ศึกษาศาสตร์จักรยานกับ Cinelli

เรื่องและภาพ ฟ้า สิริวิสาล

เมื่อ Cycling Plus Thailand เดินทางไปร่วมปั่นจักรยานที่อิตาลีกับทริป Giro della Toscana และได้โพสต์รูปบน Instagram ของเราตลอดการเดินทาง วันหนึ่งมีคอมเมนต์ขึ้นมาว่า “Come visit us!” จาก @cinelli_official ชักชวนให้เราไปเยี่ยมโรงงานที่เป็นหนึ่งในสุดยอดตำนานของจักรยาน...ใครหรือจะไม่อยากไป

ตอนนั้นดิฉันกำลังเที่ยวเล่นอยู่ที่อิตาลีและได้รับติดต่อจากบรรณาธิการ Cycling Plus Thailand ว่าสนใจจะไปเยี่ยมโรงงานของ Cinelli ที่เมืองมิลานไหม

“ไปได้ค่ะ แต่ไม่รู้เรื่องจักรยานเลยนะคะ" เมื่อความกังวลอันยิ่งใหญ่ในใจไม่ใช่ปัญหา ทางนิตยสารจึงได้นัดแนะกับทาง Cinelli ว่าจะขอให้ดิฉันเป็นตัวแทนไปเยี่ยมชมโรงงานในอาทิตย์ถัดไป

โรงงาน Cinelli ตั้งอยู่ในเมืองเล็กจิ๋ว ทางตะวันออกของมิลานชื่อ Settala สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถไฟใต้ดินสายสีเหลือง (M3) จากสถานีรถไฟหลัก (เทียบกับหัวลำโพงของเรา) สุดสายไปยัง San Donato ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นต้องต่อรถไปอีกประมาณ 10 นาที ซึ่งทาง Cinelli ก็ใจดีส่งคนมารับถึงสถานีรถไฟใต้ดิน

วันที่ไปถึงเป็นวันที่ยุ่งมากๆ วันหนึ่งในออฟฟิศแห่งนี้ ด้วยอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ทั้งบริษัทก็จะหยุดยาวสองอาทิตย์ ตามธรรมเนียมปฏิบัติในช่วงหน้าร้อนของคนอิตาเลียน พอกลับมาจากวันหยุด ก็ต้องเตรียมพร้อมเพื่องาน Eurobike ซึ่งเป็น trade fair ที่สำคัญที่สุดของโลกจักรยานในปลายเดือนสิงหาคมที่เยอรมนี ทางทีม visual design กำลังเร่งทำ artwork ต่างๆ เพื่อจะส่งพิมพ์ให้ทันก่อนที่โรงพิมพ์จะปิดไปพักผ่อน

หลังจากทักทายดื่มกาแฟเรียบร้อย Antonio Columbo CEO คนดังของ Cinelli ก็เปิดบทสนทนาด้วยคำถามว่า “ปั่นจักรยานมั้ย?” จนทำให้ลังเลในใจขึ้นมาอีกครั้ง แต่มาไกลถึงนี่แล้ว คงต้องลุยต่อ จึงตอบ Antonio ไปว่า “ตอนอยู่ต่างประเทศใช้จักรยานปั่นไปทุกที่ แต่ตั้งแต่ย้ายกลับไปเมืองไทยก็ยังใจไม่กล้าพอที่จะไปสู้รบกับใครเขาบนถนน เรื่องจักรยานปั่นเป็นอย่างเดียว อย่างอื่นไม่รู้เรื่องเลยคะ” (ยิ้มสู้) Antonio ยิ้มตอบ คาดว่าคงไม่คิดว่าจะเจอคำตอบแบบนี้ “งั้นคงต้องไปทำความรู้จักกับจักรยานกันก่อน” ว่าแล้วก็ส่งดิฉันไปหา Fabrizio Aghito รองประธานและวิศวกรใหญ่ของ Cinelli เพื่อที่จะไปชมภายในโรงงาน

