ไม่มีแขน ไม่มีขา ไม่มีกังวล ชีวิตไม่มีอะไรร้าย อย่าทึกทักเอาเอง

03 กันยายน 2556

นิค วอยจิค เกิดมาพิการมีแต่ตัวกับศีรษะ แขนขาลีบเล็กจนเรียกได้ว่า แทบจะไม่มีอวัยวะเหล่านี้ติดตัว แต่ไม่ปล่อยให้ข้อจำกัดนี้มาทำให้ชีวิตล่มจมไป

โดย...ภัทระ คำพิทักษ์

3 ก.ย.นิค วอยจิค ผู้จุดไฟให้คนทั่วโลกได้ตระหนักถึงศักยภาพของตัวเองจะมาเมืองไทย เพื่อทอล์คโชว์ในงาน Nick Vujicic Live in Bangkok สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียน นักศึกษา หนุ่มสาว

นิค วอยจิค เกิดมาพิการมีแต่ตัวกับศีรษะ แขนขาลีบเล็กจนเรียกได้ว่า แทบจะไม่มีอวัยวะเหล่านี้ติดตัว เขาท้อถอย เศร้าโศกแต่ไม่ปล่อยให้ข้อจำกัดนี้มาทำให้ชีวิตล่มจมไป เขาต่อสู้เพื่อสิทธิคนพิการที่จะได้เข้าเรียนในโรงเรียนดีๆเหมือนคนอื่นๆ ภารโรงในโรงเรียนผู้หนึ่งแผ้วทางอนาคตให้เขาโดยบอกให้ นิค วอยจิค พูดอะไรก็ได้กับเพื่อนนักเรียน หนแรกมีคนฟังอยู่สัก 10 กว่าคน เดี๋ยวนี้เขาพูดทีมีคนฟังเป็นหมื่นๆคนและคนทั่วโลกรู้จัก นิค วอยจิค

นิค วอยจิค เลยเล่าเอาไว้ว่า

"ผมรู้ ว่าภายนอกผมต่างจากคนอื่นแต่ข้างในนั้นผมก็เหมือนกับทุกคนแหละ มีหลายครั้งที่ผมรู้สึกแย่มาก ๆ จนไม่อยากไปโรงเรียนเพื่อที่จะไม่ต้องไปเจอเรื่องแย่ ๆ พวกนั้น แต่ผมก็ได้รับการชูใจจากพ่อแม่ในการที่จะไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น และให้เริ่มหาเพื่อนโดยการไปพูดคุยกับเด็กบางคน ไม่นานนักเด็กนักเรียนเหล่านั้นก็รู้ว่าผมก็เหมือนพวกเขานั้นแหละ และจากตรงนั้น พระเจ้าก็อวยพรผมในการพบเพื่อนใหม่

มีบางเวลาที่ผมรู้สึก หดหู่และโกรธเกรี้ยวเพราะผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ผม หรือไม่สามารถโทษใครได้สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมไปโรงเรียนสอนศาสนาวันอาทิตย์และได้เรียนรู้ว่าพระเจ้ารัก

เราทุกคนและ พระองค์ทรงห่วงใยเรา ผมก็เข้าใจความรักในแบบเด็ก ๆ แต่ผมไม่เข้าใจว่า ถ้าพระเจ้ารักผม ทำไมพระองค์ถึงทำให้ผมเป็นแบบนี้? เป็นเพราะว่าผมทำอะไรผิดหรือเปล่า? ผมคิดว่าผมต้องทำอะไรผิดแน่เลยเพราะจากเด็กทุกคนในโรงเรียน มีผมคนเดียวที่ประหลาด ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมเป็นภาระของคนรอบ ๆ ตัวผม และถ้าผมยิ่งตายเร็วเท่าไหร่ ทุกคนก็คงสบายขึ้นเท่านั้น ผมต้องการที่จะจบความเจ็บปวดและจบชีวิตนี้ด้วยอายุเพียงน้อยนิด แต่ผมก็ต้องขอบคุณอีกครั้งหนึ่ง สำหรับพ่อแม่และครอบครัวที่อยู่ตรงนั้นเพื่อผมตลอดเวลาเพื่อที่จะทำให้ผม รู้สึกดีและเข้มแข็ง

เนื่องจากการต้องดิ้นรนใน ด้านอารมณ์ของผม ผมต้องเจอกับการกลั่นแกล้ง การเคารพตัวเอง และความโดดเดี่ยว พระเจ้าได้ปลูกฝังความหลงไหลในการแบ่งปันเรื่องราวและประสบกาณ์ของผมเพื่อ ช่วยเหลือคนอื่นในการรับมือกับความท้าทายใด ๆ ก็ตามที่พวกเขาต้องเจอในชีวิตและยอมให้พระเจ้าเปลี่ยนเรื่องเหล่านั้นเป็น พระพร เพื่อหนุนใจและดลใจให้ผู้อื่นใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้ และไม่ยอมให้สิ่งใดเข้ามาขวางความหวังและฝันของพวกเขาได้

บทเรียนหนึ่งในเรื่องแรก ๆ ที่ผมได้เรียนรู้ก็คือการที่จะไม่ทึกทักเอาเอง"

นิค วอยจิค เชื่อว่า พระเจ้ามีประสงค์อันแจ่มชัดว่า ทำไมถึงให้ทุกคนเกิดมาโดยมีข้อจำกัดต่างๆกันและ "ตอนนี้ผมได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ในการใช้ผมในสิ่งที่ผมเป็นและเป็น สิ่งที่คนอื่นไม่มี" แล้ว

สิ่งนั้นคือ อะไร?

เขาบอกว่า เขา "มีความฝันและเป้าหมายมากมายที่ผมตั้งไว้เพื่อที่จะทำให้สำเร็จในชีวิตนี้ ผมอยากจะเป็นพยานที่ดีที่สุดที่ผมจะเป็นได้สำหรับความรักและความหวังของพระเจ้า อยากเป็นนักพูดให้กำลังใจในระดับสากล และเพื่อถูกใช้เป็นพาหนะทั้งในเรื่องของคริสเตียนและเรื่องอื่น ๆ"

เขาอยากมีอิสระทางการเงินเมื่ออายุ 25 ผ่านทางการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เขาอยากเขียนหนังสือเล่มที่ติดอันดับขายดีที่สุดและ หนังสือเล่มนั้นจะมีชื่อว่า "ไม่มีแขน ไม่มีขา ไม่มีกังวล!"

งานทอล์คโชว์ครั้งนี้ รายได้ทูลเกล้าฯ ถวายมูลนิธิคอลฟิลด์เพื่อคนตาบอดในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และมูลนิธิคริสเตียนเพื่อเด็กพิการ ในประเทศไทย (CCD) ในงานจะมีแขกรับเชิญพิเศษอีก 2 คนคือ ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นักธุรกิจที่เริ่มจากการติดลบ และ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร

ใครสนใจสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ เฟซบุ๊ก Nick Vujicic Live in Bkk, เว็บไซต์ www.bridgecomm.org/NickVujicic หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 09-2313-2773

ขอให้ทุกท่านพบความฝันและเป้าหมายอันแจ่มชัดในชีวิตและอุทิศตนเพื่อสิ่งนั้น และมีความสุขกับสิ่งนั้นครับ

ขอบคุณ ภาพและข้อมูลบางส่วนจาก mthai.com ครับ
 

Thailand Web Stat