เอาเนื้อกุ้งมาวางเรียงอย่างสวยงามบนถาด จะรับประทานสดๆ เพื่อชิมความหวานของเนื้อ หรือจะนำมาใส่กระชอนลวกในหม้อไฟ ซึ่งใช้น้ำซุปสูตรเฉพาะที่ให้ความหอมหวานรสชาติกลมกล่อม เนื้อกุ้งที่ลวกจิ้มนั้นรสชาติหวาน เนื้อแน่นไม่มีกลิ่นคาว เพราะเป็นของสดจริงๆ ถ้าไม่สดทำเมนูแบบนี้ให้อร่อยขั้นเทพได้ยากยิ่ง บนถาดวางก็จะมีหัวกุ้งมังกรที่เราสั่งซื้อไปวางโชว์อย่างอลังการ

รับประทานไปพร้อมๆ กับหัวกุ้งมังกรก๋วยเตี๋ยวคั่ว เป็นก๋วยเตี๋ยวคั่วที่ส่งกลิ่นหอมน่ารับประทาน รสชาติเค็มมัน กลมกล่อม และที่พิเศษกว่านั้น หากใครไม่เคยรับประทานวุ้นเลือดกุ้งมังกร ก็สามารถสั่งพิเศษได้ครับ

แค่สองอย่างอาจจะน้อยไปสำหรับครอบครัวใหญ่ ลองสั่งปลาเก๋ามังกรแล่หม้อไฟ เป็นเนื้อปลาเก๋าสดๆ แล่มารับประทานกับหม้อไฟเดียวกับที่เรารับประทานกุ้งมังกรนั่นแหละ

ปิดท้ายด้วยหอยสังข์แป๊ะซะ ที่รับประทานได้ทันทีหรือจะนำไปลวกเพื่อความสบายใจก็แล้วแต่ เนื้อหอยสังข์ กรุบกรับ ชวนรับประทานชิ้นต่อไปไม่อยากหยุด

หัวใจของภัตตาคารแกรนด์เชียงการีลา อยู่ที่ความสดของวัตถุดิบ การคัดสรรที่ต้องพิเศษกว่าร้านอื่นๆ และนำมาปรุงด้วยเชฟมืออาชีพ และเราก็สัมผัสได้ว่าภัตตาคารระดับประเทศช่างมีอาหารที่เลิศล้ำเช่นนี้เอง

ภัตตาคารเปิดทุกวัน เวลา 10.00-14.00 และ 17.00-22.00 น. โทร. 02-234-0861-4