posttoday

เกรียนเว็บบอร์ด

30 พฤษภาคม 2556

โดย...ชายโย

โดย...ชายโย

หากเราสังเกตให้ดีตามเว็บบอร์ดต่างๆ ดูเหมือนว่าจะเงียบเหงาลงไปพอสมควร เพราะสมาชิกส่วนหนึ่งเริ่มกลับไปเรียนหนังสือ ตั้งใจเรียน ทำการบ้านอันน้อยนิดตามการเรียนการสอนสมัยใหม่ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่สิ่งที่เด็กนักเรียนเหล่านี้คายพิษทิ้งไว้ก็คือ ข้อความแสดงความคิดเห็นแปลกๆ แบบเด็กๆ แต่อ้าวตัวเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน วิพากษ์วิจารณ์เรื่องไม่เป็นเรื่อง เอาเรื่องที่ไม่ควรจะเกี่ยวกันมาโยงกันได้ ยุแยงให้คนในบอร์ดแตกคอ

สร้างข้อมูลเท็จๆ ที่หามาได้จากกูเกิลเข้ามาดัดแปลงให้เกิดความเชื่อผิดๆ ในเรื่องต่างๆ นั่นล่ะสิ่งที่เด็กเกรียนชอบทำเป็นกิจวัตรช่วงปิดเทอม แต่พอเปิดเทอมสิ่งที่เราจะต้องเจอแน่ๆ ก็คือสถานการณ์ดังนี้

สถานการณ์ เจ้าของล็อกอินอย่าเถียง เขาเรียนมา (ล็อกอินสมมติ) เป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายชื่อดังแห่งหนึ่ง พอเปิดเทอมมาได้ไม่กี่วันก็เริ่มขี้เกียจทำการบ้าน จึงเริ่มเข้ามาถามการบ้านในบอร์ดต่างๆ โดยแกล้งทำเป็นโจทย์ชวนคิด บอร์ดที่เขาชอบมากที่สุดคือ ห้องหว้ากอ เว็บพันทิป และเว็บเด็กดีดอทคอม จนกระทั่งมีผู้ใช้เว็บบอร์ดคนหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์สอนมัธยมปลาย เริ่มสงสัยว่านี่คือการบ้านที่เขาให้เด็กไปทำ จึงสอบถามล็อกอินนี้กับทางพันทิปดอทคอม ได้ความว่าเป็นลูกศิษย์ในห้องของเขาเอง เพราะคนที่จะสมัครเว็บพันทิปได้ต้องมีถ่ายเอกสารบัตรประชาชนเข้าไปให้ทางเว็บด้วย นั่นล่ะความจึงแตก สุดท้ายก็ไม่ได้เห็นล็อกอินนี้ในเว็บพันทิปอีกเลย แต่เรื่องจะเป็นอย่างไรต่อนั้นไม่มีใครตามสืบ แต่ก็มีเสียงติเตียนตามมาอีกเกือบ 50 คอมเมนต์

ทางออก นี่เป็นเพียงกรณีหนึ่งในเคสถามการบ้านในเว็บบอร์ด สิ่งที่เด็กเกรียนเหล่านี้ทำก็คือ เมื่อได้โจทย์เลข ม.ปลาย จากครู 20 ข้อ ก็เข้าไปโพสต์โจทย์ เว็บบอร์ดล่ะ 2 ข้อ สัก 10 บอร์ด โดยมีคำตอบมั่วๆ ใส่เข้าไปแกล้งว่าคิดเสร็จแล้ว เอามาทำเป็นให้ช่วยเช็กคำตอบที่คิดมาได้ว่าถูกไหม ส่วนตัวเองก็ออกไปเล่นเกม เตะบอลตามประสา

พี่ๆ วัยทำงานก็หวังดีช่วยคิดให้พร้อมเสร็จสรรพ อีก 2 ชั่วโมงเด็กเกรียนกลับมาเขียนคำตอบใส่สมุดส่งอาจารย์สบายแฮ นี่ล่ะเกรียนเว็บบอร์ด

ทางออกที่ดีที่สุดคือ เมื่อเห็นการโพสต์โจทย์คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ 2 วิชายากของเด็กไทยเกินครึ่งในเว็บบอร์ดต่างๆ จงอย่าได้เข้าไปช่วยหาคำตอบให้ เพราะเราจะตกเป็นเครื่องมือของเด็กๆ อย่างน่าทุเรศ พอๆ กับข้อสอบเอนทรานซ์ ที่เด็กๆ ทำไม่ได้ ผู้ใหญ่ก็ดิ้นตามไปด้วย ทั้งที่เนื้อหาเหล่านี้มีอยู่ในตำราเรียนของพวกเขาอยู่แล้ว ผู้ใหญ่อาจจะลืมไปได้ตามหน้าที่การงาน แต่เด็กที่เพิ่งเรียนมาและเป็นหน้าที่ที่เขาควรจำ แต่ไม่จำก็รับกรรมทำข้อสอบไม่ได้ไป

แต่ก็อย่างว่าครับผู้ใหญ่ใจดีบางคนคงไม่คิดถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เราจึงแนะนำวิธีให้ว่า เมื่อได้โจทย์จากเด็กเกรียนเหล่านี้มา ให้ตอบแบบเปลี่ยนตัวเลขในโจทย์ตั้งต้นทั้งหมด แต่อธิบายวิธีคิดตามเค้าโครงโจทย์เดิม

