บอย & หน่อง คู่พี่น้อง ยิ่งรัก ยิ่งเกรียน ยิ่งเข้าใจ

14 กันยายน 2556

หากความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่หนึ่งที่รักและผูกพันกันมาอย่างลึกซึ้ง อย่าง “บอยปกรณ์ หน่องธนา ฉัตรบริรักษ์” จะทำให้ใครหลายคนชื่นชมในความรักความผูกพัน

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ เสกสรร โรจนเมธากุลฃ

หากความสัมพันธ์ของพี่น้องคู่หนึ่งที่รักและผูกพันกันมาอย่างลึกซึ้ง อย่าง “บอยปกรณ์ หน่องธนา ฉัตรบริรักษ์” จะทำให้ใครหลายคนชื่นชมในความรักความผูกพัน (รวมทั้งความหล่อเหลาที่มีไม่แพ้กัน) นั่นยิ่งเป็นคำตอบของอะไรบางอย่างที่ว่า เมื่อพี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกันดี ยิ่งเข้าวงการบันเทิงเหมือนกัน ยิ่งรักยิ่งผูกพันกัน (แม้จะงานชุกด้วยกันทั้งคู่) ยิ่งทำให้เขาทั้งคู่เป็นที่รักของประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ “ความเกรียน” ที่ทั้งคู่สร้างความสุขให้กับประชาชนด้วยรูปถ่ายเกรียนๆ ที่อัพลงอินสตาแกรมอยู่ตลอดเวลา

‘บอย ปกรณ์’ ครอบครัวมาเป็นอันดับ 1

“สมัยเด็กๆ เราจะนอนห้องเดียวกันตลอด แต่หน่องเขาจะเป็นคนชอบเก็บตัว มีมุมส่วนตัวของเขา ซึ่งเขาจะต่างจากผม ตรงที่ผมจะเป็นคนซนๆ เฮฮาบ้าบอไปตามสไตล์ ทั้งที่ผมเป็นพี่ชายคนโต น่าจะเป็นผู้ใหญ่กว่า เก็บตัวมากกว่า สุขุมมากกว่า แต่ผมกับเขาขั้วตรงข้ามกันเลย เหมือนเขาเป็นพี่ชายคนโตมากกว่าผมซะอีก (หัวเราะ) แต่เอาเข้าจริงๆ เขาก็มีมุมที่เกรียนๆ สนุกสนานเฮฮาตามประสาวัยรุ่นผู้ชายเหมือนกันนะ

แต่สิ่งหนึ่งที่เขาน่ารัก คือ เขาเป็นคนเชื่อฟังพี่ชาย มีขัดขืนบ้าง ก็ตามวัยของเขานั่นแหละ พอเขาได้เข้าวงการบันเทิงมา เขาก็พยายามปรับตัวนะ ซึ่งเขาก็พยายามปรับตัวไปเรื่อยๆ เท่าที่เห็น ตอนนี้เขาก็เริ่มปรับตัวได้มากขึ้นเรื่อยๆ ได้เรียนรู้อะไรๆ มากขึ้น แต่ก่อนที่เขาจะได้มาเล่นละคร เขาก็มีถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ถ่ายเอ็มวีมาบ้าง คนส่วนใหญ่คิดว่า ผมเป็นพี่ดัน จริงๆ ก็เป็นพี่ดันอย่างที่เขาว่านั่นแหละ (หัวเราะ) แต่ไม่ได้ดันเสียทีเดียวทั้งหมด ตอนแรกเขาเข้ามาด้วยตัวของเขาเอง แต่พอเข้ามาแล้ว เราก็ให้การสนับสนุน ให้การแนะนำเขาให้ผู้ใหญ่รู้จักบ้างก็เท่านั้นเอง

