Safe Zone ของสุภิญญา กลางณรงค์
หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาผู้หญิงร่างเล็กหนึ่งเดียวแห่งบอร์ด กสทช.
โดย...อลิสษา ทองขาว
หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาผู้หญิงร่างเล็กหนึ่งเดียวแห่งบอร์ด กสทช. หรือคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ “สุภิญญา กลางณรงค์” เจ้าของรางวัล 1 ใน 10 ผู้หญิงทรงอิทธิพลแห่งปี 2011 ด้านนักปฏิรูปวงการสื่อสารมวลชนจากนิตยสารแพรว
กว่าหนึ่งปีที่เธอผันตัวจากเอ็นจีโอด้านสื่อสารมวลชนเข้ามาเป็นบอร์ด กสทช. ตั้งใจเข้ามาทำหน้าที่พัฒนาและปฏิรูประบบวิทยุ โทรทัศน์ และโทรคมนาคม ซึ่งถือเป็นภาระหนักที่จะต้องเร่งขับเคลื่อนการวางแผนระบบการสื่อสารไทยให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทันสมัยระดับโลก
“ทุกครั้งที่ก้าวเข้าห้องทำงาน มันทำให้รู้สึกว่ากลับมาสู่ Safe Zone”
ท่ามกลางภาระหน้าที่ในแต่ละวันตั้งแต่วางแผนการประชุม เข้าร่วมประชุม พิจารณาออกเสียง ตรวจเอกสาร ยันออกไปพบปะประชาชนเพื่อขอรับฟังข้อเสนอแนะและทำประชาพิจารณ์จากมวลชน ทำให้เธอต้องพบเจอปัญหาและอุปสรรคมากมาย แต่ความลำบากใจจะหายไปทุกครั้งเมื่อเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม
“ปีกว่าแล้วกับห้องทำงานนี้ โต๊ะและเก้าอี้ตัวเดิม ด้านหนึ่งเป็นมุมทำงาน ตรวจดูแฟ้มเอกสารก่อนและหลังการประชุม เรื่องไหนที่ออกเสียงแล้วแพ้ ก็จะต้องมาเขียนคำสงวนเอกสารไว้ อาจจะมีหรือไม่มีคนอ่านก็ไม่เป็นไร แต่ต้องทำ ส่วนอีกด้านเป็นคอมพิวเตอร์ ไว้ติดต่อกับโลกภายนอก ถือเป็นส่วนหนึ่งของงาน เพราะใช้ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประชาชน”
หญิงแกร่งหนึ่งเดียวของบอร์ด กสทช. เผยถึงการร้องไห้ให้ที่ประชุมครั้งแรกอย่างเก้อเขินว่า “ประชุมครั้งแรกไม่มีใครฟังเลย แถมยังออกเสียงแพ้อีก ด้วยความรู้สึกเสียใจ ยืนร้องไห้ในห้องประชุมเลย ไม่มีใครหยิบกระดาษทิชชูให้ด้วย จนสุดท้ายต้องวิ่งออกมาเช็ดน้ำตาข้างนอก
แต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้วนะคะ เข้มแข็งและเข้าใจขึ้นแล้วว่าโลกของ Real Politics เป็นยังไง การขึ้นไปอยู่ในที่สูง แน่นอนว่ามีหลายดวงตาคอยจับจ้อง ไม่ว่าจะทำสิ่งใด พูดอะไร ล้วนส่งผลต่อการทำงาน จึงจำเป็นต้องวางตัวให้เหมาะสมตลอด แต่ถ้าได้กลับมาที่ห้อง มันเหมือนกับว่าเป็นที่ของเรา สามารถพักความเหนื่อยล้า ทอดสายตามองออกไปข้างนอกหน้าต่างได้”
สุภิญญา ยอมรับอย่างอารมณ์ดีว่า เธอเป็นคนหนึ่งที่ติดโซเชียลเน็ตเวิร์คมาก เพราะมันทำให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ยังมีคนที่คิดเห็นแบบเดียวกับเธอและเป็นกำลังใจให้เธอต่อสู้เพื่อผลประโยชน์สาธารณะ และนั่นถือเป็นส่วนหนึ่งของพลังที่สำคัญในการทำงาน
ทุกครั้งที่ว่างหลังจากตรวจเอกสารการประชุมแล้ว ก็จะหันมาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ บ้างก็หยิบไอแพดขึ้นมาเช็กข้อมูลข่าวสาร อัพเดตความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีของต่างประเทศ เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการปรับและพัฒนาใช้กับไทย แต่ที่ขาดไม่ได้คือ การเข้าทวิตเตอร์เพื่อซาวด์เช็กความคิดเห็นของประชาชน
“ปีที่แล้วไม่ค่อยได้อยู่ห้องทำงาน ต้องออกเดินสายทำประชาพิจารณ์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ทำให้คิดถึงเก้าอี้ทำงานมาก แต่ปีนี้จะถือเป็นปีที่วุ่นที่สุด เพราะจะได้นั่งทำงานอยู่ในห้องที่ต้องเต็มไปด้วยแฟ้มเอกสารการประชุมต่างๆ เพื่อวางแผนและนโยบายด้านการสื่อสารของประเทศ”
ความสวยความงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยบนโต๊ะทำงานของหญิงเก่งคนนี้ คือ คอมพิวเตอร์ โลชั่นทามือ ลิปส์มัน น้ำหอม และยาดมคลายเครียด
“จริงๆ นะ ยาดมช่วยได้ ยิ่งเป็นยาดมสมุนไพรไทย ทำให้ผ่อนคลายขึ้นมาก” สุภิญญา เล่าอย่างอารมณ์ดีในห้องทำงาน Safe Zone ของเธอ