สีสันตำนานนักซิ่ง
สารภาพตามตรงว่าเห็นใบปิดหนังเรื่อง Rush ที่มีใบหน้าหล่อเหลาผมยาวสลวยของพระเอกหนุ่มเนื้อหอมที่สุดแห่งยุค คริส เฮมส์เวิร์ธ แล้วรู้สึกเฉยๆ ค่อนไปทางแอนตี้ด้วยซ้ำ
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล ภาพ ไม่เครดิต
Rush (อัดเต็มสปีด)
ประเทศ สหรัฐ
ประเภท ชีวิต
ความยาว 123 นาที
เรตติ้ง 15+ เหมาะสำหรับผู้ชมที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป
กำกับ รอน โฮเวิร์ด
นำแสดง คริส เฮมส์เวิร์ธ, แดเนียล บรูห์ล ฯลฯ
สารภาพตามตรงว่าเห็นใบปิดหนังเรื่อง Rush ที่มีใบหน้าหล่อเหลาผมยาวสลวยของพระเอกหนุ่มเนื้อหอมที่สุดแห่งยุค คริส เฮมส์เวิร์ธ แล้วรู้สึกเฉยๆ ค่อนไปทางแอนตี้ด้วยซ้ำ
อาจเป็นเพราะติดหูติดตากับหนังแนวแอ็กชั่นซูเปอร์ฮีโร่กล้ามโต จากผลงานอย่าง The Avengers และ Thor ก็เลยมีอคติว่าคงหนีไม่พ้นหนังที่เน้นขายชื่อดาราทั่วไป
แต่พี่ชายที่เคารพนับถือคนหนึ่งแนะนำให้ดู แถมกำชับว่านี่คือหนังที่ทรงพลัง ให้แรงบันดาลใจที่สุดในรอบหลายปี ใจชักเริ่มลังเล ในที่สุดก็ยอมควักเงินตีตั๋วเข้าชม
Rush เป็นหนังเกี่ยวกับแวดวงรถฟอร์มูลาวัน เมื่อทศวรรษที่ 70 อันถือเป็นยุคทองของการแข่งขันรถสูตรหนึ่งที่มีความเร็วที่สุดในโลก สมัยนั้นนักขับดาวเด่นระดับซูเปอร์สตาร์มีขับเคี่ยวกันอยู่เพียง 2 คน คือ เจมส์ ฮันท์ ชาวอังกฤษ และ นิกิ เลาดา ชาวออสเตรีย 2 ตำนานนักซิ่งที่ได้รับการจารึกในประวัติศาสตร์การกีฬา
คนหนึ่งคือ เจมส์ ฮันท์ รูปหล่อ เจ้าชู้เพลย์บอย ใจกล้าบ้าบิ่นไม่กลัวตาย อีกคนหนึ่ง นิกิ เลาดา เจ้าของฉายาจอมเทคนิค ผู้เปี่ยมพรสวรรค์ รอบรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับรถแข่ง ทั้งคู่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด มีสูสีและมีสีสัน ทั้งในและนอกสนาม ผลัดกันแพ้ชนะ จนผู้ชมทั่วโลกยกให้เป็นคู่ปรับตลอดกาล
หนังเล่าเรื่องได้อย่างรวบรัด ชาญฉลาด และเท่ ฉายภาพไลฟ์สไตล์นอกสนามอันแตกต่างราวฟ้ากับเหวของแต่ละคน ให้กลายเป็นภาพเปรียบเทียบ ทว่าความมุ่งมั่นเอาชนะ การฝึกซ้อมอย่างเอาจริงเอาจังและหนักหน่วง ตลอดจนพรสวรรค์ที่ได้รับการประทานมา ทำให้เจมส์ และนิกิ มีเป้าหมายชีวิตเหมือนกัน คือ การเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก และตำแหน่งแชมป์โลก
2 ชั่วโมงเศษกับหนังที่นำเสนอเรื่องความเร็วในสนามแข่ง ชีวิตนอกสนามอันเข้มข้นของนักซิ่งระดับตำนานทั้งสอง กลับไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด ก่อนจะจบเรื่องอย่างซาบซึ้งใจ เต็มอิ่มในอารมณ์
ผู้ชมจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับฝีมือการถ่ายภาพ ลำดับภาพ ตัดต่อที่สวยไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็นภาพรถแข่งฟอร์มูลาวันที่กำลังขับเคี่ยวอยู่ในสนาม เสียงอันไพเราะของรถที่ซิ่งด้วยความเร็วปานสายฟ้า โดยเฉพาะฉากการแข่งขันครั้งสุดท้ายที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ลุ้นเอาใจช่วยไปกับทั้งคู่ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ยินดีไปกับทั้งสองฝ่ายได้อย่างไม่ขัดเขิน