ดิฉันออกตัวกับ Fabrizio อีกครั้งว่าไม่ค่อยสันทัดเรื่องจักรยาน วันนี้จะขอมาเป็นลูกศิษย์ศึกษาศาสตร์ของจักรยานล่ะกัน Fabrizio ตอบตกลง สัญญาว่าจะตอบทุกคำถามวันนี้ Fabrizio นั้น ทำงานให้กับ Cinelli มากว่า 16 ปี ก่อนหน้านั้นเขาทำงานให้กับ Columbus เรียกว่ารู้ลึกรู้จริงทุกขั้นตอนของการผลิต ถ้าอยากจะรู้เรื่องจักรยานแล้ว คงต้องคนนี้ล่ะ

50 เมตรจากตึกออฟฟิศคือที่ตั้งของตัวโรงงาน ซึ่งดูเหมือน warehouse ขนาดกลาง ฝั่งหนึี่งคือ workshop ของ Columbus ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเป็นของ Cinelli

 

แฟนๆ จักรยานคงทราบดีว่า Columbus คือผู้ผลิตท่อเหล็กคุณภาพเยี่ยมผู้กลายเป็นตำนาน ซึ่งคุณพ่อของ Antonio คือ Angelo Luigi ได้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1919 เพืี่อสนองรับความต้องการทางตลาดของจักรยานที่เพิ่มมาก ลูกค้ารายสำคัญมีตั้งแต่ Bianchi, Umberto Dei และแบรนด์อื่นๆ มากมาย Antonio เข้ามารับช่วงต่อจากคุณพ่อใน ค.ศ. 1977 พร้อมๆ กับการรวมเอา Cinelli มาไว้ภายใตับริษัทเดียวกัน

Columbus ในสมัยก่อนนั้นไม่ได้ผลิตท่อเหล็ก สำหรับเฟรมจักรยานเท่านั้น ด้วยความที่มีการพัฒนาเทคนิคในการผลิตท่อเหล็กจนมีความเชี่ยวชาญในระดับแนวหน้า Columbus จึงได้กลายเป็นผู้ผลิตสำคัญให้กับบริษัทเครื่องบิน จักรยานยนต์ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์เด่นๆ หลายชิ้น โดยเฉพาะดีไซน์จาก Marcel Breuer ที่แฟนๆ Bauhaus รู้จักกันดี Antonio เองอยู่ในช่วงจัดทำสารบัญเฟอร์นิเจอร์ที่ Columbus เคยผลิตเพื่อจะทำมิวเซียมเล็กๆ ไว้ให้ชม

บรรยากาศใน workshop วันนี้ไม่วุ่นวายมากนัก มีเพียงช่างไม่่กี่คนกำลังทำงานอยู่อย่างตั้งใจ ทุกคนดูอารมณ์ดีและสนุกกับสิ่งที่ทำ จากวัตถุเหล็กแท่งถูกนำมาเชื่อม กลึงให้ได้ขนาดตามกำหนด นี่คืองานฝีมือที่ต้องใช้ความสามารถและประสบการณ์มากจริงๆ

ในบริเวณเดียวกันนี้ยังมี station ที่ไว้คอยทดสอบสมรรถภาพชิ้นส่วนแต่ละส่วนว่าแข็งแกร่งรองรับน้ำหนักและแรงกดดันได้ตามมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดก็ต้องผ่านการ approve จาก Fabrizio คนนี้

ข้ามไปฝั่ง Cinelli ซึ่งอยู่ติดกันเพียงผนังกั้น พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกใช้เป็น warehouse กลางของบริษัท แต่มุมมุมหนึ่งมีจักรยานและเฟรม วางเรียงรายกันอยู่ Fabrizio บอกว่า ที่เห็นอยู่ทั้งหมดตรงนี้ คือ prototype ซึ่งบางคันก็มีวางจำหน่ายแล้ว บางคันก็ยังอยู่ในระหว่างการผลิต จักรยานทุกคันที่จอดอยู่คือสุดยอดจริงๆ หลายคันกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของโลกจักรยาน อย่าง Cinelli XCR ที่ Fabrizio บอกว่า คือจักรยานที่มีเอกลักษณ์ที่สุด และเพิ่งได้รับรางวัลจาก Germany’s International Forum of Design เมื่อปีที่ผ่านมา ใครที่สนใจ ทาง Cinelli รับส่ังทำพิเศษ customize จากที่นี่โดยตรง