เมื่อเขาเข้าวงการบันเทิงมา มักมีคนชอบว่าเราว่าเป็นพี่น้องคู่เกรียน มีหน้าตาคล้ายกัน คาแรกเตอร์เหมือนๆ กัน ผมว่าบ้านผมเป็นบ้านที่ชอบความสนุกสนาน เรามีความเป็นตัวของตัวเองกันชัดเจน นั่นอาจเป็นสิ่งที่ติดตัวเรามา ผมและหน่องค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องของครอบครัว ไปไหนด้วยกัน กินข้าว เที่ยว และเน้นความเป็นห่วงเป็นใยกัน อย่างเขาเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง เราก็เป็นห่วงเป็นใย ให้คำแนะนำตลอด แต่พอเขาเข้ามาได้สักระยะ เราก็ต้องปล่อยให้เขาได้เจอปัญหาด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง เขาจะได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

หน่องเป็นคนจิตใจดีนะ อย่างตอนที่เขาเพิ่งเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง งานยังมีไม่เยอะหรอก แต่เขาก็มีเงินเก็บแสนสองแสน เขาให้แม่หมดเลย ไม่ขี้หวงเงิน ตรงนี้นี่แหละที่ทำให้ผมประทับใจเขามาก ซึ่งผมเชื่อว่า แม่ก็ประทับใจเขาไม่ต่างจากผมอย่างแน่นอน

หากบอกอะไรเขาได้ ผมก็จะบอกเขาว่า ดูแลแลตัวเองให้ดีนะ ทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งอยากให้เขาตั้งใจทำงานในวงการบันเทิงอย่างที่เขาทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ที่สำคัญ อย่าเกรียนให้เกินหน้าเกินตาผมมาก เดี๋ยวจะดังเกินผมไปหมด (หัวเราะ)

เอาเป็นว่า สำหรับผมแล้ว ครอบครัวเป็นทุกอย่าง เป็นแบ็กอัพ เป็นแรงผลักดันที่อยู่ข้างหลังตลอดเวลา ถ้าเราจะเริ่มต้นอะไร เราก็จะเริ่มที่ครอบครัว ไม่ว่าเราก้าวไปข้างหน้ากี่ก้าว เวลาเราหกล้ม เราก็จะมีครอบครัวคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอ”

‘หน่อง ธนา’ยิ่งเข้าวงการ ยิ่งเข้าใจพี่ชาย

“ผมเข้ามาในวงการประมาณปีครึ่ง เข้ามาแล้วก็พบเจอการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต ได้เปิดโลกกว้างมากขึ้น ถ้าผมไม่ได้เข้ามาในวงการ ไม่มีพี่ชายคอยช่วยเหลือให้คำแนะนำ ผมคงไม่มีโอกาสได้ทำอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง ได้ไปในสถานที่ที่เราไม่เคยได้ไป ซึ่งเหมือนได้ไปเที่ยวในตัวอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

ตอนที่ผมยังไม่ได้เข้ามาในวงการ ผมเป็นคนขี้อายนะ อย่างบอยเขาจะซ่ากว่าผม เกรียนกว่าผม ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองสูง ซึ่งก็อย่างที่ใครหลายๆ คนทราบดี (หัวเราะ) ถึงแม้จะมีคนคอยจับตาว่า ผมจะไปได้ไกล อย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่งของพี่ชายหรือเปล่า อีกทั้งยังมีคนจับตาว่าเราเป็นพี่น้องคู่เกรียน จะเกรียนไปได้แค่ไหน แต่ผมเชื่อว่า ความเกรียนของเราสองคน ก็คงจะเกรียนไม่ลดลงไปกว่านี้แล้วละครับ เพราะมันติดตัวเรามาตั้งแต่เด็กจริงๆ สมัยเด็กๆ เราชอบถ่ายรูปพิเรนทร์ๆ ไม่สุภาพ ห่ามๆ ตามสไตล์ผู้ชาย เอาเป็นว่าที่ถ่ายแล้วลงโซเชียลเน็ตเวิร์กไม่ได้ยังมีอีกเยอะ (หัวเราะ)

อยู่ที่บ้านบอยเขาเป็นพี่ใหญ่ที่คอยดูแลน้องๆ อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ถึงงานเขาจะมีเยอะ แต่เขาก็จะคอยโทรศัพท์ถามไถ่อยู่เสมอ แม่เป็นไง น้องเป็นไง เขามีความเป็นผู้ใหญ่สูงในเรื่องความห่วงใยคนในครอบครัว

