ซิลเวอร์นาโน เพื่อคุณภาพแห่งชีวิต
ความสำเร็จของศูนย์นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สร้างสรรค์นวัตกรรม ซิลเวอร์นาโน
โดย...วรธารที
ความสำเร็จของศูนย์นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สร้างสรรค์นวัตกรรม ซิลเวอร์นาโน (Silver Nano) อนุภาคขนาดนาโนของซิลเวอร์หรือโลหะเงินซึ่งเป็นสารที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคที่เป็นต้นเหตุของอาการเจ็บป่วยได้มากกว่า 650 ชนิดได้นั้น ถือเป็นความสำเร็จที่ต้องพูดยาวๆ เพราะมันหมายถึงสิ่งดีๆ ที่คนไทยจะได้รับจากนวัตกรรมนี้
สิ่งที่จะได้รับ คือ คุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน ซึ่งนั่นไม่รวมถึงความสามารถการแข่งขันทรงธุรกิจของคนไทยกับต่างชาติ เมื่อเราไม่จำเป็นอีกแล้วที่จะต้องนำเข้าซิลเวอร์นาโนจากต่างประเทศมาใช้ในการผลิตสินค้าอีกต่อไป เพราะประเทศไทยเราสามารถผลิตได้แล้วนั่นเอง โดยฝีมือของศูนย์นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วศูนย์ดังกล่าวก็พร้อมที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้นี้ให้กับคนไทยทุกคนของเพียงคุณมีไอเดียดีๆ อยากผลิตสินค้าสักอย่างแล้วเดินเข้าไปหาโดยบอกว่า ผมอยากทำ...ช่วยหน่อย แล้วคุณจะได้สิทธินั้น
ซิลเวอร์นาโน มาจากไหน
ซิลเวอร์นาโน ก็มาจากเงิน (Silver) ทั่วไปที่ใช้ทำเครื่องประดับ เพียงแต่ถูกทำให้มีขนาดเล็กมากในระดับนาโนเมตร เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวที่จะสัมผัสกับเชื้อโรค และด้วยขนาดที่เล็กมากทำให้ใช้เงินเพียงเล็กน้อยก็สามารถครอบคลุมพื้นที่และเพิ่มโอกาสในการสัมผัสกับเชื้อโรคได้มากขึ้น โดยในการฆ่าเชื้อโรค Silver Nano จะทำปฏิกิริยากับสารโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ที่จำเป็นของจุลชีพ ทั้งจุลินทรีย์ แบคทีเรีย และไวรัส ปฏิกริยาดังกล่าวจะทำลายผนังเซลล์ของจุลชีพ ส่งผลให้ดีเอ็นเอของจุลชีพหยุดทำงานและตายในที่สุด
ศ.ดร.สุพจน์ หารหนองบัว คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมฯ จุฬา อธิบายซิลเวอร์นาโนโดยเปรียบเทียบง่ายๆ ว่า สมมติตัดแผ่นเงินมาแค่ 1 มิลลิเมตร นำมาขยายขึ้นเป็นล้านเท่าจะเห็นอะตอมของเงิน ซึ่งในอะตอมจะประกอบด้วยโปรตรอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน โดยโปรตรอนกับนิวตรอนจะรวมกันเป็นก้อนเล็กๆ อยู่ตรงกลาง แต่อิเล็กตรอนจะวิ่งอยู่รอบๆ ตลอดเวลา และเมื่ออิเล็กตรอนวิ่งด้วยความเร็วมหาศาลก็สามารถที่จะหลุดออกไปได้ และเมื่อใดที่ตัวอิเล็กตรอนหลุดออกไปสักหนึ่งตัว คราวนี้จะเป็นไอออนของเงินซึ่งเป็นตัวที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้