ขณะที่ยังตื่นเต้นตระการตากับบรรดาจักรยานต้นแบบทั้งหลาย Fabrizio ก็เดินนำไปชมห้อง
ที่ทางบริษัทจัดไว้โชว์สินค้าให้ผู้แทนจำหน่ายได้มาเลือกสั่งสินค้า ต้องบอกว่าอยากได้ทุกอย่างจากห้องนี้กลับบ้านไปด้วยที่สุด

Fabrizio อธิบายประเภทของจักรยานแต่ละชนิด และเหตุผลในการดีไซน์รูปทรง มุมองศาของชิ้นส่วนจักรยานว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรให้นักเรียนอย่างดิฉันฟัง จนสัมผัสได้ว่าจักรยานคือ passion จริงๆ ของเขา ไม่ใช่แค่งานที่ทำอยู่ Cinelli ไม่เพียงให้ความสำคัญกับ performance ของจักรยาน แต่ยังให้ความสำคัญอย่างมากใน Emotion design หรือการออกแบบที่เข้าใจในความรู้สึกของผู้ใช้จักรยานอีกด้วย

Fabrizio บอกดิฉันว่า Antonio เป็น CEO ที่ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน และมีส่วนร่วมตั้งแต่การคิด concept จนสินค้าออกสู่ตลาด ซึ่งหลังจากได้พูดคุยกับ Antonio ภายหลังก็เห็นได้ชัดว่าคาแรกเตอร์ของ Cinelli มีความเป็นตัวของ Antonio อยู่มากจริงๆ

หล้งจากเดินชมโรงงานจนถึงเวลาพักเที่ยง Antonio ชวนดิฉันและหัวหน้าแผนกแต่ละแผนกไปรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกัน ระหว่างที่รออาหาร หัวข้อสนทนาก็หนีไม่พ้นเรื่อง Tour de France ที่กำลังจะจบลงในอีกไม่กี่วัน โทรทัศน์ทุกเครื่องในออฟฟิศ Cinelli เปิดถ่ายทอดสดการแข่งขันไว้ทั้งวัน พนักงานที่นี่เป็นนักปั่นจักรยานจริงจังทุกคน การออกไปปั่นจักรยานร่วมกันจึงเป็นเรื่องที่ทำกันอยู่เสมอ อีกทั้งยังเป็นการเอาสินค้าใหม่ไปลองเพื่อที่จะได้กลับมาช่วยกันออกความเห็นและปรับปรุงกันไป ส่วน Antonio และภรรยานั้น ชอบที่จะออกไปปั่นในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่บ้านพักตากอากาศที่อยู่นอกเมืองมิลาน ปั่นไปชมวิว ชิมไวน์ ทริปละเกือบ 50 กิโลเมตร กับจักรยาน Cinelli คู่ใจรุ่น Very best of

หลังจากอาหารกลางวันดิฉันได้มีโอกาสกลับมานั่งคุยกับ Antonio หลังจากที่ตั้งใจฟัง Fabrizio อยู่ครึ่งวันคราวนี้ดิฉันเข้าใจจักรยานมากขึ้น Antonio เล่าว่าไม่คิดเลยว่าจะมีแฟนคลับ Cinelli ที่เมืองไทยเยอะอย่างนี้ อีกทั้งบรรดาแฟนคลับก็รู้จัก Cinelli และรู้เรื่องจักรยานดีมาก รู้สึกประทับใจมากที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี เมื่อถามว่าแนวทางการออกแบบจักรยานของ Cinelli เป็นอย่างไร Antonio ให้คำตอบว่า เป็นความตั้งใจมาตั้งแต่ต้นหลังจากที่เข้ามารับช่วงกิจการต่อ ว่า Cinelli ต้องเป็นมากกว่าจักรยานที่มีสมรรถภาพสูง จึงพยายามมองหาสิ่งที่จักรยานเป็นมากกว่า พบว่าจักรยานเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในทุกๆ วัน ไม่ใช่จักรยานที่ใช้เพียงในการแข่งขันเท่านั้น ดังนั้น Cinelli จึงพยายามเข้าใจว่าผู้ใช้กำลังมองหาอะไร คนรุ่นใหม่ใช้่จักรยานในการแสดงออกถึงตัวตน และเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับสังคมทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม Cinelli ภายใต้การบริหารงานของ Antonio จึงมีกลิ่นอายของ Urban Culture เข้ามาเป็นส่วนสำคัญเสมอ