หัวใจนักสู้ของ นิกิ เลาดา ผู้ฟื้นตื่นจากความตาย เอาชนะข้อจำกัดทางร่างกาย ความทุกข์ทรมาน สามารถฮึดกลับมาลงสนาม พร้อมคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง หลังประสบอุบัติเหตุช็อกโลก เชื่อว่าตอนนี้ปลุกใจคนดูให้ฮึกเหิมได้แน่นอน
ตอนจบที่นำฟุตเทจสั้นๆ ภาพจริง เสียงจริงของยอดนักขับทั้งสองคน พานให้น้ำตาคลอหน่วย ยิ่งได้ยินเสียงพูดจากนิกิ ตัวจริงในวัยชราที่พูดถึงเจมส์คู่ปรับของเขาอย่างชื่นชม ทำให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าทั้งคู่ไม่ใช่ศัตรู หากเป็นเพื่อน เป็นคู่แข่งที่สมเกียรติ สมศักดิ์ศรี
เครดิตในตอนท้าย ทำให้ตาผมพลันสว่างขึ้นโดยพลัน เมื่อเห็นชื่อ รอน โฮเวิร์ด ผู้กำกับชาวอเมริกัน เจ้าของรางวัลออสการ์ 2 ตัว (จากหนังเรื่อง A Beautiful Mind และ Apollo 13) ยิ่งได้ ปีเตอร์ มอร์แกน (เจ้าของผลงาน Frost/Nixon และ The Queen) มารับหน้าที่เขียนบท จึงไม่น่าแปลกใจนักว่า ทำไมภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงนำเสนอเรื่องของคู่หูคู่ปรับออกมาได้สมบูรณ์แบบ ครบทั้งความสนุก เร้าใจ สะเทือนอารมณ์ และทรงพลังมากขนาดนี้
ทันทีที่เดินออกจากโรง ผมควักมือถือเสิร์ชกูเกิลหารูปถ่ายตัวจริงของ เจมส์ ฮันท์ และ นิกิ เลาดา (ซึ่งเดาว่าน่าจะมีผู้ชมหลายคนทำแบบเดียวกัน) ก็ต้องทึ่งเมื่อพบว่าใบหน้า บุคลิกท่าทางของ คริส เฮมส์เวิร์ธ ช่างคล้ายคลึงกับ เจมส์ ฮันท์ เช่นกันกับ แดเนียล บรูห์ล ผู้รับบท นิกิ เลาดา ทั้งคู่แสดงสุดฝีมือน่ายกย่องจริงๆ
นี่เป็นหนังเกี่ยวกับกีฬา เกี่ยวกับการแข่งรถ เกี่ยวกับชีวประวัติที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผมเคยดู
มั่นใจถึงขั้นฟันธงได้ว่า หนังเรื่องนี้จะกวาดรางวัลทางภาพยนตร์ไปได้หลายตัว จากหลายเวที
Rush ตระเวนถ่ายทำในสนามแข่งขันฟอร์มูลาวัน ในสหราชอาณาจักร เยอรมนี และออสเตรีย โดยได้ นิกกี้ ฟอล์คเนอร์ อดีตนักขับรถฟอร์มูลาวัน เข้ามาเป็นที่ปรึกษาและสตันต์ในการขับทริกยากๆ เพื่อให้ทุกอย่างออกมาเที่ยงตรงและแม่นยำตามประวัติศาสตร์ที่สุด
หลังจากนักขับชาวอังกฤษ เจมส์ ฮันท์ คว้าแชมป์การแข่งขันฟอร์มูล่าวัน ประจำปี 1976 เขาตัดสินใจวางมือในอีก 3 ปีถัดมา และผันตัวมาเป็นนักพากย์กีฬาชื่อดัง โดยพกพาความรู้ที่ลึกซึ้งในกีฬาความเร็ว รวมถึงบุคลิกอันโดดเด่นโดยเฉพาะอารมณ์ขัน จนกลายเป็นที่จดจำไม่แพ้ลีลาซิ่งบนสนามแข่ง เจมส์เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวาย เมื่อปี 1993 ขณะอายุเพียง 45 ปี
นิกิ เลาดา ตำนานนักแข่งชาวออสเตรีย แชมป์การแข่งขันฟอร์มูลาวัน 3 สมัย ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นนักขับที่มีเทคนิคยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ถอนตัวจากการแข่งอย่างถาวรหลังจบฤดูกาล ในปี 1985 ปัจจุบันอายุ 64 ปี และเป็นเจ้าของธุรกิจสายการบิน 2 แห่ง Lauda Air กับ Niki แต่ก็ยังแบ่งเวลามาให้การแข่งรถที่เขารัก ในฐานะผู้จัดการทีม F1 ของ Jaguar ในช่วงปี 20012002 และยังเป็นผู้บริหารของ Mercedes AMG Petronas ทีม F1 ที่มี ลูอิส แฮมิลตัน เป็นแชมป์โลกปี 2008