“พอฆ่าเชื้อได้เราก็จะเอาไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น ผงซักฟอกเปานาโนที่ขายอยู่ก็เอาซิลเวอร์นาโนไปผสม เพื่อฆ่าเชื้อโรค หรือหลายบริษัทเอาซิลเวอร์นาโนไปใส่ในแอร์ พอแอร์พ่นซิลเวอร์นาโนออกมาก็จะฆ่าเชื้อโรคในห้อง หลายโรงพยาบาลก็เอาซิลเวอร์นาโนไปทำห้องปลอดเชื้อ โดยซิลเวอร์นาโนสามารถที่จะใส่เข้าไปในน้ำ เช่น ในน้ำหอม แล้วพ่นออกมาเป็นละอองปนอยู่ในอากาศฆ่าเชื้อให้เรา อันนี้ก็ทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้น”
ดีต่อคุณภาพชีวิตอย่างไร
รศ.ดร.สนอง เอกสิทธิ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวัสดุ ศูนย์นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า การที่ศูนย์ได้พัฒนานวัตกรรมซิลเวอร์นาโนเป็นผลสำเร็จและได้ถ่ายทอดนวัตกรรมดังกล่าวให้แก่คนไทย ณ ตอนนี้มีภาคเอกชนนำผลงานวิจัยไปต่อยอดเชิงพาณิชย์แล้วไม่น้อยกว่า 5 ผลงาน อาทิ กาวแผ่นปิดแผลฆ่าเชื้อโรคซิลเวอร์นาโน ยี่ห้อ Bluribbon ผงซักฟอกเปา เครื่องประดับซิลเวอร์นาโน ยี่ห้อ Nanos Silver Clay การใช้ซิลเวอร์นาโนในเครื่องสำอาง Cute Press และการใช้เคลือบซิลเวอร์นาโนรถพยาบาล Supreme ตลอดจนห้องผ่าตัดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ซึ่งล้วนเป็นผลงานเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของคนเราโดยตรง
อย่างกาวปิดแผลซิลเวอร์นาโน รศ.ดร.สนอง บอกว่า แม้ว่าแผลจะใหญ่จากการเป็นเบาหวาน หรือแผลกดทับ ที่รักษาไม่หายมานาเป็น 10 ปี แต่พอใช้กาวผ้าปิดแผลซิลเวอร์นาโนประมาณ 43 วัน ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนถึงวันที่ 60 แผลก็จะหายดี แผลรูลึกก็ตื้นขึ้น ซึ่งกาวปิดแผลซิลเวอร์นาโนนี้ บริษัท โนวาเทค ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทยได้ต่อยอดผ้าปิดแผลบลูริบบอน
“กาวปิดแผลจะใช้ปิดเวลาทำความสะอาดแผลเสร็จแล้ว เพื่อไม่ให้แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อโรคมารบกวน จะเห็นว่ากาวส่วนใหญ่ที่เป็นผ้าปิดแผล เช่น เทนโซพลาส จะไม่มีซิลเวอร์นาโน ทำให้รอยเชื่อมต่อจะเป็นตัวแพร่เชื้อได้ หรือบางคนอยากรู้ว่าแผลหายหรือยัง ก็จะเปิดดูแผลซึ่งทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้ แต่กาวปิดแผลซิลเวอร์นาโนสามารถป้องกันและกำจัดแบคทีเรียโดยลดโอกาสของการติดเชื้อได้ ขณะที่ในรถพยาบาลก็ใช้ซิลเวอร์นาโนเข้าไปเคลือบทั้งภายในและภายนอกเพื่อป้องกันและกำจัดเชื้อโรค ทำให้คนป่วยหรือผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นทีมหมอ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ จะปลอดภัยจากเชื้อโรคเนื่องจากการรับส่งผู้ป่วย”