Antonio ทำงานร่วมกับศิลปินหลายแขนงในการสร้างสรรค์ผลงาน ชื่อรุ่นของจักรยานมักมีเรื่องราวของดนตรีเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ถึง Antonio จะปฏิเสธว่าตัวเองไม่ใช่เป็นศิลปิน แต่รอบๆ ตัวของเขาและออฟฟิศแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยงานศิลปะ ภาพเขียนบนผนัง หนังสือทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ทั้งสิ้น Antonio ยังเป็นเจ้าของ Art Gallery แห่งหนึ่งในมิลาน ซึ่งยังสวมบทบาท curator เองด้วย

ในงาน Eurobike ปีนี้ จะเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของจักรยานสำหรับการปั่นระยะไกล รุ่น Hobo ซึ่งผ่านการทดสอบจากการแข่งขัน Tour d’Afrique  ด้วยระยะทางกว่า 12,000 กิโลเมตร จากไคโรถึงเคปทาวน์ ซึ่งนักปั่นใช้เวลาร่วม 4 เดือนในการเดินทาง

การเข้าร่วม Tour d’Afrique ติดต่อกันสามปีที่่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงอีกด้านหนึ่งของ Cinelli ที่ให้ความสนใจในการคืนอะไรให้กับสังคม ระหว่างการปั่นครั้งน้ัน นักปั่นจะหยุดทำกิจกรรมกับชุมชนแต่ละแห่งที่เดินทางผ่าน และยังมีกฎสำคัญในการที่จะไม่รบกวนคน หรือทำลายสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นนั้นๆ ไม่ใช่เพียงให้ไปถึงจุดหมาย แต่มีการหยุดเพืี่อสัมผัสและเรียนรู้กับทุกสิ่งและผู้คนที่พบเจอตลอดเสันทาง

เมื่อจบการเดินทาง Cinelli ได้รวมเอาบันทึกการเดินทางมาจัดนิทรรศการอีกด้วย เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทาง Cinelli สร้าง awareness เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ Antonio เชื่อว่าจักรยานสามารถเปลี่ยนคุณภาพของคนให้ดีขึ้นได้ และขอขอบคุณนักปั่นทุกคนที่เสี่ยงอันตรายออกปั่นอยู่บนถนนในทั่วโลก เพราะนักปั่นเหล่านี้คือกลุ่มคนที่เป็นกำลังสำคัญในการช่วยโลกของเราอยู่ Cinelli หวังว่าจะสามารถผลิตจักรยานที่เป็นมิตรกับการเปลี่ยนคุณภาพชีวิตของสังคมวันนี้ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

มาถึงตรงนี้ต้องบอกว่า สมองและหัวใจของทีมงานของ Cinelli สร้างความประทับใจให้ดิฉันมาก ทีมงานที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่เป็นทีมที่มีความหลงใหลในจักรยานจริงๆ นี่คงเป็นเหตุผลสำคัญที่ Cinelli อยู่เคียงคู่กับวงการจักรยานมานานถึงทุกวันนี้

การมาเยี่ยม Cinelli วันนี้ทำให้เกิดแรงบันดาลใจให้อยากออกไปปั่นจักรยานอีกครั้ง ยอมรับว่าตกหลุมรัก Cinelli เข้าแล้ว

Antonio สัญญาว่าจะมาเมืองไทยให้ได้ปีละครั้ง และยังฝากของขวัญพร้อมลายเซ็นของเขาไปให้ผู้อ่าน Cycling Plus Thailand ใครที่อยากได้ของขวัญพิเศษที่ Antonio ไปจัดการหามาให้ เพราะว่าอยากให้เป็นของที่พิเศษจริงๆ ก็ต้องติดตามรายละเอียดกันได้ทางเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมของเรานะคะ

ก่อนกลับ Antonio ยังถามอีกทีว่า “ตกลงจะไม่แวะไปที่ Art Gallery จริงเหรอๆ” ฟังดูคุ้นๆ ตกลงคนที่ีคอมเมนต์ไว้ใน Instagram ของเราตอนแรกเป็น Antonio ใช่ไหมคะ? Antonio ยิ้มให้แล้วตอบ... ใช่่แล้ว ผมเอง

ขอบคุณบทความจาก : นิตยสาร Cycling Plus Thailand หน้าปก ก้อง สหรัถ สังคปรีชา