ถ้าให้พูดถึงตอนเป็นเด็ก เขาเป็นเด็กตั้งใจเรียน คงเพราะแม่เคี่ยวเข็ญเรื่องเรียนด้วยมั้งครับ ทำให้เขาติดเชื้อแม่ในเรื่องคอยเคี่ยวเข็ญเรื่องเรียนให้น้องๆ เสมอ แต่ถามว่าเห็นมีความรักใคร่เป็นห่วงเป็นใยกันดี เรื่องเตะต่อยทะเลาะกันมีบ้างไหม มีครับ แต่ไม่ได้ต่อยตีกันแบบหนักๆ โกรธกันก็อาจฟึดฟัดกันพอให้หายเคือง ไม่ได้โกรธจริงจังใหญ่โตอะไรมาก ทุกวันนี้ เราโตๆ กันแล้ว เป็นผู้ใหญ่กันมากขึ้น คุยกันด้วยเหตุผลมากกว่า

ถามถึงนิสัยส่วนตัวของเขาเหรอครับ เขายังเหมือนเดิมนะ อย่างเขาเป็นพี่ เขาใช้ให้น้องไปทำธุระยังไง ทุกวันนี้ก็ยังใช้ไปทำอยู่ ก่อนผมเข้าวงการ เวลาเขามาใช้ ผมจะขี้เกียจทำ แต่พอเขาเข้ามาในวงการ เขาใช้อะไร ก็ทำให้เขา เพราะเราเข้าใจว่า อยู่ตรงนี้หาเวลาได้น้อยมาก เหมือนผมไม่มีเวลาไปทำธุระ ผมก็วานให้น้องชายคนเล็กทำให้ ซึ่งเขาก็ช่วยทำให้เป็นอย่างดี เพราะเขาเข้าใจ เหมือนที่ผมเข้าใจพี่ชาย

สำหรับเส้นทางในวงการบันเทิงของผม ผมไม่ได้คาดหวังว่าอยู่ในวงการจะต้องโด่งดังเหมือนพี่ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ด้วยความที่เราใช้ชีวิตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก คาแรกเตอร์ก็มีส่วนคล้ายกัน หน้าตาก็เหมือนกัน ผมอาจจะยังจับทางไม่ได้ว่าจะฉีกไปในแนวทางไหน ก็คงต้องใช้เวลานิดนึง เพื่อหาตัวตนที่ชัดเจนในวงการบันเทิง

อย่างตอนนี้เราสองคนมีน้องสาวคนใหม่ที่เรารับเอามาเลี้ยง นั่นคือน้องวันใหม่ น้องเข้ามาทำให้เราอยู่บ้านกันบ่อยมากขึ้น เลิกงานปุ๊บอยากกลับบ้านไปหาน้อง ไปเล่นกับน้อง อยากพาน้องไปนั่นไปนี่ น้องเขามาช่วยทำให้เราทุกคนหายเหงาได้นะ เพราะทั้งผมกับพี่ทำงานกันทุกวัน ตอนนี้ต่างคนต่างหลงน้องสาวคนนี้มาก บอยนี่มากกว่าคนอื่นเลยล่ะ เวลากลับมาบ้านดึกๆ เขาชอบไปปลุกน้องให้ตื่น เพื่อจะได้เล่นด้วยกัน แต่ถามว่าเขาหลงน้องสาวคนใหม่ขนาดนี้ เรื่องแฟนของเขาเป็นยังไงเหรอครับ เอาเป็นว่าเรื่องความรัก เราไม่ค่อยเอามาคุยกัน เพราะเขินกัน เขามักจะไปปรึกษาแม่มากกว่า

ท้ายสุด ผมก็ขอขอบคุณพี่ชายคนนี้นะ ที่ช่วยทำให้ผมได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง และคอยแนะนำทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่เขาจะแนะนำได้ ก็ขอบคุณเขาตรงนี้เลยแล้วกันครับ”

Thailand Web Stat