เมื่อเด็กๆ กลับมาพวกเขาก็จะไม่ได้คำตอบในข้อนั้น แต่จะได้วิธีคิดที่ทำไปสู่คำตอบที่พวกเขาต้องคิดเองอีกครั้ง ส่วนวิชาอื่นๆ คุณก็ไม่จำเป็นต้องตอบ แต่ให้ใช้วิธีการแนะนำคีย์เวิร์ดสำหรับค้นหาในกูเกิลแทนได้ ป้องกันเด็กสบายเกิน และคำตอบผิดๆ ที่ผู้ใหญ่เองก็อาจจะพลาดคำตอบไปได้ จากเคสนี้เราจะเห็นได้ว่ามีเด็กเกรียนในโลกออนไลน์มากมายกว่าที่เราคิด และยากที่เราจะรู้ว่าแต่ละคนนั้นอายุเท่าไหร่ ดังนั้นจงใช้สติกับความคิดระมัดระวังเรื่องเหล่านี้ไว้ให้ดี เรื่องเล็กๆอยากช่วยทำการบ้านก็ส่งผลถึงอนาคตเด็กไทยได้เหมือนกัน

Ask the expert...

Q. เราจะช่วยให้เด็กในบ้านตั้งเป้าหมายในชีวิตอื่นๆ ได้อย่างไรบ้าง นอกเหนือจากเรื่องที่พวกเขาฝันว่าโตขึ้นจะเป็นแบทแมนกับสาวน้อยพริตตี้เคียว

A. ในเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันพัฒนาเด็กอินไซน์คิดส์ ได้แนะนำวิธีสอนให้เด็กๆ รู้จักการตั้งเป้าหมาย (Setting Goals)

ว่าจากการศึกษาของสถาบันกุมารเวชศาสตร์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาไว้ว่าเด็กก่อนวัยเรียนก็สามารถที่จะตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันได้ เช่น การตั้งเป้าหมายเล็กๆ เป็นภารกิจจริงๆ เช่นจะต้องแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง และล้างมือหลังจากเข้าห้องน้ำและก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง

และจะกินผลไม้และผักอย่างน้อยหนึ่งชนิดทุกวันเป้าหมายที่เหมาะสม ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และสร้างนิสัยที่ดีให้กับลูกได้ ส่วนคุณพ่อคุณแม่ ควรเริ่มจากการช่วยลูกตั้งเป้าหมายที่เหมาะสมตามหลัก SMART คือ เป็นเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง (Specific) วัดความก้าวหน้าหรือความสำเร็จได้ (Measurable) สามารถทำให้สำเร็จได้ ไม่เกินตัว (Achievable) เป็นสิ่งที่มีความหมายกับเด็กๆ เอง (Relevant) และมีกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม (TimeBound)

การมีเป้าหมายอย่างฉลาด ทำให้เด็กๆ มีทิศทางในการปฏิบัติตน ทำให้มีแผนในการทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆ และทำให้เกิดความภูมิใจที่ได้ทำ (ความพยายาม) และเมื่อประสบความสำเร็จ (ผลของความพยายาม) คุยกับลูกว่าเทอมนี้อยากทำอะไรให้ได้ เช่น อยากเป็นนักบาสที่เก่ง อยากเล่นเปียโนได้ดีขึ้น อยากอ่านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษนี้ได้ โดยเฉพาะเจาะจงเป้าหมายนั้นๆ และปรึกษาว่าจะต้องทำอย่างไร เช่น กำหนดจำนวนระยะเวลาที่ใช้ในการซ้อมใน 1 สัปดาห์ จัดตารางทำกิจกรรมนั้นๆ และกำหนดการวัดผล (เช่น โยนลูกลงห่วงได้ 8 ใน 10 ครั้ง) และระยะเวลาที่เหมาะสมในการบรรลุเป้าหมาย ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องร่วมทำภารกิจเหล่านั้นกับพวกเขาด้วยเช่นกัน

He Said / She Said

แมน พนักงานบริษัท

“ผู้ชายก็คือผู้ชายอยู่วันยังค่ำ ผมก็ไม่รู้ว่าสาวๆ เขาจะเลือกอะไรกันนักหนา (หัวเราะ) ผมว่าถ้ากลัวว่าพวกเราจะเป็นเกย์ดูง่ายๆ ผมว่าก็น่าจะรู้แล้วนะครับ อย่างผมเนี่ยผู้ชายชัวร์ แล้วก็รอผู้หญิงมาอยู่ข้างกายมานานแล้วด้วยครับ”

มิ้งค์ พนักงานบริษัท

“ผู้ชายที่บอกตัวเองว่าเป็นผู้ชาย ชัวร์แล้วหรือค่ะ ดิฉันคิดว่าคำว่าผู้ชายตัวจริงไม่ใช่แค่ชอบและรักผู้หญิงเท่านั้น คุณต้องดูแล เทกแคร์ และช่างเอาอกเอาใจผู้หญิงบอบบางอย่างเราๆ ด้วยนะคะ (หัวเราะ)”

Quote

“ผมไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางของลมได้ แต่ผมสามารถที่จะชักใบของเรือให้พุ่งไปยังทิศทางที่ผมต้องการจะเดินทางไปได้นี่นา”

จิมมี ดีน นักร้องเพลงคันทรี นักแสดง พิธีกรรายการทีวีอเมริกัน