posttoday

วิธีคิดของคนรวย

07 ธันวาคม 2556

บทความ “5 Ways Rich People Think Differently From the Rest of Us” ของ Michele Lerner

โดย...เจียรนัย อุตะมะ

โสด

คนรวยคิดต่างจากคนธรรมดา

บทความ “5 Ways Rich People Think Differently From the Rest of Us” ของ Michele Lerner http://goo.gl/RHdg67 ที่สรุปต่อมาจากหนังสือ “How Rich People Think” ของ Steve Siebold ได้แยกแยะวิธีคิดที่แตกต่างของคนรวยกับคนทั่วไป

ผู้เขียนมีความเห็นว่า เหมาะสมสำหรับหนุ่มสาววัยทำงาน เพื่อเป็นแนวทางในการคิดในช่วงวัยที่ยังสามารถปรับตัวได้ดังนี้

ประการแรก คนทั่วไปเน้นการออม คนรวยเน้นสร้างรายได้

วิธีคิดของคนรวย

 

ในปี 2555 คนอเมริกันโดยเฉลี่ยมีรายได้ปีละ 3.8 หมื่นเหรียญสหรัฐ ถ้าออมได้ 10% สิ้นปีจะมีเงินเหลือ 3,800 เหรียญสหรัฐ แต่จะไม่รวยขึ้นจริงจังจากการทำแบบนั้น (ต้องหารายได้ให้มากขึ้น) ... ความจริงแล้วคนรวยก็ออม แต่เน้นที่การสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นก่อน ซึ่งสัดส่วนของเงินออมจะสูงขึ้นมาก (โดยเฉพาะถ้าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนที่น้อยลง)

ประการที่สอง คนทั่วไปมองการเริ่มธุรกิจส่วนตัวว่าเป็นความเสี่ยง แต่คนรวย (และคนที่มีโอกาสรวย) จะมองเป็นเส้นทางสู่ฐานะที่มั่งคั่ง คนทั่วไปมองเงินมองด้วยสมการเส้นตรง เช่น สมมติทำงานได้ชั่วโมงละ x เหรียญสหรัฐขึ้นไป แม้แต่ผู้ที่มีการศึกษาดี ก็คิดว่าการเรียนบริหารธุรกิจ จะช่วยให้ได้เงินมากขึ้น (เป็นการมองแบบเส้นตรงเช่นกัน คือ ให้เวลากับการเรียน เพื่อสุดท้ายจะเอาวุฒิไปต่อรองรายได้ให้มากขึ้น) ... ส่วนคนรวยจะมองที่แนวความคิด โดยเฉพาะแนวความคิดที่จะช่วยแก้ปัญหา (และตอบโจทย์ความต้องการ) ของผู้คนได้ และทำเงินจากเรื่องเหล่านี้ ... แต่ถึงกระนั้น คนรวยก็ไม่ได้กระโดดเข้าใส่ความคิดย่างไม่ลืมหูลืมตา เขาจะศึกษาความเสี่ยงอย่างดีก่อนที่จะลงมือทำ

ประการที่สาม คนทั่วไปมองเงินทองด้วยอารมณ์ แต่คนรวยจะมองด้วยเหตุผล คนทั่วไปมักจะกลัวที่จะขาดทุน/เสียเงิน เมื่อจะทำอะไรใหม่ แต่คนรวย (และมีโอกาสรวย) จะมองเงินว่าเป็นเครื่องมือที่นำมาซึ่งทางเลือกและโอกาส

ประการที่สี่ คนทั่วไปตั้งเป้าหมายอย่างเลื่อนลอย แถมยังผัดวันประกันพรุ่ง ส่วนคนรวยจะตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและยืดมั่นจริงจังกับเส้นตาย คนทั่วไปอาจลองทำอะไรหลายอย่างแบบสะเปะสะปะ แต่คนรวยจะจดจ่อจริงจังอยู่กับธุรกิจเพียงอย่างเดียวที่กำลังปลุกปั้นอยู่ในตอนนั้น และทำทุกทาง (ขอให้เป็นทางที่ชอบธรรม) เพื่อให้สำเร็จตามเวลาที่ตั้งใจไว้ (ถ้าทำงานแรกไม่สำเร็จซะที ยอมผัดไปเรื่อยๆ ก็จะปิดโอกาสในการเริ่มทำงานต่อ)

วิธีคิดของคนรวย

 

