เพลง
“ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ เขานั้นเหมาะคิดกบฏอัปลักษณ์”
โดย..ปู โลกเบี้ยว
“ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ เขานั้นเหมาะคิดกบฏอัปลักษณ์” พระราชนิพนธ์แปลในรัชกาลที่ 6 ที่มันเป็นความจริงเสียยิ่งกว่าจริงซะอีกไง แต่สมัยนี้เพลงและศิลปินมันช่างมากมายเสียเหลือเกิน ทั้งฟังรู้เรื่องไพเราะสบายหูไปจนถึงฟังไม่รู้เรื่องเอาแต่จังหวะแรงเร้าใจมันส์ไว้ก่อนงี้ จนเลือกกันไม่ถูกเลย การแข่งขันก็สูงเพราะคนรุ่นใหม่ก็อยากแสดงออก หรือไม่พวกพ่อแม่ก็จะชอบเป็นเจ๊ดันป๋าดันอยากให้ลูกได้เป็นศิลปินไง ก็ส่งเรียนส่งเข้าประกวดจนเดี๋ยวนี้ศิลปินเยอะจนแทบจำหน้าจำเสียงกันไม่ได้เลย เวลามีน้องๆ มาสัมภาษณ์ในรายการวิทยุนะ ปูก็มักจะปลอบใจให้กำลังใจพวกเขาว่า สมัยนี้การแข่งขันมันสูงนะ อย่าไปคาดหวังอะไรให้มากนักก็แล้วกัน เฮ้อ!
ปูจัดรายการวิทยุทาง FM 95 หลายๆ คนที่นำเอาการฟังเพลงมาดำเนินชีวิต แต่ต้องเลือกเสพเอานะ เพราะว่าเนื้อเพลงบางเพลงก็ให้แง่คิดที่ดี บางเพลงก็แรง ออกแนวประชดประชันซ้ำเติม ในทางฮวงจุ้ยแล้วถ้าเราอกหักแล้วเพียรฟังแต่เพลงเศร้าๆ จะกลายเป็นผลร้ายเพราะการที่เราฟังเพลงเศร้าๆ ซ้ำๆ หลายๆ รอบก็เสมือนการฟังสวด ซึ่งจะยิ่งทำให้เราซึมเศร้าท้อแท้ได้ ควรให้กำลังใจตัวเองด้วยการฟังเพลงสนุกสนานไปเลย ส่วนตัวปูเองมีความสุขกับการได้จัดรายการวิทยุและฟังเพลงที่หลากหลาย
เขาว่าคนใจร้อนมักต้องฟังเพลงช้าๆ เย็นๆ ส่วนใครอยากกระตือรือร้นก็ต้องฟังเพลงเร็วๆ งี้ อาจเป็นเพราะจังหวะของดนตรีมันมีผลต่อสมองและจิตใจของมนุษย์นั่นเอง เขาถึงมีดนตรีบำบัดเพื่อคนป่วย หลายๆ ประเทศที่ใช้ดนตรีในการบำบัดคนเจ็บที่ไม่รู้สึกตัว ต้องนอนเป็นผักอยู่บนเตียง หรืออย่างเด็กน้อยที่คลอดก่อนกำหนดหรือมีปัญหาต้องเข้าตู้อบงี้จะไม่สามารถได้รับรสสัมผัสของอ้อมอกแม่ได้ เพราะแม่อุ้มก็ไม่ได้ จับต้องก็ไม่ได้ แต่พวกเขาจะผ่อนคลายและรู้สึกอบอุ่นไม่โดดเดี่ยวถ้าได้ฟังเพลง โดยเฉพาะเพลงที่เล่นสดๆ กับเสียงร้องที่นุ่มๆ เบาๆ เขาว่าจังหวะของดนตรีกับจังหวะการเต้นของหัวใจจะไปด้วยกันได้ และสมองของคนที่หลับใหลอยู่หรือผู้ป่วยนั้นจะได้รับแรงสั่นสะเทือน และรับรู้ถึงจังหวะของดนตรีทำให้การเต้นของหัวใจช้าลง สงบลง การนอนหลับดีขึ้น และสามารถหายจากโรคภัยหรือได้ออกจากโรงพยาบาลเร็วขึ้น แต่ก็มีการวิจัยว่าถ้าเป็นเสียงเพลงจากการร้อง โดยเฉพาะเสียงของแม่จะมีผลที่มากกว่า มีพลังที่เหนือกว่าดนตรีซะอีก เหมือนอย่างที่คนโบราณชอบร้องเพลงกล่อมเด็กไง อีกอย่างเด็กก็คงคุ้นชินกับเสียงของคุณแม่อยู่แล้วด้วย หรือแม้แต่ตัวคุณแม่เองก็เช่นกัน
เพื่อนของคุณเท่ห์คลอดลูกแล้วมีปัญหาตกเลือดมาก คุณหมอส่ายหน้าแล้วอ่ะ เป็นตายไม่รู้ รู้แต่ว่านอนเป็นผักอยู่ เพียงแค่เอาลูกน้อยที่เพิ่งเกิดไปวางไว้ที่อกคุณแม่ทุกวันๆ สิ่งที่ไม่คาดฝันก็บังเกิด จู่ๆ คุณแม่ก็ฟื้นกลับมาแข็งแรงเพราะได้แรงใจจากลูกน้อยอ่ะ คุณหมอบอกว่า “นี่แหละ...สายสัมพันธ์” แต่ถ้าไม่ได้ฟังเพลง ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะฟังเพลง แต่อยากให้ใจสงบหลับสบาย อยากจะใช้กล่องเพลงที่มีแต่ดนตรี หรือลองนั่งฟังเสียงน้ำไหลเบาๆ ดูสิ เพราะเสียงน้ำจะทำให้มีสมาธิดีอีกด้วย ใครอาศัยอยู่คอนโดก็ลองซื้อพวกน้ำตกเล็กๆ น้ำผุดน้ำล้นอันน้อยๆ มาวางไว้ในห้องเป็นการสร้างบรรยากาศให้สดชื่น ฟังเสียงน้ำไหลเบาๆ เวลาอ่านหนังสือหรือต้องการสมาธิก็โอเคอยู่นะจ๊ะ...
มีผัวเมียคู่หนึ่งแกขายไก่ย่างอร่อยมาก ปูชอบไปอุดหนุน คุณภรรยาเล่าให้ฟังว่าเจอมรสุมชีวิตคู่หนักหนาพอสมควรเลย ทะเลาะกับสามีจะเลิกกันอยู่แล้ว แต่เพราะวันนั้นตอนทะเลาะกัน อยู่ในรถกำลังจะกลับบ้านแล้วได้เปิดวิทยุทิ้งไว้ กะว่าเลิกกันแน่ๆ แต่พอเสียงเพลงและเสียงของดีเจมันเข้ามาในโสตประสาทหูเท่านั้นแหละ ทั้งผัวทั้งเมียต่างก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน แล้วก็คืนดีกัน เออ...ดีแฮะ