ไม่เพียงเท่านี้ ซิลเวอร์นาโนสามารถนำไปใช้ในชีวิตของคนเราได้หลายทาง โดย รศ.ดร.สนอง เล่าว่า ในการเกษตรก็มีการนำไปใช้ และมีการทดลองเพื่อป้องกันโรคพืช ป้องกันการแพร่ของโรคพืช รวมถึงทำให้พืชโตเร็ว รากแข้งแรง ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรหรือผลผลิตทางการเกษตรมีคุณภาพปราศจากแบคทีเรีย และยืดอายุผลิตภัณฑ์ได้นานขึ้น
“อย่างเช่นการรักษาผลิตภัณฑ์ จำพวกผัก ผลไม้ เก็บไว้ไม่นานก็เสีย โดยระหว่างตัดเก็บมาจะมีแบคทีเรียและเชื้อโรคติดมาตรงที่เป็นรอยตัด หรือที่เปลือกของผลไม้ เช่น มะละกอ กล้วย มะมว่ง เป็นรอยช้ำๆ หรือบางทีเน่าผิดปกติ เราสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ไปป้องกันการแพร่ของแบคทีเรียทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดี เช่น ใส่ฆ่าเชื้อขณะที่ล้างผัก หรือผลไม้ หรือแม้อุตสาหกรรมส่งออกก็สามารถใช้นาโนเทคโนโลยียืดอายุผลิตภัณฑ์ได้ โดยเอาไปเคลือบบนบรรจุภัณฑ์บนกล่อง แพ็กเกจจิง ทำให้สิ่งแวดล้อมของบรรจุภัณฑ์ปลอดเชื้อโรค ของที่อยู่ข้างในก็จะเสียหรือเน่าช้าลง”
นอกจากนี้ ยังสามารถนำเอานาโนเทคโนโลยีมาใช้ในผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น เครื่องจักสานที่ขึ้นราง่าย เก็บแล้วมีกลิ่นเนื่องจากมีความชื้น เพราะแบคทีเรียไปกินเซลลูโลส กินแป้งที่อยู่ในโครงสร้างนั้นๆ เราก็ใช้ซิลเวอร์นาโนเข้าไปเคลือบบนเครื่องจักสานทำให้แบคทีเรียไม่โต เมื่อไม่โตก็ไม่มีเชื้อและปราศจากกลิ่นเหม็น”
รองผู้อำนวยการฝ่ายวัสดุ ศูนย์นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี กล่าวต่อว่า ในชีวิตประจำวันของเราอีกอย่างคือเวลาออกไปท้องไร่ท้องนาในหน้าฝน หรือในช่วงน้ำท่วมก็จะเป็นโรคในง่ามมือง่ามเท้า น้ำกัดเท้า เท้าเหม็น เราสามารถทำเจลซิลเวอร์นาโนทาป้องกันเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นได้ แทนที่จะใส่รองเท้าบู๊ตอย่างเดียว
“ถ้าใครสนใจทำเจลซิลเวอร์นาโนทางเราจะช่วย ซึ่งเจลนี้จะต่างจากเจลทั่วไปที่เป็นเจลแอลกอฮอล์ ซึ่งป้องกันแบคทีเรียอยู่พักหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ได้ฆ่าแบคทีเรีย แต่เจลซิลเวอร์นาโนฆ่าแบคทีเรียได้ โดยเจลชนิดนี้มีเอกชนทำอยู่ แต่ก็เป็นโนฮาวจากต่างประเทศ ดังนั้นถ้าใครอยากมีผลิตภัณฑ์ของตัวเองขาย เราสามารถถ่ายทอดได้และให้ได้ โดยไม่ต้องไปซื้อกับต่างประเทศ ทำของเราใช้เอง เป็นโนฮาวของเรา และเราจะช่วยสร้างผลิตภัณฑ์แข่งกับต่างประเทศขอเพียงคุณเดินเข้ามาหาเรา” ดร.สนอง กล่าว
ดอกเตอร์คนเก่ง ยืนยันว่า ประชาชนจะได้ประโยชน์จากนาโนเทคโนโลยีนี้แน่นอน ทั้งเรื่องการเกษตร การพาณิชย์และอุตสาหกรรม สุขภาพ อาหาร เป็นต้น เพราะอนุภาคของซิลเวอร์นาโนมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสที่ดีอันเป็นสาเหตุหลักของโรคต่างๆ