ประการที่ห้า คนทั่วไปใช้ชีวิตเกินฐานะที่แท้จริง แต่คนรวยใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะ ถึงจะมีคนรวยมากบางรายที่แสดงการใช้ชีวิตอย่างสุดหรู (ก็เหมาะสมกับฐานะ อาจจะต่ำกว่าฐานะจริงๆ ของเขาก็ได้ เช่น มีเงินพันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังนั่งชั้นเฟิสต์คลาส ซึ่งก็หรูแล้วสำหรับคนทั่วไป ส่วนอีกคนมีร้อยล้านเหรียญสหรัฐ ก็มีชีวิตความเป็นส่วนตัวแล้ว) ... แต่คนรวยโดยทั่วไป ใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะที่แท้จริง คนรวยส่วนใหญ่ (แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะจะเห็นแต่ชีวิตของคนรวยบางส่วนที่แสดงให้เห็นต่อสาธารณะ ส่วนคนรวยที่รวยเงียบ จะไม่มีโอกาสได้เห็น แต่ไม่ใช่ไม่มี) จะไม่ไหลไปตามกระแสวูบวาบ พวกเขาต้องการอิสระทางการเงิน และจะไม่เป็นทาสของสิ่งต่างหรือใคร

เกษียณ

เป็นนักธุรกิจเงินล้านอย่างไร

สำหรับคนในวัยใกล้เกษียณอาจมองหากิจการเป็นของตัวเอง ผู้เขียนขอยกงานวิจัยระดับโลกที่จัดทำโดย โธมัส สแตนลีย์ ที่สัมภาษณ์ “เศรษฐีข้างบ้าน” 1,100 คน พบว่า “คนที่รวยจริงๆ” อาจมีวิธีสร้างตัวแตกต่างกัน แต่กลับมีคุณลักษณะเหมือนกัน 7 ประการคื อ

ประการแรก เลือกอาชีพที่ ‘ใช่’

ประการแรก ความร่ำรวยมาจากลักษณะนิสัย มากกว่าประเภทธุรกิจที่เลือกทำ

ประการที่สอง มุ่งสร้างตัวด้วยสองมือ ไม่สนใจมรดกหรือการสนับสนุนจากพ่อแม่

80% ของ “เจ้าของเงินล้าน” สร้างเงินล้านด้วยมือเขาเอง น้อยคนที่จะพึ่งพาพ่อแม่หรือเฝ้ารอมรดก ยิ่งเริ่มต้นจากมือเปล่าก็ยิ่งแกร่ง ส่วนใหญ่สามารถยืนได้บนลำแข้งของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย

ประการที่สาม ทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ไปกับการวางแผนสร้างตัว

“เจ้าของเงินล้าน” มักใช้เวลาเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมงต่อเดือน กับการวางแผนชีวิต ขณะที่คนทั่วไปใช้เวลาคิดแต่เรื่องหาความสุข

ประการที่สี่ ให้ความสำคัญกับอิสรภาพทางการเงินมากกว่าสถานะทางสังคม

“เจ้าของเงินล้าน” ตัวจริงชอบใช้ชีวิตแบบชนชั้นกลาง อยู่ในบ้านขนาดพอสบาย ขับรถยี่ห้อทั่วๆ ไปที่ใช้งานได้ดี พวกเขาไม่ชอบแข่งขันเอาหน้ากับใคร จึงไม่ต้องมีหนี้ก้อนใหญ่ไว้คอยฉุดดึงชีวิต

ประการที่ห้า ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล

คนส่วนใหญ่ถึงทำงานหนัก กระเป๋าหนัก แต่มักใช้จ่ายหนักด้วย จึงไม่รวย ตรงกันข้ามกับ “เจ้าของเงินล้าน” ที่ทั้งทำงานหนัก กระเป๋าหนัก แต่คิดหนักด้วยเมื่อใช้จ่าย

เป็นนักฟุตบอลกองหน้าที่มุ่งแต่จะทำเกมจนเสียประตู แต่คนรวยพวกนี้ให้ความสำคัญกับการรักษาประตูเท่าๆ กับการทำเกม

ประการที่หก มุ่งมองหาสิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอ

“เจ้าของเงินล้าน” ไม่ชอบลงทุนกับสิ่งไร้สาระ แต่จะลงทุนกับนวัตกรรมใหม่ ที่จะทำให้เขาร่ำรวยขึ้น พวกเขาสนใจเรื่องหลากหลาย ตลาดใหม่ ซอฟต์แวร์ดี คำแนะนำเรื่องภาษี กฎหมาย เทคโนโลยี ข่าวสาร การศึกษา ฯลฯ สิ่งใดที่ทำให้ชีวิตเขาพัฒนาเขาก็พร้อมจะลงทุน

ประการที่เจ็ด ให้ลูกหลานพึ่งพาตัวเอง

อย่าให้ลูกหลานมาผลาญเงินเราได้ ต้องสอนให้ลูกหลานหัดทำมาหากินด้วยลำแข้งตัวเอง